23 มิ.ย.59 เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ นายชิตชนก สมประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา เปิดเผยว่า สถานการณ์ปริมาณน้ำภายในเขื่อนหลักทั้ง 5 แห่งของจังหวัดนครราชสีมา ในช่วงเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนพบว่าแต่ละเขื่อนนั้นยังคงมีปริมาณน้ำกักเก็บที่น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยภาพรวมมีปริมาณน้ำกักเก็บทั้ง 5 เขื่อน อยู่ที่ประมาณ 156.447 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นประมาณ 16 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งปริมาณฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ก็ยังไม่ส่งผลดีต่อการเพิ่มปริมาณน้ำกักเก็บในแต่ละเขื่อน
โดยเมื่อวานนี้วัดปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนประมาณ 420,000 หมื่นลบ.ม. เนื่องจากส่วนใหญ่ปริมาณฝนจะตกลงมาในพื้นที่ท้ายเขื่อน อย่างเช่นที่เขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เมื่อ 3 - 4 วันก่อนนี้มีปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนประมาณ 3 แสนลูกบาศก์เมตร แต่เมื่อวานนี้พบว่ามีน้ำไหลเข้าอ่างเป็น 0 ส่งผลให้ล่าสุดมีปริมาณน้ำที่สามารถใช้การเหลืออยู่ที่ 40.852 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 12.98% ของความจุกักเก็บ 314.49 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งทางเขื่อนลำตะคองต้องมีการปรับลดปริมาณน้ำออกจากเขื่อนจากเดิมที่เคยจัดส่งวันละ 432,000 ลบ.ม. เหลือเพียงวันละ 234.000 ลบ.ม. ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการรักษาปริมาณน้ำต้นทุนที่เหลือภายในเขื่อน อีกทั้งก็เพื่อให้สมดุลกับปริมาณน้ำในพื้นที่ท้ายเขื่อนที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นจากปริมาณฝนที่ตกลงมา
ทั้งนี้ ทางชลประทานยืนยันว่า ปริมาณน้ำที่เหลืออยู่นั้นเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคอย่างแน่นอน ขณะที่สถานการณ์ปริมาณฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ก็มีแนวโน้นที่จะดีขึ้น เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีการคาดการณ์ไว้ว่า ในช่วงเดือนสิงหาคมจนถึงเดือนตุลาคม ในพื้นที่จะมีปริมาณฝนตกมากว่าค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคาดว่าในช่วงนั้นแต่ละเขื่อนก็จะมีปริมาณน้ำกักเก็บเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี