เข้มความปลอดภัยพืชGAP7จว.ใต้ สวพ.8สั่งตามสอบแปลงผลิตหลังได้รับตรารับรอง‘Q’

เข้มความปลอดภัยพืชGAP7จว.ใต้ สวพ.8สั่งตามสอบแปลงผลิตหลังได้รับตรารับรอง‘Q’

วันศุกร์ ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.
Tag :

นายอนันต์ อักษรศรี ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 8 (สวพ.8) เปิดเผยว่า ในภาวะปัจจุบันที่เกษตรกรมีการใช้สารเคมี ในการป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืชในกระบวนการผลิตอย่างแพร่หลาย และมีกระแสข่าวเกี่ยวกับสารพิษตกค้างที่เกินค่ามาตรฐานความปลอดภัยในพืชผักผลไม้ ซึ่งทำให้ประชาชนเริ่มตระหนักถึงความปลอดภัยจากสารเคมีตกค้างทางการเกษตร ที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพมากขึ้น ปัจจุบันระบบการดูแลด้านมาตรฐานการผลิตพืชตามระบบ GAP (Good Agricultural Practice) ถือเป็นระบบมาตรฐานสำคัญที่รัฐบาลนำมาใช้แนะนำเกษตรกรให้มีผลผลิตที่มีคุณภาพและปลอดภัยทั้งจากสารพิษตกค้างและจุลินทรีย์ปนเปื้อน โดยระบบนี้ดูแลกำกับภายใต้หลายๆหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ

นายอนันต์กล่าวอีกว่า สวพ.8 ได้มีการติดตามตรวจสอบความปลอดภัยของผลผลิตพืชที่ขึ้นทะเบียนตามระบบ GAP ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง 7 จังหวัด ได้แก่ ตรัง พัทลุง สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาสนั้น จะมีขั้นตอนของการตรวจสอบและประเมินการผลิตพืชที่แปลงเกษตรกรตั้งแต่ปลูกจนถึงการจัดการผลผลิตก่อนส่งถึงมือผู้จัดจำหน่าย โดยเฉพาะจะมีการตรวจสอบการใช้สารเคมีของเกษตรกรอย่างเคร่งครัด มีการสุ่มตัวอย่างผลผลิตไปวิเคราะห์และต้องผ่านเกณฑ์ตามมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากลถึงจะให้การรับรองแปลงว่าได้มาตรฐานตามระบบ GAP หลังได้ใบรับรอง (ตรา Q) แล้ว จะให้เจ้าหน้าที่ติดตามตรวจประเมินแปลงทุกปี เพื่อตรวจสอบว่าเกษตรยังคงรักษามาตรฐานกระบวนการผลิตตามระบบหรือไม่ โดยหากพบว่าเกษตรกรมีข้อบกพร่อง เช่น มีการใช้สารเคมีไม่ถูกต้อง และผลผลิตมีการตกค้างของสารเคมีเกินค่ามาตรฐานความปลอดภัย (>MRLs) จะพิจารณาดำเนินการลงโทษ เช่น การตักเตือน พักใช้เครื่องหมาย Q หรือเพิกถอนเครื่องหมาย Q เป็นต้น


งานวิเคราะห์สารพิษตกค้างทางการเกษตร กลุ่มพัฒนาการตรวจสอบพืชและปัจจัยการผลิต ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการวิเคราะห์สารพิษในผลิตผลทางการเกษตรของ สวพ.8 ได้ทำการศึกษาและสุ่มตัวอย่างผลผลิตจากแปลง GAP ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างโดยได้สุ่มเก็บตัวอย่างระหว่างเดือนตุลาคม 2553 ถึงเดือนกันยายน 2558 โดยใช้เกณฑ์เพื่อประเมินความปลอดภัยเรียงลำดับดังนี้ Thai MRLs, Codex MRLs, EU MRLs และ Japan MRLs ตามลำดับ จากการสุ่มผลผลิตพืช 33 ชนิดได้แก่ ข่า ข้าวโพดฝักอ่อน ตะไคร้โต้วเหมี่ยว บวบ ผักโขม ผักเหลียง ไผ่หวาน วอเตอร์เครส แก้วมังกร เงาะ แตงโม มะละกอ มังคุด ลองกอง สละ และ สับปะรด กวางตุ้ง ข้าวโพด คะน้า แตงกวา ถั่วฝักยาว ผักกาดขาว ผักบุ้ง ผักหวาน มะเขือ พริก มะนาว เห็ด ทุเรียน ลำไย ฝรั่ง และ ส้มโอ รวม 673 ตัวอย่าง พบตัวอย่างผลผลิตพืชที่มีสารพิษตกค้างเกินค่า MRLs เพียง 1 ชนิด คือ พบ 2 ตัวอย่าง ในฝรั่ง คิดเป็นร้อยละ 0.3 ของตัวอย่างที่วิเคราะห์ทั้งหมด หรือมีตัวอย่างผลผลิตผักผลไม้ที่สุ่มจากแปลง GAP ที่ปลูกในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างมีความปลอดภัยถึงร้อยละ 99.7 จากผลการศึกษาดังกล่าวบ่งชี้ได้ว่าการสนับสนุนให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการผลิตพืชตามระบบ GAPนั้น เป็นสิ่งที่ดีและจำเป็น ซึ่งนอกจากจะสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคที่จะได้ผลิตผลที่ปลอดภัยแล้ว ตัวเกษตรกรเองก็จะได้เข้าใจและสามารถควบคุมกระบวนการผลิตพืชให้ผลผลิตมีความปลอดภัย ปราศจากการปนเปื้อนของสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ซึ่งจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจการค้าทั้งในประเทศและการส่งออก

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top