สกู๊ปพิเศษ : กงสุลจีนนำสื่อมวลชนเชียงใหม่เยือน “ปักกิ่ง กว่างโจว เซินเจิ้น”

โชว์ภาพลักษณ์ของประเทศจีน-การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว

เนื่องในโอกาสครบรอบ 40 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน นายเฉา เสี่ยวเหลียง (Chao Xiaoliang) กงสุลใหญ่แห่งสาธารณะรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ ได้มอบหมายให้นาย หวาง ซิ่วเซิ่ง (Wang Xiusheng) รองกงสุลใหญ่ นำคณะสื่อมวลชนเชียงใหม่ ซึ่งนำทีมโดย นางดวงมาลย์ ศรีกิจวิไลกุล ผอ.สปข.3 เยี่ยมเยือน ปักกิ่ง กว่างโจ เซินเจิ้น ระหว่างวันที่ 8 – 13 พ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อให้สื่อมวลชนไทยได้รับรู้ภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศจีน ที่เกิดจากการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว  และส่งเสริมความร่วมมือรอบด้านระหว่างจีน-ไทย เพื่ออำนวยผลประโยชน์แก่ประชาชนทั้งสอง ซึ่งนับวันได้มีการไปมาหาสู่กันมากขึ้น ซึ่งประเทศจีนได้มีการพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว

เช่น ถนนในปักกิ่งและเมืองต่างๆ จะมีสวนสาธารณะตรงกลางและริม กว้างเท่ากับถนน มีสวนหย่อมพร้อมทั้งลานเพื่อให้ประชาชนมาออกกำลังกายได้มีฟุตบาทที่กว้าง ทำให้การเดินทางสะดวกในระยะใกล้โดยไม่ต้องใช้รถยนต์ ไม่มีหาบแร่แผงลอยมาขาย เกะกะทางเท้า ทำให้ดูดีมีระเบียบเรียบร้อย มีรถเมล์ไฟฟ้าปริการประชาชนส่วนผู้ที่ไม่ใช้รถยนต์ก็จะใช้จักรยานยนต์ไฟฟ้าทั้งนั้น วันแรกที่คณะเรามาถึงสิ่งที่พลาดไม่ได้ก็คือชมการแสดงกายกรรมเฉาหยางที่โรงละคร Chaoyang ที่ตื่นเต้นเร้าใจ สมกับเป็นวัฒนธรรมแห่งชาติชั้นสูงของจีน

ต่อด้วยการขึ้นไปชมกำแพงเมืองจีนบนความสูงเกือบพันเมตรซึ่งเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่มนุษย์ยุดก่อนสร้างไว้ให้เราได้มาดู โดยเฉพาะ จัตุรัสเทียนอันเหมิน ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกสามารถจุคนได้ถึง 2ล้านคนเป็นสัญลักษณ์ของประเทศจีนยุคใหม่....และหอฟ้าเทียนถาน สร้างเมื่อปี ค.ศ.1420 เป็นสถานซึ่งจักพรรดิแห่งราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ใช้เป็นที่ประกอบพิธีไหว้ฟ้าเพื่อขอให้ฝนตกตามฤดูกาล

การมาปักกิ่งครั้งนี้คณะเราได้พบกับ Mr.Tang Lui ที่ปรึกษากรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้บรรยายสรุปและตอบข้อซักถามสื่อมวลชน ประเด็นนโยบายสำคัญของจีน ด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการปรับตัวทำงานของสื่อจีน เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของประชาชน ในยุคใหม่ หลังจากนั้นเดินทางกันต่อไปยังนครกว่างโจว เยี่ยมชมมหาวิทยาลัยภาษาและการค้าต่างประเทศกวางตุ้ง เป็นศูนย์สาธิตการศึกษาสำหรับนักศึกษาต่างชาติชุดแรก 1 ใน 38 แห่งของสถาบันอุดมศึกษาจากกระทรวงศึกษาธิการของประเทศจีน มีนักศึกษาชาวจีนที่เลือกเรียนวิชาภาษาไทยครบถ้วน ทั้งฟังพูดอ่านเขียน ในคณะภาษาและวัฒนธรรมตะวันออก นอกจากเรียนเพราะอยากรู้สนใจวัฒนธรรมแนวคิดที่แตกต่าง คือ คนไทยใจเย็น มีอัธยาศัยไมตรี และมีหนังไทยไปฉายที่ประเทศจีนด้วย จึงทำให้วัยรุ่นชาวจีนอยากเข้าใจภาษาไทยมากขึ้น

โดยเฉพาะการรำไทย นักศึกษาที่นี่รำได้ดีเทียบเท่ากับคนไทย ต่อจากที่นี่เราก็เดินทางไปดูบริษัทผลิตหนังสือพิมพ์ยักใหญ่ หนานฟาง หรือ หนังสือพิมพ์ภาคใต้ของจีน ใช้สื่อหลายๆแบบผสมผสานกันแต่การจะทำให้อยู่รอดสื่อต้องรักษาความน่าเชื่อถือ รวดเร็ว บนฐานความซื่อสัตย์เป็นกลางและมีจรรยาบรรณ  เมื่อเสร็จจากที่นี่ไปต่อกันที่ กว่างโจว Canton Tower ซึ่งเป็นหอคอยที่สูงที่สุดในนครกว่างโจว มีทางเดินรอบข้างและร้านอาหารอยู่ข้างบนนี้ด้วย

ส่วนรุ่งเช้าไปดู ตลาดขายส่งผลไม้และผักเจียงหนาน ที่นี่นำผลไม้จากไทยเข้าไปจำหน่าย โดยเฉพาะทุเรียนเป็นที่นิยมของคนจีนเป็นอันดับ 1 พร้อมด้วย ลำไย มังคุด เป็นจำนวนมากแต่ก็ยังไม่พอความต้องการของคนจีน เสร็จสิ้นภารกิจที่เมืองกว่างโจว เราก็เดินทางโดยรถไฟความเร็วสูง300กว่ากิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ไปยังเมือง เซินเจิ้น เพื่อดูเขตการค้าเสรีเฉียนไห่ ซึ่งที่นี่มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทำให้พื้นที่ว่างมีน้อย จึงต้องสร้างอาคารสูงเป็นส่วนใหญ่ตลอด6วันที่มาเยือน ปักกิ่ กว่างโจว เซินเจิ้น เราได้เห็นการพัฒนาที่ทำให้ประเทศชาติและประชาชนของเขาได้รับความสะดวกสบายได้มาเห็นประเทศเขาแล้วน่าชื่นชมจริงๆครับ

พิชัย พิสูจน์