วันอาทิตย์ ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
ปัญหาเกษตร ที่นีมีคำตอบ : ดินเค็ม การสังเกตและการปรับปรุง

ปัญหาเกษตร ที่นีมีคำตอบ : ดินเค็ม การสังเกตและการปรับปรุง

วันอังคาร ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2558, 06.00 น.
Tag :
  •  

คำถาม อยากทราบวิธีสังเกตว่าดินเป็นดินเค็ม และจะมีวิธีแก้ไขอย่างไรครับ

สุทธิรัตน์ เพียงอุดม

อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด

 


คำตอบ ดินเค็ม เป็นดินที่มีปริมาณเกลือที่ละลายน้ำได้มากพอที่จะทำอันตรายต่อพืชที่จะนำไปปลูก

วิธีการสังเกตพื้นที่ดินเค็ม โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

1.สังเกตเห็นขุยเกลือขึ้นตามผิวดินในฤดูแล้ง หรือถ้าไม่เห็นขุยเกลือขึ้น ก็จะเป็นที่ว่างเปล่าไม่มีพืชอื่นขึ้นได้ ถ้าเป็นฤดูฝนขุยเกลือจะถูกน้ำละลาย ไม่สามารถสังเกตเห็นได้

2.พืชพรรณธรรมชาติ จะพบวัชพืชทนเค็ม เช่น หนามแดง หนามปี หนามคอม และหญ้าขี้กราก เป็นต้น

3.บริเวณที่ใช้ปลูกข้าว สังเกตได้จากอาการของต้นข้าวในพื้นที่ดินเค็ม จะมีการเจริญเติบโตไม่สม่ำเสมอกัน ต้นแคระแกร็น ไม่แตกกอ ใบแสดงอาการซีดขาว แล้วไหม้ตายไปในที่สุด ปกติแล้ว จะพบข้าวตายเป็นหย่อม

การแบ่งพื้นที่ดินเค็มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แบ่งได้ 4 พื้นที่ คือ

1.ดินเค็มมาก เป็นบริเวณที่พบคราบเกลือตามผิวดิน กระจัดกระจายอยู่ทั่วไปเป็นปริมาณมากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่ส่วนใหญ่ พื้นที่นี้จะปลูกพืชไม่ค่อยได้ผล มักปล่อยทิ้งร้าง การปรับปรุงแก้ไขต้องลงทุนสูง

2.ดินเค็มปานกลาง เป็นบริเวณที่พบคราบเกลือกระจัดกระจายตามผิวดิน เป็นปริมาณ 1ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่ พื้นที่พอจะปลูกพืชได้ผลผลิตต่ำ

3.ดินเค็มน้อย เป็นบริเวณที่พบคราบเกลือกระจัดตามผิวดิน ประมาณน้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ น้ำใต้ดินเป็นน้ำกร่อย หรือน้ำเค็ม แต่จะลึกมากกว่า 2 เมตร จากผิวดิน บริเวณนี้ส่วนใหญ่ใช้ทำนา

4.พื้นที่ที่มีศักยภาพในการแพร่กระจายดินเค็ม เป็นบริเวณที่เป็นที่ดินที่เนิน มีการปลูกพืชไร่อยู่ ปัจจุบันจะไม่พบคราบเกลือตามผิวดิน แต่ภายใต้ดินมีดินมีหินเกลืออยู่ เมื่อมีฝนตกน้ำจากผิวดิน จะซึมผ่านชั้นหินเกลือ จะได้น้ำเค็ม ซึ่งจะไหลผ่านชั้นใต้ดินออกสู่ที่ลุ่มถัดไป

การจัดการดินเค็มภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อปลูกพืชไร่และพืชสวน หลังการทำนาในเขตชลประทาน หรือบริเวณที่ใกล้แหล่งน้ำ เกษตรกรสามารถปลูกพืชไร่หรือพืชสวนในพื้นที่ดินเค็มได้ ก่อนปลูกพืชไร่หรือพืชสวนในดินเค็ม ควรทำการปรับปรุงดินเสียก่อน ซึ่งสามารถทำได้ดังนี้

1.การไถลึก ช่วยให้เกลือที่อยู่ในดินถูกชะล้างพ้นบริเวณรากพืชลงไป โดยทั่วไปจะไถลึก ประมาณ 40-50 เซนติเมตร(ขึ้นกับความลึกของชั้นดิน) เมื่อไถเสร็จ ควรปรับระดับพื้นที่

2.การทำให้ดินล่างแตกแยก โดยใช้ไถบุกเบิก หรือไถดินดานติดท้ายแทรกเตอร์ ให้ไถแต่ละอันห่างกัน ประมาณ 50-90 เซนติเมตร เมื่อลากไปแล้ว ทำให้เกิดร่องช่วยให้น้ำซึมลงได้สะดวก

3.การใช้สารเคมี โดยใช้ยิปซั่มคลุกเคล้ากับดินที่เป็นด่าง เพื่อช่วยสะเทินความเป็นด่าง แล้วใช้น้ำชะล้างเกลือโซเดียมออกนอกพื้นที่

4.การชะล้างเกลือจากดิน เพื่อลดปริมาณเกลือในดิน โดยการชะล้างเกลือที่สะสมในดินด้วยน้ำ และระบายน้ำที่ชะล้างเกลือนั้นออกไปจากพื้นที่ โดยไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม

การล้างดิน ทำได้ดังนี้ ให้กำจัดวัชพืชที่ขึ้นอยู่เสียก่อน ปรับผิวหน้าดินให้เรียบ ไถดินลึกมากกว่า 30 เซนติเมตร ทลายดินล่างให้เป็นร่อง แล้วปรับระดับดิน แบ่งแปลง ขนาดแปลงย่อย 1-5 ไร่ แต่ละแปลงมีคันดินกั้นโดยรอบทดน้ำเข้าแปลง ครั้งละ 250-300 ลูกบาศก์เมตร/ไร่ ค่อยๆ ไขน้ำเข้า อย่าใช้หมดเพียงครั้งเดียว น้ำจะซึมซาบลงดิน ละลายเกลือในดินและชะล้างลงสู่ดินล่าง ไขน้ำเข้าไปเพิ่มอีก250-300 ลูกบาศก์เมตร/ไร่ ทุก 2-3 วัน ให้สังเกตว่าน้ำที่มีอยู่เดิมได้ซึมซาบลงไปแล้ว และตรวจสอบความเข้มข้นของเกลือที่ระบายออกมา

นาย รัตวิ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • อ.ต.ก.เปิดตลาดเกษตรไทยในฟิลิปปินส์ เสริมแกร่งสินค้าเกษตรมูลค่าสูงสู่เวทีโลก อ.ต.ก.เปิดตลาดเกษตรไทยในฟิลิปปินส์ เสริมแกร่งสินค้าเกษตรมูลค่าสูงสู่เวทีโลก
  • กรมวิชาการเกษตร เผย\'นฤมล\'สั่งระงับน้ำยางข้นนำเข้าจากต่างประเทศแล้ว กรมวิชาการเกษตร เผย'นฤมล'สั่งระงับน้ำยางข้นนำเข้าจากต่างประเทศแล้ว
  • 62 ปีกรมพัฒนาที่ดินมุ่งขับเคลื่อนการเกษตรไทย 62 ปีกรมพัฒนาที่ดินมุ่งขับเคลื่อนการเกษตรไทย
  • \'นฤมล\'เผย\'มหกรรมพืชสวนโลก\' จ.อุดรธานี เงินสะพัดกว่า 3.2 หมื่นล้าน มั่นใจเสร็จทันตามเวลา 'นฤมล'เผย'มหกรรมพืชสวนโลก' จ.อุดรธานี เงินสะพัดกว่า 3.2 หมื่นล้าน มั่นใจเสร็จทันตามเวลา
  • กรมพัฒนาที่ดิน ครบรอบ 62 ปี โชว์นวัตกรรม ‘ดิน’ ขับเคลื่อนเกษตรไทยสู่ความยั่งยืน กรมพัฒนาที่ดิน ครบรอบ 62 ปี โชว์นวัตกรรม ‘ดิน’ ขับเคลื่อนเกษตรไทยสู่ความยั่งยืน
  • ก.เกษตรฯพร้อมรับมือสาธารณภัยช่วงฤดูฝน ก.เกษตรฯพร้อมรับมือสาธารณภัยช่วงฤดูฝน
  •  

Breaking News

‘น้าแอ๊ด’ปล่อยเพลง ประกาศลั่นอย่าทะลึ่งผุด‘กาสิโน-พนันออนไลน์’นะโว้ย...ไอ้เห้!

เปิดสัญญาจีทูจี! ‘หมอวรงค์’เบิกเนตร‘ยิ่งลักษณ์กับปชช.’ ใครกันแน่ไม่ได้รับความเป็นธรรม

สธ.เฝ้าระวังหลังพบ‘สารหนู’ปนเปื้อน‘น้ำผิวดิน’แม่น้ำกก-แม่น้ำสาย-แม่น้ำโขง

เปิด 5 อันดับ ‘จังหวัดใต้’โกยรายได้มากสุดช่วงเดือนม.ค.-เม.ย.68

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved