วันที่ 15 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สภ.เมืองอุดรธานี ทนายโนบิและเฮียเปี๊ยกช่วยด้วย ได้พาผู้เสียหายถูกหลอกซื้อคอร์สความงามจากคลินิคเวชกรรมชื่อดังและเปิดในห้างด้วย เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อปรึกษาเรื่องคดีและร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบคลนิคดังกล่าว หากมีความผิด อาจจะแจ้งความดำเนินคดีกับคลินิคแห่งนี้ฐานฉ้อโกงประชาชน หลอกลวงประชาชน โดยมีผู้เสียหายที่เป็นหญิงสาวรักสวยรักงาม นำเอกสารใบเสร็จที่จ่ายค่าซื้อคอร์สความงามจากคลีนิคเวชกรรมชื่อดัง แต่ละคอร์ส 5,000 10,000 เป็นแสนก็มี โดยผู้เสียหายอ้างว่า จ่ายค่าคอร์สเสริมความงามไปแล้ว แต่การบริการไม่ใช่อย่างเงินที่จ่ายไป ไม่ตรงสเป๊ก
โดยผู้เสียหายแจ้งกับ ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ว่า คลินิกความงามดังกล่าวเปิดในห้างดังกลางเมืองจ.อุดรธานี มีการจัดกิจกรรมเอาดารา นักร้อง มาแสดงและคลิกนิกแอบแฝงชักชวนหลอกให้ประชาชนเข้าไปหลงซื้อคอร์สจนเสียเงินไปจำนวนหลายล้านบาท โดนทุกเพศทุกวัย แต่พอใช้บริการจริงกับพบว่าผู้ให้บริการและผู้ที่ทำหัตถการไม่ใช่แพทย์ที่ได้รับใบอนุญาตประจำคลินิก และยังพบพฤติการณ์มีการสลับสับเปลี่ยนบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นแพทย์หรือดร.แพทย์เข้ามาทำหน้าให้ลูกค้าไม่ซ้ำคน ไม่รู้ว่าเป็นแพทย์จริงหรือไม่
บางอันพนักงานก็เป็นคนทำเอง ลูกค้าบางคนแพ้ถึงขั้นเป็นผื่นแดง แต่คลิกนิกกลับไม่สนใจรับผิดชอบ ราคาคอร์สที่ตัดเงินลูกค้าก็สูงกว่าคลินิกอื่น ผลิตภัณฑ์บางตัวที่อ้างว่ามี ก่อนที่จะทำการซื้อคอร์ส เมื่อไปใช้บริการจริงกลับพบไม่มีเครื่องชนิดนั้น ลูกค้าขอตรวจสอบตัวยาและผลิตภัณฑ์ก็ไม่ได้ นำซ้ำคนที่ผสมยากับเป็นพนักงานไม่ใช่แพทย์
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจ.อุดรธานีเข้าไปตรวจสอบคลินิคดังกล่าว พบคนดูแลและยังเปิดให้บริการตามปกติ คนดูแลฯ มีสีหน้าตกใจเล็กน้อยเมื่อเจอเจ้าหน้าที่ จากนั้นทนายโนบิได้พาผู้เสียหายไปพูดคุยกับคนดูแล เกิดมีอาการโต้เถียงกันขึ้นเล็กน้อย
เมื่อผู้เสียหายคนหนึ่งชื่อน.ส.มี่ อายุ 50 ปี บอกว่า ทางคลินิกหลอกให้เราซื้อคอร์สความงาม แต่การบริการเสริมความงามไม่ใช่อย่างที่คิด ทำแบบนี่ได้ไง เครื่องที่อ้างว่ามาทำเสริมความงามจากเยอรมันเครื่องละ 400,000 บาทดูแล้วไม่ใช่เครื่องอย่างที่ว่า เครื่องสกปรกมาก ฉันต้องสูญเงินไปถึง 1.4 ล้านบาท
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ฯ ได้ตรวจสอบคลินิคเสริมความงามดังกล่าวกับชื่อของบริษัทที่ให้ลูกค้าโอนเงินค่าซื้อคอร์สความงาม ไม่ตรงกัน และพบว่ามีเงินหมุนเวียนที่ลูกค้าโอนไปยังบัญชีม้าคลินิกดังกล่าวมากถึง 50 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ฯ จะได้ตรวจสอบอีกครั้ง
