ซัดกันนัวขายนมรร.
สหกรณ์วังน้ำเย็นโวย
ใครก็ทำ-ป้องกัน‘เจ๊ง’
เกษตรฯคาใจศุลกากร
ปล่อยส่งออกได้ยังไง
นายอำนวย ทงก๊ก ประธานสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ออกมาให้สัมภาษณ์อีกหนเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ถึงกรณีพบนมโรงเรียนของสหกรณ์ วางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าของประเทศกัมพูชาว่า ได้ส่งรายงานชี้แจงเรื่องนี้ให้ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ปลัดกระทรวงฯ และอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ไปแล้ว ทั้งนี้ตนยืนยันว่า นมโรงเรียนที่ส่งออกนมไปและมีผู้พบตราสัญลักษณ์โครงการนมโรงเรียนนั้น เป็นนมที่ถูกผลิตช่วงเดือน ต.ค.2558 และเมื่อสหกรณ์ฯ ถูกตัดสิทธิให้ส่งนมโรงเรียนในช่วงสั้นๆ จึงทำให้ต้องระบายนมในสต็อกที่ผลิตช่วงปิดภาคเรียนไปยังต่างประเทศ เพราะหากไม่ทำ จะเกิดความเสียหายต่อธุรกิจ
“ส่งออกไปแค่ 1 ล้านกล่องถ้าไม่ทำเราก็ขาดทุนเสียหาย ภาครัฐก็ไม่ช่วยเหลือ ที่อื่นก็ทำเหมือนกันบางช่วงโดนลดโควตานมโรงเรียน ก็ต้องพยายามระบายออกตลาด คงไม่มีใครให้เงินมาจมไว้นานก็ยิ่งขาดทุนเพราะรัฐบาลไม่ช่วยเหลือในส่วนนี้ ซี่งไม่ทราบว่าสหกรณ์อื่นระบายไปต่างประเทศด้วยหรือไม่”
นายอำนวย กล่าวต่อว่า ส่วนการดำเนินการจากนี้ไป ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกระทรวงเกษตรฯ ถ้าตัดสิทธิโควต้านมลงร้อยละ 5 ตนจะอุทธรณ์เพราะทำให้ธุรกิจเสียหาย และขอยืนยันว่าการดำเนินการทั้งหมดถูกต้อง เนื่องจากไม่มีการนำนมในโครงการนมโรงเรียนมาจำหน่ายในประเทศตามข้อห้าม
ในประเด็นดังกล่าว พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรฯ ระบุว่าได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงไปแล้ว ซึ่งวันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน จะทราบผลโดยตนกำชับให้มิลค์บอร์ด ดำเนินการเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
“เรื่องนี้ถ้าพบการกระทำผิด มีการฝ่าฝืน ให้มิลค์บอร์ด ดำเนินการตามหลักเกณฑ์คือการตัดสิทธิ ทำอย่างตรงไปตรงมา อยากให้นมโรงเรียนมีมาตรฐานที่ดีโปร่งใส ตลอดห่วงโซ่ตั้งแต่เริ่มผลิต สัดส่วนโควต้า พิจารณาร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ ให้เด็กได้ดื่มนมช่วงเวลาที่เหมาะสม มีที่เก็บรักษาที่ดี การตรวจสอบให้ความเข้มข้นมากขึ้นป้องกันงบประมาณรั่วไหล”รมว.เกษตรฯกล่าว
ด้าน นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่ายังไม่เห็นหนังสือชี้แจงรายละเอียดการส่งนมโรงเรียนไปขายประเทศกัมพูชา จาก ประธานสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น
แต่อย่างไรก็ตามตราสัญลักษณ์นมโรงเรียน ก็ห้ามจำหน่ายทั้งในและส่งออกไปนอกประเทศ และต้องดูกฎหมายอื่นด้วยว่าตรานมโรงเรียน ส่งออกได้อย่างไร โดยเฉพาะกรมศุลกากร ว่ามีความผิดกฎหมายเกี่ยวข้องในการส่งออกด้วยอย่างไร
ทั้งนี้การทำฝ่าฝืนในหลักเกฑณ์ ต้องตัดสิทธิโควต้าร้อยละ 5 ในส่วนรายละเอียดข้อเท็จจริงมอบหมายให้นายศักดิ์ชัย ศรีบุญซือ รองปลัดกระทรวงเกษตรฯ ในฐานนะคณะอนุกรรมการสอบสวนความผิด จะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดตามคำสั่ง รมว.เกษตรฯ โดย วันศุกร์ที่ 10 มิ.ย. รวบรวมข้อมูลทั้งหมดเข้าที่ประชุมมิลค์บอร์ด
นายธีรภัทร กล่าวว่าภาคการศึกษาปี2558 มีนักเรียนทั่วประเทศ 7.6 ล้านคนได้รับนมแจกฟรีตามโครงการนมโรงเรียน มาปีการศึกษา2559 เด็กนักเรียนลดจำนวนลงเหลือ 7.4 ล้านคน โดยผู้ประกอบทุกแห่งถูกปรับลดโควต้าลงหมด และมาเฉลี่ยกัน ตามสัดส่วนการผลิตน้ำดิบที่เข้าโครงการนมโรงเรียน 1.2 พันตันต่อวัน
วันเดียวกันที่ศาลาว่าการจังหวัดขอนแก่น นายศิวาโรจน์ มุ่งหมายผล รอง ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานการประชุมแก้ไขปัญหานมโรงเรียน ครั้งที่ 1 / 2559 โดยมีเรื่องพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหานมโรงเรียนสนามบิน พร้อมมีคำสั่งจังหวัดขอนแก่น ที่ 533/ 2559 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงตามประกาศคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม เรื่อง หลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติโครงการอาหารเสริม(นม) โรงเรียนภาคเรียนที่ 2/ 2558
โดย น.พ.สมพงษ์ จรุงจิตตานุสนธิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นเปิดเผยว่า การตรวจสอบเบื้องต้นของนม ที่นักเรียนโรงเรียนสนามบินดื่มจนเกิดอาการท้องเสียและอาเจียน เข้ารักษาในโรงพยาบาล หลายคนนั้น เบื้องต้นได้รับทราบว่าในน้ำนมไม่พบเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายกับนักเรียนที่ดื่มนมโรงเรียน ส่วนอาการปวดท้อง อาเจียน หรืออื่นๆ อาจมาจากสารพิษบางตัวที่อยู่ใน นมโรงเรียน ที่นักเรียนดื่มเข้าไปก็ได้ จึงต้องรอผลตรวจสอบอาหารทุกชนิดที่ได้มาจากวันเกิดเหตุของโรงเรียนสนามบิน จากห้องแล็ปของศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 7 ขอนแก่น ที่คาดว่าจะรู้ผลในวันที่ 10 มิ.ย. 2559
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี