นายบุญช่วย สงฆนาม ผู้อำนวยการกลุ่มควบคุมตามพระราชบัญญัติ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3 (สวพ.3) กรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า เพื่อสนองนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงกรมวิชาการเกษตร ที่ประสงค์ให้เกษตรกรมีปัจจัยการผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพในราคายุติธรรม เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต สวพ.3 จึงได้ดำเนินมาตรการด้านป้องกันและปราบปรามผู้กระทำความผิด ทั้งการตรวจฉลาก ตรวจสอบทะเบียนปุ๋ย สุ่มเก็บตัวอย่างปุ๋ยตามร้านค้าเพื่อตรวจวิเคราะห์ รวมทั้งตรวจโรงงานผลิตปุ๋ย โดยมีเป้าหมายตรวจสอบทุกร้านจำหน่ายปัจจัยการผลิตที่ขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร ในพื้นที่ที่รับผิดชอบทั่วภาคอีสานตอนบนครอบคลุมกว่า 6,600 ร้าน ซึ่งขณะนี้ตรวจสอบได้แล้วประมาณ 80%
อย่างไรก็ตาม ช่วงเดือนพฤษภาคมเป็นช่วงเริ่มต้นฤดูกาลเพาะปลูก เกษตรกรมีความต้องการปัจจัยการผลิตมากขึ้น จึงต้องเร่งตรวจสอบการจำหน่ายปัจจัยการผลิตอย่างเข้มข้นมากขึ้นกว่าปกติ โดยเฉพาะต้องเฝ้าระวังการเร่ขายปัจจัยผลิตทางการเกษตรในหมู่บ้านและชุมชน ซึ่งเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย มีโทษปรับตั้งแต่ 4,000 บาท ไม่เกิน 20,000 บาท เนื่องจากการจำหน่ายปัจจัยการผลิตต้องกระทำในสถานที่ตั้งที่ระบุไว้ตามใบอนุญาตเท่านั้น นอกจากนี้ บุคคลที่เร่ขายปุ๋ยยังมีพฤติกรรมแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หลอกลวงเกษตรกร ให้ข้อมูลที่เป็นเท็จโอ้อวดสรรพคุณเกินจริง ที่สำคัญคือการจำหน่ายปัจจัยการผลิตที่ไม่มีคุณภาพหรือไม่ได้ขึ้นทะเบียน ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรทั้งเรื่องต้นทุนการผลิตและการเสียโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนจากการปลูกพืชอย่างคุ้มค่าด้วย
ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน กลุ่มควบคุมตามพระราชบัญญัติ สวพ.3 ได้ทำการรณรงค์ในพื้นที่ที่มีปัญหาการเร่ขายปัจจัยการผลิตทางการเกษตรเป็นประจำ หรือ “พื้นที่สีแดง” โดยเข้าไปถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องกับผู้นำชุมชนและเกษตรกรในพื้นที่ สร้างภูมิคุ้มกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของผู้ไม่หวังดี รวมถึงสร้างเครือข่ายสารวัตรเกษตรอาสาประจำพื้นที่ เป็นหูเป็นตาและแจ้งเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ ควบคู่ไปกับการจัดชุดพิเศษเพื่อไล่ล่าผู้กระทำความผิดในพื้นที่เสี่ยง พร้อมกับตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนหรือแจ้งเบาะแสเมื่อพบเห็นการกระทำความผิดในพื้นที่หรือพบเห็นการเร่ขาย สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่สารวัตรเกษตรเพื่อเข้าตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายได้ทันท่วงที ซึ่งจากการนำร่องในพื้นที่ อ.มัญจาคีรี อ.โคกโพธิชัย จ.ขอนแก่น พบการกระทำผิดในพื้นที่ลดลง