16 พ.ค. 59 เวลา 08.00 น. พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี กล่าวระหว่างเป็นประธานในพิธีส่งมอบพื้นที่โรงเรียนโยธินบูรณะ (เกียกกาย) ให้กับสำนักงานเลขาธิการรัฐสภา เพื่อใช้ก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ว่า โรงเรียนโยธินบูรณะแห่งนี้ได้ ก่อสร้างและจัดการเรียนการสอนมาเป็นเวลาถึง 80 ปี ซึ่งได้ผลิตลูกศิษย์ที่มีคุณภาพออกสู่สังคมจำนวนมาก และสร้างคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติในทุก ๆ ด้าน ซึ่งสถาบันแห่งนี้เป็นแหล่งรวมความรักผูกพันธ์ของศิษย์ ครู และสังคมอย่างต่อเนื่องตามเอกลักษณ์ของโรงเรียนที่ว่า "โยธิน....ถิ่นคนดี" ศิษย์โยธินบูรณะทกคน จะยึดถือเป็นคติประจำใจ โดยปฏิบัติตนเป็นคนดีของสังคมไทย ศิษย์โยธินบูรณะ ทุกคนจะดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกัน สำหรับในวันนี้ จะเป็นกิจกรรมครั้งสุดท้ายที่ครู อาจารย์ ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน ได้มาร่วมชุมนุม และร่วมรำลึกถึงสถานที่อันเป็นประวัติศาสตร์ของโรงเรียนโยธินบูรณะ ที่มีความรู้สึกอบอุ่นและความผูกพัน

ด้านนายการุณ สกุลกระดิษฐ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวรายงาน ว่า โรงเรียนโยธิน เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาขนานใหญ่พิเศษ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา(สพม.)เขต 1 กรุงเทพมหานคร สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ก่อตั้งเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2461 โดยรองหัวหมื่น พระอนุวัฒน์ ราชนิยม ได้กราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาเป็นประธานในพิธีเปิดโรงเรียน และได้กราบบังคมทูลขอพระกรุณาขอพระราชทานนามขื่อว่า ร.ร.อนุวัฒน์ศึกษาคาร

ต่อมาเริ่มมีความหนาแน่นของประชากรบางซื่อมากขึ้น ทำให้โรงเรียนเดิมคับแคบ ทางคุณครูภักดิ์ ฉวีสุข ครูใหญ่ของโรงเรียนอนุวัฒน์ศึกษาคาร จึงเสนอต่อกระทรวงธรรมการ(กระทรวงศึกษาปัจจุบัน) ให้ดำเนินการเจรจาขอที่ดินว่างเปล่า 3 แห่ง คือ 1 ที่ดินหลังกรมทหารสื่อสาร กองพันที่2  2.ที่ดินริมกรมทหารสื่อสาร กองพันที่1 ด้านเหนือ และ3.ที่ดินตรงข้ามกรมทหารม้า รักษาพระองค์ ซึ่งกระทรวงกระลาโหมรับทราบและมอบที่ดิน 9.3 ไร่ ให้เมื่อ วันที่ 9 ส.ค. 2477

จากนั้น กระทรวงธรรมการจึงนำนักเรียนมารวมกัน และตั้งชื่อร.ร.แห่งใหม่แห่งนี้ว่า ร.ร.มัธยมโยธินบูรณะ ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนโยธินบูรณะ เปิดปฐมกฤกษ์เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2478 เปิดสอนเป็นร.ร.ชายล้วน ก่อนจะรับ นร.หญิงในระดับ มัธยมปลายปีแรกในปีการศึกษา 2538 ต่อมาในปการศึกษา 2541 เริ่มรับนักเรียนหญิง ในระดับ มัธยมต้น และได้รับอนุมัติให้เปิดการเรียนการสอนหลักสูตรกระทรวงศึกษาฯ ภาคภาษาอังกฤษ ปีการศึกษา 2541 ต่อมา ปีการศึกษา 2553 เปิดการเรียนการสอนหลักสูตรนานาชาติ และปีการศึกษา 2556 เปิดห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ - คณิตย์ศาสตร์ จนปัจจุบันร.ร.โยธินบูรณะมี ผอ.ทั้งหมด 23 คน ซึ่งผอ.ปัจจุบันคือ นายอดิศักดิ์ วิไลลักดิ์ ปัจจุบันมีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 รวม ประมาณ 3,800 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จพิธีส่งมอบพื้นที่โรงเรียนโยธินบูรณะ เสร็จแล้วได้สีพิธีทางศาสนา และจากนั่นเวลา 09.20 น. ได้มีการเคลื่อนขบวนนำนักเรียนออกจากโรงเรียนโยธินบูรณะเกียกกาย ไปยังโรงเรียนโยธินบูรณะแห่งใหม่ ถนนประชาราษฎร์ สาย1

สำหรับขบวนแถวเกียรติยศ เริ่มต้นด้วยขบวนจักรยาน 40 คัน ต่อด้วยป้ายโรงเรียนโยธินบูรณะ แถวธงชาติ 8 ธง รถโบราณประดิษฐาน พระพุทธสุพัฒน์โยธินบูรณาภิรักษ์  ขบวนคณะผู้มีเกียรติ นำโดย พล.อ.อ.ชลิต และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน  ร.ร.โยธินบูรณะ สมาคมศิษย์เก่า ครูอาวุโส วงโยธวาธิต ลูกเสือเหล่า 8 คน ขบวนรถโบราณ 9 คัน และรถพยาบาลปิดท้าย

ต่อมาในเวลา 10.05 น.ขบวนได้เคลื่อนมาถึงได้มีนักเรียนและครูโบกธงต้อนรับโดยขบวนได้เคลื่อนเข้ามายังชั้น 1 ของอาคารเรียนรวม เพื่อทำพิธีสักการะพระพุทธสุพัฒน์โยธินบูรณาภิรักษ์  และกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่

ด้านนายอดิศักดิ์ วิไลลักษณ์ ผอ.ร.ร.โยธิบูรณะ กล่าวว่า ภายหลังจากที่ย้ายมาอยู่แห่งใหม่เรียบร้อยแล้ว ก็จะเร่งดำเนินการให้โรงเรียนเกิดความสมบูรณ์ให้มากที่สุด ส่วนสิ่งที่ยังไม่สมบูรณ์ก็จะพยายามขับเคลื่อนเดินหน้าต่อให้เกิดความสมบูรณ์โดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะด้านการศึกษา สำหรับอาคารที่ยังไม่แล้วเสร็จ เช่น อาคารพลศึกษา โรงอาหาร อาคารฝึกงานสำหรับเรียนวิชาชีพ วิชาคหกรรม อุตสาหกรรม ศิลปศาสตร์ สวนอัตราครูผู้สอน ขณะนี้มีครูลาออกไปกว่า 10 คน แต่ก็ได้มีการขออัตราครูเข้ามาทดแทนซึ่งขึ้นอยู่กับ สพฐ.จะพิจารณาให้อัตราคืนมาได้เท่าใด

ขณะที่นางสาวกนกกุล เอกธรรมบดี นักเรียนชั้น ม.6 ร.ร.โยธินบูรณะ. กล่าวว่า วันนี้ตนและเพื่อน ๆย้ายมาเรียนที่ใหม่เป็นวันแรกจึงรู้สึกแปลกที่ แต่ก็รู้สึกว่าที่เรียนใหม่นี้มีความสะอาดและมีความพร้อมกว่าที่เดิม จึงคิดว่าปีต่อๆไปจะมีนักเรียนมาเรียนมากขึ้น "ถึงแม้ที่ใหม่จะดูสะอาดและมีความพร้อมกว่า แต่ก็ยังรู้สึกคิดถึงที่เดิมอยู่ เพราะยังไม่ชินกับที่ใหม่ และอยากให้ที่นี้มีต้นไม้เยอะ ๆ และมีโรงยิมในร่มเหมือนที่เดิม"