13 มิ.ย. 59 นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม (มิลค์บอร์ด) ได้มีมติตัดสิทธิร้อยละ 5 กรณีสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น นำนมโรงเรียนไปวางจำหน่ายประเทศกัมพูชา ซี่งมีผลวันที่ 20 มิ.ย.เป็นต้นไป ในส่วนโควตาที่เหลืออีก 200 วัน คิดเป็นเงินวันละ 2 แสนบาท พร้อมกับระงับการจำหน่าย และเร่งเก็บคืนระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือน และหน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินการเอาผิดด้านภาษีนำเข้าส่งออก การละเมิดแบรนด์นมโรงเรียนด้วย ภายในระยะเวลา 2 เดือน

"สำหรับหลักเกณฑ์การลงโทษ หลายฝ่ายมองว่าไม่มาก มิลค์บอร์ด มีมติเห็นชอบอนุกรรมการพิจารณาโทษ ไปปรับหลักเกณฑ์ครอบคลุมทำผิดประเด็นต่างๆ มากขึ้นในอนาคตทำผิดอีกจะโดนเบี้ยปรับ ซี่งโทษสูงสุดจนถึงให้สละสิทธิ์จากโครงการนมโรงเรียน ซึ่งได้เห็นใบลาออกของนายอำนวย ทงก๊ก ประธานสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จากคณะกรรมการผู้ทรงวุฒิในมิลค์บอร์ดแล้ว" นายธีรภัทร กล่าว

ส่วนกรณีปัญหานมบูดที่ จ.นครราชสีมา เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากนมโรงเรียน เพราะดื่มช่วงเช้า และเจ้าหน้าที่ไปสอบถามเด็กนักเรียนบอกว่านมมีรสขม ได้เร่งนำนมพาสเจอร์ไรส์ไปพิสูจน์ใช้เวลา 7 วัน แต่ในเบื้องต้นได้สั่งให้ ม.สุรนารี เก็บนมล็อตนี้คืนทั้งหมดมีจำนวน 1 พันถุงและนำนมยูเอชทีมาให้เด็กนักเรียนดื่มไปก่อนจนกว่าผลจะออกมา

ในส่วน จ.ขอนแก่น ทาง อย.แจ้งว่าผลตรวจคุณภาพนม ว่า มีจุรินทร์ทรีย์เป็นพิษหรือไม่ จะได้ผลวันพุธนี้ แต่เบื้องต้นได้ลงโทษสหกรณ์โคนมขอนแก่น ลดสิทธิ 5% รวมเวลา 260 วัน

นอกจากนี้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรฯ ได้สั่งการให้มิลค์บอร์ดออกมาตรการเข้มงวดในควบคุมคุณภาพนมและระบบเก็บรักษา การขนส่งอาจมีจุดอ่อน จึงมีปัญหานมบูดเสียมากขึ้น โดยมิลค์บอร์ดมีมติให้มีการควบคุมความปลอดภัยนมโรงเรียนตลอดห่วงโซ่โดยควบคุม 4 ส่วน ได้แก่ 1.ควบคุมคุณภาพน้ำนมดิบจากแหล่งผลิต 2.พัฒนาข้อกำหนดหลักประกันคุณภาพน้ำนมดิบ 3.พัฒนากลไกกำกับติดตามภาครัฐ 4.พัฒนากลไกการดำเนินงานความปลอดภัยผลิตภัณฑ์นม ร่วมกันระหว่างกระทรงงเกษตรฯ และกระทรวงสาธารณสุข ในช่วง 2 เดือนนี้ มอบหมายให้ อย. กรมปศุสัตว์ ครู ตรวจสอบทุกขั้นตอนก่อนถึงมือเด็กเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าเด็กนักเรียนได้ดื่มนมที่ดี ซึ่งรัฐจ้างผลิตนมพาสเจอไรส์ราคา 6.58 บาท นมยูเอชทีกล่อง 7.82 บาท มีผู้ประกอบการนมโรงเรียน 67 ราย ได้กำไรส่วนต่างรายละ 10%