11 มี.ค.59 หลังจากที่ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวเมื่อ 25 ก.พ.59 ที่ผ่านมา ถึงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบผลการศึกษาโครงการการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง จ.เลย ตามที่องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. เสนอว่า รัฐบาลจะเดินหน้าสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง จ.เลย มูลค่ากว่า 633 ล้านบาท โดยระบุผลสำรวจความคิดเห็น ที่อ้างว่า มาจากหลายฝ่าย รวมถึงเสียงจากประชาชนในพื้นที่ ว่า มีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ สร้างงานให้กับคนในพื้นที่ และจะทำให้นักท่องเที่ยวมีจำนวนมากขึ้น
 
"ขณะนี้คณะกรรมการรอลุ้นผลการพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) อยู่ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน ถ้าอีไอเอผ่าน คาดว่าจะใช้เวลา 2-3 ปีในการสร้างกระเช้า และขอยืนยันอีกครั้งว่า จากการหารือพบว่าคน 99.99% เห็นด้วย มีไม่ถึง 1% เท่านั้นที่ไม่เห็นด้วย"

และหลังจากที่รัฐบาลประกาศเดินหน้าสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง อำเภอภูกระดึง จ.เลย ได้ไม่นาน ราคาที่ดิน ที่ภูกระดึง ถูกปั่นสูงมากกว่า 20 เปอร์เซนต์ ถึงขนาดมีกระแสของการซื้อขายที่ดิน ในเขตอำเภอภูกระดึง มีเงินหมุนเวียนนับพันล้าน ที่ดินในระแวกที่จะทำกระเช้า และบริเวณกว้างทั้งตัวอำเภอภูกระดึง  บริเวณทางขึ้นภูกระดึง มีกลุ่มนายทุนมาปักหลักซื้อกันเป็นจำนวนมาก  ถนนสองข้างทางไปยังอุทยานแห่งชาติ ภูกระดึง ปรับราคาจากไร่หลักแสน เป็นหลักล้าน

และอาจจะขยับปรับตัวขึ้นอีก เมื่อมีการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง!!! อ่านข่าว (ราคาที่ดิน'ภูกระดึง'พุ่งกระฉูด รับข่าว'กระเช้า'สนองนักท่องเที่ยว)

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 2 ของไทย เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2505 ครอบคลุมพื้นที่ 348.13 ตารางกิโลเมตร หรือ 217,576.25 ไร่ มีความหลากหลายทางด้านภูมิประเทศ ระดับความสูงอยู่ระหว่าง 400 – 1,200 เมตร จุดสูงสุดอยู่ที่บริเวณคอกเมย มีความสูง 1,316 เมตร มีที่ราบบนยอดภู ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร (37,500 ไร่)

ภูกระดึงประกอบไปด้วยป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง ป่าดิบเขา ป่าสนเขา ซึ่งมีพรรณไม้นานาชนิด สัตว์ป่านานาพันธุ์ ลำธาร และน้ำตก เป็นพื้นที่ต้นน้ำของลำน้ำพอง ที่หล่อเลี้ยงภาคอีสาน

อากาศบนยอดภูกระดึง มีฝนตก เมฆหมอก ลอยต่ำปกคลุมบ่อยครั้ง อากาศค่อนข้างเย็นตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวอุณหภูมิอาจถึงติดลบ

ผู้ที่นิยมการผจญภัย "ภูกระดึง" นับเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่ถูกเลือก เพราะผู้ที่จะเดินขึ้นถึงยอดภูกระดึงได้  จะต้องเตรียมพร้อมทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ ฝ่าฝันความหฤโหด ด้วยระยะทางกว่า 9 กิโลเมตร โดยต้องปืนป่ายเส้นทางสูงชัน 5 กิโลเมตร และเดินทางราบอีกประมาณ 3-4 กิโลเมตร

นับเป็นความคุ้มค่ากับความเหนื่อย เพื่อแลกกับคำว่า 'ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง'

ด้วยสภาพภูมิอากาศ ภูมิประเทศ ที่เป็นแบบเฉพาะตัว ไม่เหมือนใคร 'ภูกระดึง' จึงมิคลายมนต์เสน่ห์ และยังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ในใจของผู้รักการผจญภัยตลอดมา

แต่หากมีการสร้างกระเช้าไฟฟ้า ขึ้นภูกระดึงจริงๆ มนต์เสน่ห์ที่ว่านี้ จะคลายลงหรือไม่ ยังไม่มีใครรู้แต่ผู้ที่ทำกระเช้าไฟฟ้า อาจต้องเจียดงบสร้างป้าย บนภูกระดึง อีก 1 ป้าย ตัวใหญ่ๆ ว่า  'ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึงด้วยกระเช้าไฟฟ้า' ไว้สำหรับผู้โกงสังขาร