ล่าสุดมีรายงานว่า ทางสำนักงานสาธารณสุขจ.อุดรธานี ได้มีคำสั่งให้ปิดคลินิกดังกล่าวแล้ว ฐานฝ่าฝืนพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 มาตรา 35 (1) มีโทษตามมาตรา 65 ต้องระวางโทษไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
น.ส.เอมี่ อายุ 50 ปี บอกว่า ตนเองอยู่ต่างประเทศ กลับบ้านที่อุดรไปเดินห้างก็เจอพนักงานของคลินิคดังกล่าวเสนอขายคอร์สให้ ประกอบกับตนเองต้องการ “อัลเธอร่า เธอมาท ฉีดแฟตทำหน้าเรียว” จึงสอบถามพนักงาน เขาก็บอกว่ามี เชิญเราไปพูดคุยด้วย
ทางพนักงานบอกว่าช่วงนี้เป็นช่วงโปรโมชั่นจ่ายเงินเสมือนเป็นเจ้าของร้านด้วย ทางคลินิกยังอ้างมีหมอระดับดร.มาดูแลด้วย แต่ตนเองไม่เคยเห็นดร.เสียที สุดท้ายตนเองก็ยอมจ่ายเงินไปรวม 10 ครั้งเป็นเงิน 1,400,000 บาท แต่การบริการไม่ใช่อย่างที่โฆษณาเลย จึงมากับผุ้เสียหายหลายคนนี้วันนี้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ฯ ตรวจสอบคลินิกดังกล่าว หากฉ้อโกงจริงไม่อยากให้ไปหลอกคนอื่นอีก แถมยังเปิดอยู่ห้างดังความน่าเชื่อถือมีมากด้วยจะทำให้คนหลงเชื่อสูญเงินไปเปล่าๆ
ทั้งนี้ ทางพ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายซื้อคอร์สความงาม ได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ามีการใช้บัญชีม้าในการรับเงินกว่า 4 บริษัท มีเงินหมุนเวียนในบัญชีม้าไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท อยู่ระหว่างการขยายผล ทั้งที่บริษัทฯ เพิ่งเปิดได้ไม่ถึง 1 ปี เส้นเงินพบว่ามีความสัมพันธ์เชื่อมโยงหลายคลินิกฯ ที่เปิดให้บริการในกรุงเทพฯ หลายแห่ง และมีพฤติกรรมในการจัดกิจกรรมเอาดารานักร้องมาอ้างแล้วชักชวนขายคอร์ดเช่นเดียวกันกับอุดร อาจจะเข้าข่ายหลอกลวงประชาชนเพื่อขอให้หากตรวจสอบพบก็จะดำเนินคดีตามกฏหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
ทางด้านนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า หลังรับเรื่องราวร้องทุกข์จากเฮียเปี๊ยก และทนายโนบิ ได้พาผู้เสียหายร้องทุกข์ กรณีอ้างว่าถูกคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี หลอกขายคอร์สเสริมความงาม แต่เมื่อเข้ารับบริการกลับไม่เป็นไม่ได้รับบริการเหมือนที่กล่าวอ้าง ร้องขอให้ตรวจสอบการประกอบธุรกิจของคลินิก ตลอดจนแพทย์ที่แขวนป้ายได้มีการร่วมตรวจจริงหรือไม่ ยาที่นำมาใช้ในคลินิก การโฆษณาเกินจริง และค่าบริการที่สูงเกินจริง จึงได้มอบหมายให้ นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 8 พร้อมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค สร้างความมั่นใจให้แก่พี่น้องประชาชน ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อสงสัยในการให้บริการของสถานพยาบาลและคลินิก ประชาชนสามารถติดต่อที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี