สั่งประหาร4มือยิงเอ็ม79
ถล่มกปปส.บิ๊กซีราชดำริ
คดีสลดใจเด็ก2พี่น้องดับ
สารภาพจำคุกตลอดชีวิต
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 4 กันยายน ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง นัดอ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้น คดีหมายเลขดำ อ.3734/2557 พนักงานอัยการ ฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายชัชวาล หรือ ชัช ปราบบำรุง อายุ45 ปี นายสมศรี มาฤทธิ์ อายุ 40 ปี นายสุนทร ผิผ่วนนอก อายุ49 ปี และนายทวีชัย วิชาคำ อายุ39 ปี จำเลยที่1, 2, 3และ4 ตามลำดับ ในความผิดต่อชีวิต ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกัน พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ทำร้ายร่างกาย พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ และความผิดตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548
พฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2557ซึ่งเป็นระยะเวลาที่พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงได้ออกประกาศศูนย์รักษาความสงบ ฉบับที่ 2/2557 ตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ม.11 มีผลใช้บังคับอยู่ จำเลยทั้งสี่ กับพวกอีก3 คนที่หลบหนีอยู่ ได้ร่วมกัน มีเครื่องยิงลูกกระสุนระเบิดเอ็ม79 ลูกระเบิดยิงชนิดระเบิดสังหาร(HE) ขนาด 40 มล.โดยไม่ได้รับใบอนุญาต ติดตัวไป ที่บริเวณสะพานข้ามแยกประตูน้ำ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี
นอกจากนี้ จำเลยทั้งสี่กับพวก มีเจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ได้ร่วมกันใช้เครื่องยิงลูกกระสุนระเบิดดังกล่าวยิงไปยังกลุ่ม คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส.ที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ต่อเนื่องมาถึงหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน ระหว่างพื้นที่ชุมนุม เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บสาหัส 9ราย และมีผู้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจอีก12ราย
ทั้งนี้ สำหรับผู้เสียชีวิต 3 คนนั้น 2 คน เป็นเด็ก คือ ด.ญ.พัชรากร ยศอุบล (น้องเค้ก) อายุ 6 ขวบ และ ด.ช.กรวิชญ์ ยศอุบล (น้องเคน) อายุ 5 ขวบ
คดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2557 และ ได้ตั้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ใช้วัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่ได้ออกให้ และ ข้อหาอื่นๆรวม8 ข้อหา โดยพนักงานสอบสวน ได้คัดค้านการให้ประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำให้การและหลักฐานที่จำเลยได้นำมาอ้าง ไม่สามารถหักล้างกับหลักฐานที่โจทก์นำมาใช้ อีกทั้งมีตำรวจชั้นผู้ใหญ่เบิกความสอดคล้องกับพยานหลักฐานในกล้องวงจรปิดที่ประตูน้ำปรากฏภาพ จำเลยขับรถยนต์4 คัน ยิงลูกระเบิดลงมาจากสะพานใส่ที่เกิดเหตุและได้กระทำผิดจริง ศาลจึงได้มีคำพิพากษาประหารชีวิตจำเลยทั้ง 4 คนแต่เนื่องจากจำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาจึงลดโทษให้1ใน3 เหลือจำคุกตลอดชีวิต และให้ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้บาดเจ็บ 534,700 บาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี