วันศุกร์ ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
รายงานพิเศษ : แปลงใหญ่ประชารัฐ อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี ต้นแบบความสำเร็จของการเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไมร่วมกับปลานิล

รายงานพิเศษ : แปลงใหญ่ประชารัฐ อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี ต้นแบบความสำเร็จของการเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไมร่วมกับปลานิล

วันจันทร์ ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.
Tag : รายงานพิเศษ ประชารัฐ ปราจีนบุรี ปลานิล
  •  

การดำเนินงานตามนโยบายแปลงใหญ่ประชารัฐ ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายให้ทุกส่วนราชการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ โดยใช้กลไกประชารัฐในการขับเคลื่อนและให้ภาคธุรกิจเป็นกลไกกลางเชื่อมโยงระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตระหนักถึงความสำคัญของการลดต้นทุนการผลิตสัตว์น้ำ จึงได้ส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มเพื่อให้เพิ่มประสิทธิภาพในการเพาะเลี้ยงและการผลิต รวมทั้งผลักดันสหกรณ์ที่มีศักยภาพให้เชื่อมโยงกับบริษัทเอกชนในการพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปสัตว์น้ำ

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์  กล่าวว่าโครงการแปลงใหญ่ประชารัฐ เลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไมร่วมกับปลานิล อ.บ้านสร้างจ.ปราจีนบุรี เป็นผลมาจากคณะทำงานด้านการพัฒนาการเกษตรสมัยใหม่กลุ่มสัตว์น้ำ ได้ประชุมหารือร่วมกัน โดยภาคเอกชนโดยการรวมกลุ่มของอุตสาหกรรมแปรรูปสัตว์น้ำจะให้ความสนับสนุนด้านความรู้และเทคโนโลยีในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ข้อมูลทางการตลาด และส่งเสริมช่องทางการจัดจำหน่ายในรูปแบบประชารัฐ ทั้งนี้ ได้มีการลงบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือการขับเคลื่อนนโยบายประชารัฐ และการลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือการขับเคลื่อนนโยบายประชารัฐ ระดับพื้นที่ ระหว่างหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต เพิ่มการจ้างงานสร้างรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ และเพิ่มขีดความสามารถของภาคประชาชนและประชาสังคม


การเชื่อมโยงการตลาดโดยอาศัยกลไกประชารัฐ ได้แบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 รูปแบบ คือ 1.ดำเนินการโดยเกษตรกร ซึ่งเกษตรกรสามารถส่งจำหน่ายผลผลิตปลานิลสดให้กับแพปลาในพื้นที่ 9 แห่ง ได้แก่ แพปลามีชีวิต 3 ราย และแพปลาแช่น้ำแข็ง 6 ราย นอกจากนี้ ยังมีผลผลิตปลานิลสด ประมาณ 4 ตัน/วัน กุ้งขาว ประมาณ 3 ตัน/วัน และมีการแปรรูปปลานิล ในรูปแบบปลานิลแดดเดียวและปลานิลปลาร้าขายที่ตลาดเกษตรกรด้วย และ 2.สำหรับการดำเนินการโดยสหกรณ์ ได้มีการวางแผนการผลิตและการตลาด ตลอดห่วงโซ่การผลิตปลานิล ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน โดยดำเนินการตั้งแต่กระบวนการเตรียมบ่อ จัดหาปัจจัยการผลิต การให้ความรู้การผลิต และส่งเสริมช่องทางการตลาด รวมถึงการให้สหกรณ์เป็นตัวแทนเจรจาขายสินค้าของสมาชิกให้กับห้องเย็นหรือพ่อค้าอื่นๆ โดยสหกรณ์ทำหน้าที่ในการจัดหาปัจจัยการผลิต ได้แก่ พันธุ์ปลา อาหารปลา และเวชภัณฑ์ การให้สินเชื่อเพื่อการลงทุนปรับปรุงบ่อด้วย

นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่าในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี มีการดำเนินงานในรูปแบบ “ประชารัฐ”ที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม คือ บูรณาการร่วมระหว่างภาครัฐ เกษตรกร และภาคเอกชน ซึ่งที่ผ่านมาในพื้นที่มีการเลี้ยงปลานิลมาอย่างต่อเนื่องจนได้รับผลผลิตต่ำ ปลามีขนาดไม่สม่ำเสมอ คุณภาพไม่เหมาะกับการจำหน่าย เป็นปลามีชีวิตและผลผลิตต่อไร่ต่ำ ประมาณ 1,000 กิโลกรัมต่อไร่เท่านั้น และยังมีปัญหาเรื่องของกลิ่นโคลนในเนื้อปลาอีกด้วย และภายหลังจากได้ดำเนินการภายใต้โครงการประชารัฐรวมการผลิตเป็นแปลงใหญ่ ยังผลให้เกษตรกรได้ปรับเปลี่ยนมาเลี้ยงปลานิลร่วมกับกุ้งขาวแวนนาไมในบ่อดิน โดยเลี้ยงแบบ ปล่อยลูกปลาขนาด 15-20 ตัวต่อกิโลกรัม (น้ำหนักตัวประมาณ 50-60 กรัมต่อตัว) อัตราไร่ละ 2,000-2,500 ตัวเลี้ยง ประมาณ 6-7 เดือน มีอัตราการรอดจากเดิม ร้อยละ 40-50 เพิ่มเป็นร้อยละ 90 ระยะเวลาการเลี้ยงลดลง จากเดิม 10 เดือน เป็น 6 เดือน เกษตรกรสามารถเลี้ยงได้ 2 รอบต่อปี มีผลผลิตปลานิลเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ผลิตปลานิลได้ 1 รอบต่อปี เฉลี่ย 1,000 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี เพิ่มรอบการผลิตได้เป็น 2 รอบต่อปี ผลผลิตเพิ่มเป็น 4,260 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี คิดเป็น 3.26 เท่า ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้จากการขายปลานิลเพิ่มมากขึ้นและยังมีรายได้เสริมจากการเลี้ยงกุ้งขาว ที่ปล่อยไร่ละ 30,000 ตัวต่อไร่ อีกด้วย

สำหรับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำภายใต้รูปแบบประชารัฐนั้น มีสหกรณ์ที่ร่วมโครงการทั้งสิ้น 12สหกรณ์ ได้แก่ 1.สหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งจันทบุรี จำกัด จังหวัดจันทบุรี  2. สหกรณ์กุ้งตราด จำกัด จังหวัดตราด 3.สหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งตราดยั่งยืน จังหวัดตราด 4.สหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งลุ่มน้ำปากพนัง จำกัด จังหวัดนครศรีธรรมราช 5.สหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งนครปฐม จำกัด จังหวัดนครปฐม 6.สหกรณ์การเกษตรบ้านสร้าง จำกัด จังหวัดปราจีนบุรี 7.สหกรณ์นิคมบ้านสร้างพัฒนา จำกัด จังหวัดปราจีนบุรี 8.สหกรณ์การเกษตรเมืองแปดริ้ว จังหวัดฉะเชิงเทรา 9.สหกรณ์ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำตรัง จำกัด จังหวัดตรัง 10.สหกรณ์ประมงคุ้งกระเบน จำกัด จังหวัดจันทบุรี 11.สหกรณ์ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชลบุรี จำกัด จังหวัดชลบุรี และ 12. สหกรณ์ประมงพาน จำกัด จังหวัดเชียงราย

นายวิณะโรจน์กล่าวอีกว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์จะใช้กองทุนพัฒนาสหกรณ์ในสหกรณ์ประมง 12 สหกรณ์ ที่เข้ามาร่วมโครงการประชารัฐ โดยในเบื้องต้นกรมได้มีการให้กองทุนไปแล้วกว่า 65 ล้านบาท เพื่อให้สหกรณ์นำมาใช้พัฒนาสร้างความเข้มแข็ง นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีนโยบายที่จะให้กรมจัดหาแหล่งทุนอื่นๆ เพื่อให้เกษตรกรมาใช้ในการสร้างความเข้มแข็งในรูปแบบการปลอดดอกเบี้ย หรือ ดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งกรมได้วางโครงการในภาคประมงไว้กว่า 1 ร้อยล้านบาท โดยไม่นับรวมเรื่องของการดูแลภาคการตลาด ตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ซึ่งจะให้สหกรณ์เข้ามาร่วมงานกับทางภาคเอกชน กรมประมงและองค์การสะพานปลา หรือแม้กระทั่งของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ซึ่งคาดว่าจะทำให้การดำเนินงานภาคส่วนนี้มีความเข้มแข็งมากขึ้น พร้อมทั้งจะมีการขยายผลให้กับสหกรณ์อื่น จำนวน 45 สหกรณ์ จำนวน 5,000 ราย จำนวนพื้นที่ 25,000 ไร่ ส่งเสริมให้สหกรณ์มีการจัดตั้งกองทุนประกันราคาและรักษาสิ่งแวดล้อม ให้กับสมาชิกเพื่อบริหารความเสี่ยงเมื่อราคาตกต่ำ และการปรับปรุงบ่อ การบำรุงรักษาสภาพแวดล้อม เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน ส่งเสริมเกษตรกรให้ได้การรับรองมาตรฐาน GAP ฟาร์ม เพื่อสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินธุรกิจและตอบสนองความต้องการของสมาชิกอีกด้วย

ขณะที่ นายสนชัย คำพานนท์ ผู้จัดการนิคมสหกรณ์บ้านสร้างพัฒนา จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันนิคมสหกรณ์บ้านสร้างพัฒนา มีสมาชิก 223 คน ซึ่งสมาชิกทั้งหมดประกอบอาชีพการประมง 100% โดยส่วนใหญ่จะเลี้ยงปลานิลเป็นหลัก และจะมีการเลี้ยงปลายี่สก ปลานวลจันทร์ ปลาจีน ปลาตะเพียน เป็นปลาเสริมรายได้ หลังจากที่ได้เข้าร่วมโครงการประชารัฐก็มีหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนเข้ามาส่งเสริมการเลี้ยงปลาให้กับเกษตรกร โดยจะให้เกษตรกรรวมกลุ่มซื้อปัจจัยการผลิต วางแผนการผลิตปลาเพื่อให้ตอบรับกับความต้องการของตลาด เลี้ยงปลาให้มีขนาดและน้ำหนักที่ได้มาตรฐาน พร้อมทั้งการทำแพปลาหรือฟาร์มปลาให้ได้มาตรฐาน GAP นอกจากนี้ยังสนับสนุนให้เกษตรกรเลี้ยงกุ้งขาว ซึ่งก่อนหน้าที่จะเข้าร่วมโครงการเกษตรกรได้ซื้อกุ้ง 1 แสนตัว ในราคาตัวละประมาณ 12 สตางค์ แต่เมื่อเข้าร่วมโครงการแล้วเกษตรกรสามารถซื้อกุ้งในราคาตัวละ 4 สตางค์ นอกจากนี้นิคมสหกรณ์ฯมีแนวคิดที่จะทำกองทุนเพื่อจะป้องกันความเสี่ยงให้กับสมาชิก และการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยในส่วนนี้ทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้เข้ามาอบรมและนำองค์ความรู้ต่างๆ เข้ามาเพื่อตัวของสหกรณ์เองให้เกิดการคิดวิเคราะห์ เพื่อที่จะทำอย่างไรที่จะทำให้สมาชิกมีรายได้เพิ่มมากขึ้น มีการสร้างระบบการผลิตที่มีความเข้มแข็งและยั่งยืน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘กรมประมง’ยืนยัน‘ปลานิล-ปลาหมอคางดำ’ไม่ผสมข้ามสายพันธุ์ แถมเจอกันยังกัดแหลก ‘กรมประมง’ยืนยัน‘ปลานิล-ปลาหมอคางดำ’ไม่ผสมข้ามสายพันธุ์ แถมเจอกันยังกัดแหลก
  • รายงานพิเศษ : กระทรวง อว. โดย บพท. กอดคอ 7 หน่วยงาน เปิดมิติใหม่  ‘สลายความรุนแรงชายแดนใต้ ด้วยพลังความรู้สร้างอาชีพ’ รายงานพิเศษ : กระทรวง อว. โดย บพท. กอดคอ 7 หน่วยงาน เปิดมิติใหม่ ‘สลายความรุนแรงชายแดนใต้ ด้วยพลังความรู้สร้างอาชีพ’
  •  

Breaking News

แรงงานไทยเฮ! กรมการจัดหางานเปิดรับสมัครงานฮ่องกง พ่อครัว-เสิร์ฟ รายได้กว่า8หมื่น/เดือน

'ทรัมป์'ออกคำสั่ง! ห้าม'มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด'รับนักศึกษาต่างชาติ กดดันให้ย้ายที่เรียน

เบิกเนตร 7 ข้อ!‘มือปราบจำนำข้าว’ฉะอย่ามั่ว ลั่น‘ขายข้าว’หักลบกลบหนี้‘ยิ่งลักษณ์’ไม่ได้

อุกอาจ!! คนร้ายขับรถเก๋ง ‘สาดอาก้า’ ถล่มคู่อริดับคาร้านชำ-ตร.เร่งล่าตัว

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved