16 มี.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายว่า ช่วงหน้าแล้ง โดยเฉพาะ ดอกรัก ที่ขึ้นเองตามธรรมชาติและเกษตรกร นิยมปลูกไว้ ตามเส้นทางหมู่บ้าน  พร้อมใจกันออกดอก สีขาวแบ่งบาน ออกจากกรีบดอก เต็มต้น เพื่อท้าอากาศร้อน ในช่วงฤดูแล้ง เต็ม 2 ข้างทาง บริเวณหมู่ที่ 12 บ้านเนินแมงเม่า ตำบลฆะมัง (ขะ-มัง) อำเภอเมืองพิจิตร จ.พิจิตร สร้างความสวยงาม ในช่วงหน้าแล้ง  ซึ่งหลังจากที่ดอกรัก ออกดอกจำนวนมาก ทำให้ชาวบ้านต้องพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ในช่วงหน้าแล้ง ออกทำการเก็บดอกรักที่ออกจำนวนมาก ถึงแม้ช่วงนี้ ราคาถูก เนื่องจากดอกออกผลผลิตมาก ชาวบ้านก็จะเก็บส่งขายให้กับพ่อค้าและแม่ค้า ที่มารับซื้อ ในกิโลกรัมละ 20 บาท  เพื่อนำไปเป็นส่วนประกอบ ของการร้อยมาลัย ทั้งในจังหวัดพิจิตร และ กรุงเทพมหานคร เพื่อหารายได้ในครอบครัว 

 

นางมาลัย คุณอ้น  ระบุว่า ในช่วงหน้าร้อน อากาศแล้ง ดอกรักจะออกดอก ซึ่งในปีนี้ ดอกรักมีการออกดอกจำนวนมาก ชาวบ้านจึงรวมตัวกัน ออกเก็บ และ รับจ้างแกะดอกรัก ออกจากเปลือกดอก ในแต่ละวันจะได้สามารถแกะได้ วันละ 2-3 กิโลกรัม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้านสูงอายุ และว่างงานอยู่กับบ้าน  ถึงแม้ดอกรักจะมีราคาถูก  เหลือกิโลกรัมละ 20 บาท จากเดิม กิโลกรัมละ 50 บาท แต่ก็ยังจะมีรายได้ วันละ 60-100 บาท พอเป็นค่ากับข้าว ภายในครอบครัว

 

สำหรับ ต้นรัก จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กหรือเป็นไม้พุ่มขนาดกลาง สามารถออกดอกและติดผลได้ตลอดปี แต่จะออกมากในช่วงฤดูร้อน  ในส่วนดอกรัก จะออกดอกเป็นช่อแบบซี่ร่ม โดยจะออกตามซอกใบใกล้ส่วนยอดหรือตามปลายกิ่ง แต่ละช่อมีดอกย่อยจำนวนมาก ลักษณะดอกเป็นรูปมงกุฎขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางดอก มี 5 แฉก อวบน้ำ เชื่อมติดกัน  เมื่อทำการแกะเปลือกดอกแล้ว  จะนิยมนำมาแยกใช้ร้อยเป็นพวงมาลัย