ลุ้นไทยพ้นเทียร์3
รบ.โวแก้ค้ามนุษย์จบแล้ว
นัดแถลงผลงานวันจันทร์นี้
11โรฮีนจาตบหน้าทันควัน
แหกบ้านหนีมีนายทุนมารับ
เมื่อวันที่ 8 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเกี่ยวกับทริปรีพอร์ต เพื่อประเมินการแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ โดยทุกส่วนที่เกี่ยวข้องได้อธิบายถึงการดำเนินการเพิ่มเติมส่วนใดไปบ้าง เพื่อให้เกิดความเหมาะสมในเอกสารที่จะรายงานไปยังสหรัฐฯ
ส่งทริปรีพอร์ตให้สหรัฐฯ19ม.ค.
พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า ในวันที่ 11 มกราคม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้แถลงข่าวว่าได้ดำเนินการอะไรเพิ่มเติมไปบ้าง ทั้งเรื่องประมง การค้ามนุษย์ การใช้แรงงานเด็ก การค้าประเวณี ส่วนรายงานทริปรีพอร์ตนั้น เราจะส่งให้สหรัฐฯ ในวันที่ 19 มกราคมนี้ ถือเป็นรายงานครั้งแรก และจะส่งไปอีกครั้งในเดือนมีนาคม ซึ่งเราทำอย่างดีที่สุด เหมือนกรณีสำนักงานการบินพลเรือนแห่งสหภาพยุโรป หรือเอียซ่า(EASA) ที่แก้ปัญหาอย่างได้ผล
ชี้ปัญหาค้ามนุษย์ยุติแล้ว
เมื่อถามถึงการแก้ปัญหากระบวนการค้ามนุษย์ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เราทำอยู่แล้วทุกอย่างและคิดว่าตอนนี้มันหยุดลงแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ดำเนินการจับกุม ชี้แจง ประชาสัมพันธ์ ถือว่ามีความก้าวหน้าไปมาก ส่วนเรื่องการโยกย้ายถิ่นฐานทางทะเล ได้มอบหมายกองทัพเรือติดตามอยู่ ขณะนี้เรื่องก็ยังเงียบอยู่
13ม.ค.ทริปรีพอร์ตถึงมือนายกฯ
นายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การจัดแถลงข่าวเรื่องดังกล่าว ได้มีการแบ่งงานให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบ ทั้งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งจะเชิญผู้สื่อข่าวทั้งไทยและเทศเข้าร่วมรับฟัง รวมถึงจะมีการจัดบอร์ดนิทรรศการโดยมีเจ้าหน้าที่คอยชี้แจง ซึ่งเรื่องที่จะแถลงข่าวนั้น คือ เรื่องทริปรีพอร์ตและการทำประมงผิดกฎหมาย โดยทริปรีพอร์ตจะส่งถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาในวันที่ 13 มกราคมนี้ อย่างไรก็ตาม การดำเนินการในส่วนของงานต่างๆ มีความก้าวหน้าหลายเรื่อง มีการจับกุมผู้กระทำผิดในคดีใหญ่ๆ ได้มากกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งเราเน้นในทุกเรื่อง แต่ทางสหรัฐฯ ให้ความสำคัญในเรื่องการจับกุมเป็นพิเศษ
ชี้ไทยมีลุ้นหลุดพ้นเทียร์3
“ภาพรวมดีขึ้นมาก เพราะเป็นระบบและเราก็อยากได้ตัวเลขคดีให้เพิ่มมากขึ้นซึ่งเราก็หวังว่าจะหลุดจากเทียร์ 3 เพราะเรามีการปรับเรื่องกฎหมาย การเยียวยาผู้เสียหาย และการป้องกัน หากยังไม่หลุดจากเทียร์ 3 ก็ต้องดูว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะใช้อำนาจทางบริหารขอยกเว้นการคว่ำบาตรหรือไม่ เพราะถ้ายังอยู่ในระดับเทียร์ 3 ต่ออีก การคว่ำอาจจะมีตามมา ผมว่าขณะนี้ดีกว่าทุกปี ลูกบอลกลับไปอยู่ที่สหรัฐฯ ตอนนี้แรงกดดันจะไปอยู่ที่เขา 2 เรื่อง คือ 1.เราทำดีขึ้นเรื่อยๆ หากผลประเมินยังอยู่ที่เดิม คนประเมินจะถูกประเมิน และ2. มีหลายประเทศทำได้แย่กว่าเรา แต่สถานภาพดีกว่าเรา อย่างนี้จะเป็นแรงกดดัน 2 ต่อ” นายปณิธาน กล่าว
11โรฮีนจาหนีจากบ้านพัก
เมื่อเวลา 08.30 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.บัณฑิต หัตถพิถีพันธุ์ สวป.สภ.เขาหลัก จ.พังงา พร้อมด้วย นายจำรัส หลีเจี้ย กำนัน ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า ได้รับแจ้งมีเด็กชาวโรฮีนจาจำนวน 11 คน เป็นเด็กอายุไม่ถึง 20 ปี จำนวน 8 คน ผู้ใหญ่ 3 คน ได้หลบหนีไปจากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพังงา หลังโดนจับเมื่อปลายปี 2557 และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองพังงานำมาส่งให้ช่วยดูแล จึงรุดไปตรวจสอบที่บ้านพักเด็กฯ พื้นที่ หมู่ 5 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า เพื่อตรวจสอบหาร่องรอยพร้อมระดมกำลังกันค้นหาในจุดต่างๆ
กุญแจเหล็กดัดหายปริศนา
พ.ต.ท.บัณฑิต เปิดเผยว่าจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าเมื่อเวลาประมาณ 02.02 น.ของวันที่ 8 มกราคม ชาวโรฮีนจากลุ่มดังกล่าวได้รวมตัวกัน และเดินผ่านช่องหน้าต่างเหล็กดัดที่สามารถเปิดปิดได้ ซึ่งมีไว้สำหรับเข้าออกด้านนอกของชั้นสองในการซ่อมบำรุงต่างๆ ก่อนจะเดินเลียบทางระเบียงและไปลงด้านมุมตึก และหายไปในจุดที่มุมกล้องเสีย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปเทศบาลตำบลคึกคักเพื่อทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดด้านนอกเพื่อหารถต้องสงสัยที่มารับชาวโรฮีนจา พร้อมตั้งข้อสงสัยว่ากุญแจที่ใช้ล็อคเหล็กดัดดังกล่าวหายไปไหน
ด้าน นายจำรัส เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ กลุ่มชาวโรฮีนจาชุดดังกล่าว ได้หลบหนีเช่นนี้มาแล้ว 1 ครั้ง แต่ชุดเฉพาะกิจปกครองตะกั่วป่า ได้ปิดล้อมและจับตัวไว้ได้ ก่อนจะหลบหนีออกไปอีกครั้ง
แฉนายทุนแอบมารับตัวไป
ต่อมา เวลา 14.00 น. ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพังงา นายมานิต เพียรทอง นายอำเภอตะกั่วป่า พร้อมด้วย นายอนันต์ ดนตรี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพังงา นางดารารัตน์ สุเทศ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพังงา ร่วมแถลงชี้แจงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยนายมานิต มั่นใจว่า การหลบหนีครั้งนี้ คงจะไม่ใช่การเดินเท้าเพื่อหลบหนี เหมือนครั้งก่อนๆ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ปกครองรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังออกตามหา ซึ่งไม่พบร่องรอยแต่อย่างใด จึงคาดว่าน่าจะมีกลุ่มนายหน้าที่ได้ทำการนัดหมายเอาไว้ขับรถเข้ามารับตัวออกไป ซึ่งขณะนี้พบรถที่มีลักษณะต้องสงสัยแล้ว 1 คัน และได้ประสานไปยังจุดสกัดต่างๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมด้วย
สั่งล้อมคอกเพิ่มวงจรปิด
ส่วนมาตรการแก้ไขปัญหาในเบื้องต้นนั้น นายมานิต เปิดเผยว่า ขณะนี้มีชาวโรฮีนจาเหลืออยู่ในบ้านพักอีก 33 คน โดยจะมีการตรวจตราพื้นที่และป้องกันจุดบอดต่างๆ ให้มากขึ้น และจะส่งเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือ ตำรวจ เข้ามาดูแลและลาดตระเวณให้ถี่ขึ้น และจะทำการข้อเพิ่มเรื่องกล้องวงจรปิดให้ครบทุกจุดในบริเวณบ้านพักต่อไป พร้อมสั่งกำชับให้ตรวจตราผู้ที่เข้าออกอย่างเข้มงวดเพิ่มขึ้น เพื่อหาต้นตอและช่องว่างที่ยังมีอยู่
วงจรปิดพบฟอร์จูนเนอร์ต้องสงสัย
มีรายงานข่าวว่า จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของเทศบาลตำบลคึกคัก พบรถยนต์ต้องสงสัยว่าจะรับกลุ่มชาวโรฮีนจาหลบหนี ซึ่งเป็นรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ไม่ทราบทะเบียน โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบและติดตามหารถคันดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี