หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 8 หน่วยงาน ลงนามบันทึกความเข้าใจ กับบริษัทเป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันฝรั่งอย่างยั่งยืน รองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ร่วมกับ โดยพร้อมเป็นเครือข่ายการส่งเสริมการผลิตมันฝรั่งให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์แก่เกษตรกร ผู้บริโภค และภาคการเกษตรไทย ณ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร
นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังการเป็นประธานและสักขีพยานในการลงนามยกระดับศักยภาพการผลิตมันฝรั่งไทยตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่ การจัดการพื้นที่และน้ำ การผลิตหัวพันธุ์คุณภาพ การส่งเสริมการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จนถึงการรับซื้อผลผลิตเข้าสู่อุตสาหกรรมแปรรูป เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงแก่เกษตรกร และลดการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ
นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมมันฝรั่งมีมูลค่าตลาดปลายน้ำกว่า 14,000 ล้านบาทต่อปี และเป็นหนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จของระบบเกษตรพันธสัญญา ที่ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้มั่นคง อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังต้องนำเข้ามันฝรั่งสดและหัวพันธุ์ตัน จึงจำเป็นต้องพัฒนาการปลูกมันฝรั่งในประเทศไทยที่มีคุณภาพและเพียงพอต่อความต้องการของอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมการเกษตร จึงได้ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร กรมพัฒนาที่ดิน สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กรมชลประทาน สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) ร่วมกับ บริษัทเป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด เพื่อขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันฝรั่งอย่างยั่งยืน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภายใต้ MOU นี้ ภาครัฐและเอกชนจะร่วมกันดำเนินงาน 5 ด้านสำคัญ ได้แก่ การส่งเสริมการปลูกมันฝรั่งในประเทศไทยให้ทนต่อสภาพอากาศและโรค การกระจายหัวพันธุ์คุณภาพ ลดการพึ่งพาการนำเข้า การบริหารจัดการพื้นที่และน้ำ โดยใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม เช่น ระบบน้ำหยด การถ่ายทอดองค์ความรู้แก่เกษตรกร ผ่านเกษตรพันธสัญญา การรับซื้อผลผลิตอย่างเป็นธรรม เพื่อสร้างแรงจูงใจและรายได้มั่นคงแก่เกษตรกร “ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็น จุดเปลี่ยนเชิงยุทธศาสตร์ ที่จะทำให้มันฝรั่งไทยก้าวสู่ความยั่งยืน โดยมีเป้าหมายให้ช่วยลดความเสี่ยงด้านภูมิอากาศ บริหารจัดการต้นทุนการผลิต และส่งเสริมรายได้ที่มั่นคงให้เกษตรกร”
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า บันทึกความเข้าใจครั้งนี้จะส่งเสริมเกษตรกรผู้ปลูกมันฝรั่งที่ทำงานร่วมกับบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ภายใต้ระบบเกษตรพันธสัญญา ให้เกษตรกรสามารถปลูกมันฝรั่งได้มีคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาด ยกระดับคุณภาพการทำงานร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งมีผลบังคับใช้ 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน 2568 ถึงวันที่ 21 กันยายน 2571 เพื่อส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาการผลิตมันฝรั่งของเกษตรกรอย่างยั่งยืน ซึ่งทุกฝ่ายได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการส่งเสริมเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปลูกมันฝรั่งของเกษตรกรอย่างยั่งยืน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มุ่งเน้นให้เกิดกลไกสนับสนุนทางด้านการเพาะปลูก และการบริหารจัดการห่วงโซ่คุณค่าที่โปร่งใส และเป็นธรรมต่อเกษตรกรผู้ปลูกมันฝรั่งต่อไป
-(016)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี