กองพลทหารราบที่ 7 จัดตั้งขึ้นตามคำสั่ง กองทัพบก ที่ 9/54 ลงวันที่ 17มีนาคม 2554 อัตราการจัดและยุทโธปกรณ์หมายเลข 7-2 โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาผู้บัญชาการทหารบก ในขณะนั้น มีที่ตั้งปกติถาวร ณ ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นที่ตั้งเดิมของ กองพลรบพิเศษที่ 2 หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ โดยหน่วยได้เปิดทำการ
ปัจจุบันมี พลตรีอุทัย ชัยชนะ เป็นผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 7มีหน่วยขึ้นตรง จำนวน 4 หน่วย ได้แก่ กรมทหารราบที่ 7 และหน่วยขึ้นตรง กรมทหารราบที่ 17 และหน่วยขึ้นตรง กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 7 และกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 17 การปฏิบัติภารกิจสำคัญของหน่วย ได้แก่ การจัดกำลังป้องกันชายแดน กรมทหารราบเฉพาะกิจสนับสนุนกองกำลังนเรศวร การจัดกำลังสนับสนุนภารกิจการรักษาความสงบเรียบร้อย จังหวัดลำพูน, การจัดกำลังสนับสนุนภารกิจการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดชายแดนภาคใต้ การจัดกำลังกรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 3การปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาความมั่นคง พื้นที่อำเภออมก๋อย จ.เชียงใหม่ การปฏิบัติงานด้านการบรรเทาสาธารณภัย การปฏิบัติงานการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การปฏิบัติงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย รวม 9 โครงการ และการปฏิบัติงานอื่นๆ เมื่อได้รับมอบภารกิจจากหน่วยเหนือ
พลตรีอุทัย ชัยชนะ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 7กล่าวว่า วันที่ 17 มีนาคม ซึ่งเป็นวันสถาปนาในการครบรอบของ กองพลทหารราบที่ 7 ปีที่ 5 ย่างเข้าสู่ปีที่ 6 กองพลทหารราบที่ 7ได้ยึดหลักและดำรงตามนโยบายของรัฐบาล (คสช.) และคำสั่งของผู้บัญชาการกองทัพบกอย่างรัดกุม ในการพัฒนาหน่วยได้เน้นทั้งด้านการฝึกของกำลังพล การบริการสิ่งอำนวยความสะดวกภายในหน่วยให้เกิดความเรียบร้อย พร้อมที่จะต้อนรับประชาชนทุกหมู่เหล่า ได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆ ซึ่งได้เชิญภาคราชการและหน่วยอื่นๆจัดกิจกรรมร่วมกับหน่วยทหาร อาทิ การออกกำลังเพื่อสุขภาพวิ่ง ปั่นจักรยาน แข่งขันฟุตบอล ตะกร้อ ตลอดจนนันทนาการอื่นๆ
สำหรับกิจกรรมอันยิ่งใหญ่และสำคัญของกองพลทหารราบที่ 7คือการจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่เป็นผู้ทรงกอบกู้เอกราชของไทย และเพื่อให้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ อันที่เคารพบูชาสักการะของกำลังพล ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ทั้งในพื้นที่ใกล้เคียงและผู้ที่สัญจรผ่านไป-มาสามารถมากราบไหว้บูชากัน
ทั้งนี้ ในห่วงเวลาดังกล่าว กองพลทหารราบที่ 7 ได้สนองนโยบายรัฐบาลหัวหน้า (คสช.) โดยการเตรียมพร้อมของกำลังพลทุกหน่วยภายใต้การบัญชาการของกองพลทหารราบที่ 7 ให้เตรียมความพร้อม เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชน ด้านภัยพิบัติ อุทกภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาไฟป่า หมอกควันที่เกิดขึ้นในห่วงเวลานี้ ด้วยความเป็นห่วงของรัฐบาลที่มีต่อประชาชนทุกภาค ดังนั้นทหารต้องมีความพร้อมทุกด้าน ทั้งกำลังพล ยุทโธปกรณ์ ที่จะให้การช่วยเหลือประชาชนได้ตลอด 24 ชม. เมื่อมีการร้องขอ หรือได้รับการประสานจากภาคราชการอื่นๆ
ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 7กล่าวอีกว่า ทหารมืออาชีพ นอกเหนือจากจะปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องชายแดน ประเทศชาติ สถาบันพระมหากษัตริย์ แล้ว ทหารจะต้องมีความรู้รอบด้าน ในการเปลี่ยนแปลงของโลกปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคสังคมออนไลน์ (social network) เรียนรู้และทันต่อเหตุการณ์ในทางที่ถูกต้อง แต่ไม่อ่อนไหวหรือเป็นทาสให้แก่สังคมออนไลน์เหล่านี้มากจนเกินไป ขณะเดียวกันต้องตามทันข่าวสารต่างๆ ไม่ว่า เศรษฐกิจ การเมือง การค้าการลงทุนขนาดใหญ่ จากต่างชาติ ประเทศไทยเป็นสมาชิกประชาคมกลุ่มอาเซียน (AEC)ดังนั้นทหารเราจะต้องเรียนรู้และทันต่อกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านให้ดีที่สุด เพื่อจะเตรียมพร้อมที่จะวางแผนทางยุทธศาสตร์ ตลอดจนการดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้ โดยไร้ปัญหาสิ่งสำคัญ การดำเนินชีวิตของทหารไทยทุกคนจะต้องยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พ่อของแผ่นดิน อยู่ได้อย่างภาคภูมิใจทุกนายให้ควบคู่กับประเทศชาติตลอดไป
วรชพงศ์ มีทรัพย์กว้าง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี