วันพุธ ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
แตกใบอ่อน : อย่าแค่หว่านเงิน

แตกใบอ่อน : อย่าแค่หว่านเงิน

วันพฤหัสบดี ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558, 06.00 น.
Tag :
  •  

สัปดาห์ที่ผ่านมามีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับตัวเลข “หนี้สิน” ครัวเรือนภาคการเกษตร ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงภาวะอันน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งของอนาคตเกษตรกรไทย หากรัฐบาลหรือกระทรวงเกษตรฯยังคงไม่ปรับกระบวนการทำงานเชิงรุกให้เข้มข้นยิ่งกว่าเดิม

ชิ้นแรกเป็นผลการสำรวจภาวะสังคมไทยในไตรมาสที่ 3 ของปี 2558 ซึ่งจัดทำโดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
(สศช.) หรือ “สภาพัฒน์” โดยผลปรากฏว่า ภาวะการมีงานทำของคนไทยลดลง0.2% เนื่องจากการจ้างงานในภาคการเกษตรลดลงต่อเนื่อง 3.8% ซึ่งเป็นผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ที่ทำให้แรงงานภาคการเกษตรต้องเคลื่อนย้ายไปหางานอื่นทำ และยังส่งผลให้แนวโน้มอัตราการว่างงานของภาคการเกษตรในไตรมาสที่ 4 อาจเพิ่มขึ้น


นอกจากนี้ยังมีผลกระทบเป็นลูกโซ่ตามมาถึงประเด็นเรื่อง “หนี้สินครัวเรือน” ของภาคการเกษตร ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องติดตามจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า ที่ ณ นาทีนี้ ปัญหาดังกล่าวยังไม่ปะทุรุนแรงขึ้นมา เนื่องจากได้สารพัดมาตรการเร่งด่วนของรัฐบาลที่พยายามเข็นออกมาบรรเทาผลกระทบ เช่น การชดเชยรายได้จากภัยแล้ง การช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ทำให้ “ฝี” ยังไม่แตก แต่นั่นก็ไม่ได้ยังไม่มีใครกล้าให้คำตอบได้ว่า ในอนาคต“ฝีหนอง” ที่เกิดขึ้นจะหายไปหรือ “กลัดหนอง” มากขึ้นกว่าเดิม

รายงานอีกชิ้น ที่ถือว่าน่าสนใจไม่แพ้กัน คือ ผลการศึกษาภาวะหนี้สินเกษตรกรและแนวทางการปรับปรุงศักยภาพการดำเนินงานกองทุนที่อยู่ในกำกับดูแลของกระทรวงเกษตรฯ ซึ่ง“สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร” (สศก.) ได้ว่าจ้างให้ “สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย” (TDRI) เป็นผู้ทำการศึกษา ซึ่งพบว่า ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นแหล่งเงินกู้ยืมที่สำคัญที่สุดของภาคการเกษตรไทย โดยในปี 2557 มียอดเงินลูกหนี้คงเหลือสูงสุดคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 63 รองลงมาเป็น ธนาคารพาณิชย์ สหกรณ์การเกษตร กองทุนต่างๆ ในกำกับของกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งสาเหตุสำคัญของการก่อหนี้และความยากจนของเกษตรกร คือ เกษตรกรเข้าไม่ถึงแหล่งความรู้และการพัฒนาทักษะ อีกทั้งไม่มีความสามารถในการจัดการความเสี่ยงด้านการผลิต

ขณะที่แนวทางแก้ไข TDRI เสนอว่า การดำเนินโครงการต่างๆ ของภาครัฐจะต้องพัฒนาและใช้ระบบการคัดเลือกเกษตรกรที่ดี มีการวางกรอบในการพัฒนาฐานข้อมูล และจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ รวมถึงวางระบบติดตามที่เน้นการประเมินผลลัพธ์ และสิ่งสำคัญ คือ ไม่ควรเน้นให้ความช่วยเหลือด้วยการเติมเงินหรือใช้เงินเป็นตัวตั้ง แต่ควรสร้างวินัยทางการเงินและฟื้นฟูอาชีพให้กับเกษตรกรอย่างเป็นระบบ

ข้อมูลสำคัญที่รายงานฉบับนี้กล่าวถึง คือ ในเรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้สิน แม้กระทรวงเกษตรฯจะมีโครงการช่วยเหลือเกษตรกรเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และลดปัญหาความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคมในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินจากกองทุนภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงเกษตรฯ แต่ที่ผ่านมาก็ยังพบว่า เกษตรกรยังคงมีหนี้สินค้างชำระกองทุนเป็นจำนวนมาก

เนื่องจากกองทุนไปเน้นให้ความสำคัญการอุดหนุนเงิน มากกว่าการพัฒนาศักยภาพและอาชีพ ซึ่งไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ส่งผลให้เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้

ผลที่ออกมา จึงสะท้อนให้เห็นว่าในอนาคตต่อไปนี้ หากรัฐบาลและกระทรวงเกษตรฯ ต้องการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรให้ได้อย่างจริงจังและเห็นผล แนวทางหนึ่งที่เลี่ยงไม่พ้น คือ การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของหน่วยงานภายใน และการใช้งบประมาณของกองทุนต่างๆ

การหว่านเงินลงไปเพื่อแก้ไขปัญหานั้น ทำได้ครับ แต่ก็ได้ผลเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น หากต้องการผลสัมฤทธิ์ระยะยาว ยังจำเป็นต้องมีการดำเนินการอื่นๆ ควบคู่กันไปด้วย

ผลการศึกษามีแล้ว แนวความคิดมีแล้ว เหลือก็แต่นำไปปฏิบัติให้จริงจัง ก็น่าจะช่วยทำให้ความหนักหน่วงของปัญหาลดทอนลงไปได้เยอะทีเดียว

มะลิิลา
 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • พีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร มองความท้าทายภาคเกษตรยุคใหม่ พีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร มองความท้าทายภาคเกษตรยุคใหม่
  • ชาวนาเฮ! กษ.อัดงบ 39 ล้านบาท แจกไร่ละ 1000 บาท ช่วยชาวนา-ปรับพื้นที่ปลูกข้าว ชาวนาเฮ! กษ.อัดงบ 39 ล้านบาท แจกไร่ละ 1000 บาท ช่วยชาวนา-ปรับพื้นที่ปลูกข้าว
  • กรมประมงจับลักลอบนำเข้าปลากระพงกว่า7ตัน กรมประมงจับลักลอบนำเข้าปลากระพงกว่า7ตัน
  • \'นฤมล\'ต้อนรับ รมต.ทรัพยากรน้ำฯ เนเธอร์แลนด์ ผนึกกำลังเสริมแกร่งระบบจัดการน้ำให้ยั่งยืน 'นฤมล'ต้อนรับ รมต.ทรัพยากรน้ำฯ เนเธอร์แลนด์ ผนึกกำลังเสริมแกร่งระบบจัดการน้ำให้ยั่งยืน
  • เปิด 4 พิกัด‘น้ำปลา ตราหับเผย’ พลังความร่วมมือ สร้างโอกาสจากปลาหมอคางดำ เปิด 4 พิกัด‘น้ำปลา ตราหับเผย’ พลังความร่วมมือ สร้างโอกาสจากปลาหมอคางดำ
  • พลิกโฉมเมืองด้วยการจัดรูปที่ดิน ความร่วมมือรัฐ – ท้องถิ่น - ประชาชนขับเคลื่อนโครงการพัฒนาเมืองน่านสู่อนาคต พลิกโฉมเมืองด้วยการจัดรูปที่ดิน ความร่วมมือรัฐ – ท้องถิ่น - ประชาชนขับเคลื่อนโครงการพัฒนาเมืองน่านสู่อนาคต
  •  

Breaking News

เผชิญหน้าครั้งแรก! 'ฟิล์ม-ดีเจแมน'นัดไกล่เกลี่ยคดีหมิ่นประมาทฯ ปมเรียกเงิน 14 ล้าน

ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันพุธ 2​ กรกฎาคม 2568

'แอ๊ด คาราบาว'ฟันธง! ถ้าเพื่อไทยดันทุรังสร้างกาสิโน 'พรรค-ตระกูลเจ้าปัญหา'สาปสูญแน่

ลุงพลาดท่าถูกหลานชายป่วยทางจิตกระทืบดับ หลังทะเลาะกันในวงเหล้า

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved