รีสอร์ทชื่อดังวังน้ำเขียว

โคราชฟันเบ็ดเสร็จอีก8

ทับเบิกปิดจ๊อบรื้อ19จุด

วันที่ 5 กันยายน นายชำนาญ กลิ่นจันทร์ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดิน (คปก.)จังหวัดนครราชสีมา ครั้งที่ 3/2559 ซึ่งมีว่าที่ ร.ต.นิรันทร์ ดุจจานุทัศน์ ปลัดจังหวัดนครราชสีมาเป็นประธาน มีมติให้สิ้นสุดการเข้าใช้ประโยชน์ที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 เนื่องจากนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ของทางราชการ โดยมีการนำไปสร้างเป็นรีสอร์ต ห้องพักและโรงแรม จึงนำมาสู่มติเพิกถอนสิทธิของผู้ครอบครองมีทั้งหมดรวม 8 ราย โดยมี 7 รายอยู่ในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว ส่วนอีก 1 รายอยู่ใน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา

นายชำนาญ กล่าวอีกว่า ในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว ผู้ถูกเพิกถอนสิทธิ ประกอบไปด้วย 1.นางพรทิพย์ หรือ นางนันทภัค สุรคุปต์ ภรรยาของ พล.ต.ต.มหัคฆพันธ์ สุรคุปต์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3, ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และเป็นอดีตประธานกรรมการวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุน จ.นครราชสีมา เจ้าของโรงแรมกระท่อมหินนันทภัค รีสอร์ท ซึ่งเป็นรีสอร์ต ชื่อดังของ อ.วังน้ำเขียว ครอบครองทำประโยชน์ในนาม ของ นางนันคภัค บนพื้นที่ 42-2-79 ไร่ และยังได้กว้านซื้อพื้นที่ข้างเคียงอีกกว่า 100 ไร่ ซึ่งจะต้องมีการสั่งให้สิ้นสุดสิทธิการเข้าใช้ประโยชน์ทั้งหมด และยังเข้าข่ายตามคำสั่ง ของ คสช. ที่ใช้อำนาจ ม.44 ตามรัฐธรรมนูญ ด้วย

2.นางเสาวนีย์ จิตรยรรยง เนื้อที่ 50-0-0ไร่ 3.นางสาววาริชา หงสกุล ครอบครองพื้นที่ 24-1-01ไร่ 4.นายพัฒนศักดิ์ สุวรรณพัฒนะ เนื้อที่ 19-2-27 ไร่ 5.นางยุพาภรณ์ เอมสุข เนื้อที่ 19-2-27 ไร่ 6.นางทิม ผันสำโรง ครอบครองเนื้อที่ 10-0-89 ไร่7.นายสำราญ พรมกิ่ง เนื้อที่ 10-1-40 ไร่ และ 8.นางเทศ ยอดกระโทก ที่ อ.ครบุรีขายที่ดินให้กับ นางกานดา ลาดกระโทก มีพื้นที่ 11-0-08 ไร่ รวมพื้นที่ที่สั่งให้สิ้นสุดการเข้าใช้ประโยชน์มากกว่า 200ไร่

สำหรับขั้นตอนจากนี้ทาง ส.ป.ก.จะทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรแจ้งไปยังผู้ครอบครองทั้ง 8 ราย ให้ออกจากพื้นที่เพื่อยึดคืนที่ดิน ส.ป.ก. ส่วนผู้ครอบครองจะยื่นคัดค้านหรือไม่ก็เป็นสิทธิที่กระทำได้ จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป

เช้าวันเดียวกันที่บริเวณหน้าที่ว่าการ อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผวจ.เพชรบูรณ์ นายบุญลาภ สุกใส ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก กรมป่าไม้ นายชิต อินทรนก ป่าไม้จังหวัดเพชรบูรณ์ ร่วมปลอยแถวเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำรวจ ปกครอง ทหาร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 750 นาย พร้อมเครื่องจักรหนัก เดินหน้ารื้อถอนทับเบิก”ภูฎาน” ซึ่งเป็นหนึ่งใน 19 รีสอร์ท ที่คดีถึงที่สุดในชั้นศาลแบะถูกสั่งให้ดำเนินการรื้อถอนตามมาตรา 44ของ คสช.

โดยก่อนเข้ารื้อถอนเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิด หรือชุด EOD เข้าเคลียร์พื้นที่รอบทับเบิกภูฎาน เพื่อป้องกันเหตุร้าย จากจึงทำการรื้อถอนสุขภัณฑ์ภายในอาคารบางส่วนที่พอจะรื้อถอนได้ ส่วนอาคารปูน 3 ชั้น ต้องใช้เครื่องจักรหนักในการดำเนินการรื้อถอน พร้อมทั้งเก็บกู้ซาก คาดว่าใช้เวลาประมาณ 3 วันน่าจะทำการเคลียร์พื้นที่ทับเบิกภูฎาน ได้สำเร็จ สำหรับการรื้อถอนหนนี้ ทับเบิกภูฎาน ถือเป็นแห่งสุดท้ายที่ต้องดำเนินการรื้อถอน เพราะส่วนใหญ่แล้วผู้ประกอบการรีสอร์ท หลายรายได้ยอมที่จะดำเนินการรื้อถอนเองไปก่อนหน้านี้แล้ว

ผวจ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า ภารกิจที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งขณะนี้เหลือเพียงแห่งเดียว คือ ทับเบิกภูฏานที่ขณะนี้ได้เก็บทรัพย์สินออกเกือบหมดแล้ว และขอให้เจ้าหน้าทีทุกท่านปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง

ทั้งนี้ ผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมาจากคำสั่งรื้อถอนรีสอร์ตและสิ่งปลูกสร้าง 19 แห่งปรากฎว่าได้ดำเนินการรื้อถอนไปแล้ว 11 แห่งได้แก่คานาอัน ร้านค้า(แห่งที่1) คานาอัน บ้านพัก (แห่งที่2) บ้านสายหมอกรีสอร์ต บ้านน้ำดอยเพียงดิน(ภูทองคำ) อิงฟ้าภูทับเบิกรีสอร์ทต์ สกายวิว บ้านชมวิว โฮมสเตย์ลุงท้าย ทับเบิกอินดี้ ทับเบิก อีโค แคมป์ และรีสอร์ทไม่มีชื่อ ซึ่งเป็นห้องพัก 121 ห้อง ร้านอาหาร 9 แห่ง อยู่ระหว่างการรื้อถอน 7 แห่ง ได้แก่ โรงเตี๊ยม สานฝันรีสอร์ต ไร่ตายาย ทับเบิกวิลเลจ เคียงดาว มอนเตอรีโอ รีสอร์ท ประชารีสอร์ตภูทับเบิก รวมทั้งทับเบิกภูฏานแห่งสุดท้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเข้าไปรื้อถอนทับเบิกภูฎานเจ้าหน้าที่ได้ได้เข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินจัดทำทะเบียนเสร็จแล้ว ฝ่ายรื้อถอนได้เข้ารื้อและเก็บทรัพย์สินนำไปเก็บรักษาไว้ที่กองพันทหารม้าที่ 28 ค่ายพ่อขุนบางกลางหาว แล้ว ใช้รถแบ็คโฮจำนวน 2 คันเข้าทำการทุบและรื้อถอนท่ามกลางสายตาของนักท่องเที่ยวและชาวบ้านที่อยู่ในละแวกนั้น เนื่องจากอยู่ใกล้ชุมชนและจุดชมวิวที่สูงที่สุดของภูทับเบิก

ด้าน นายวันชัย ชยารมย์ ตัวแทนกลุ่มรีสอร์ทภูทับเบิก และ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 16 บ้านทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า เมื่อคืนได้ประชุมกลุ่มผู้ประกอบการรีสอร์ทบนภูทับเบิก เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกรณีจะมีการรื้อถอนรีสอร์ทในโซนหมู่บ้าน และหลายฝ่ายเกรงเกิดการต่อต้านและขัดขวางทางเจ้าหน้าที่เหมือนเหตุการณ์เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา ปรากฎว่าทุกคนต่างเข้าใจดี ไม่มีใครต่อต้าน

นายวันชัย ยังยืนยันว่า ไม่มีผู้ประกอบการรีสอร์ทภูทับเบิกรายใดโทรศัพท์ไปข่มขู่เจ้าหน้าที่รัฐห้ามทำการรื้อถอนรีสอร์ท และอยากเรียกร้องให้ตำรวจคลี่คลายคดีนี้โดยเร็ว ว่าเป็นใคร เป็นมือที่ 3หรือไม่และยื่นยันว่า ชาวม้งภูทับเบิกไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แน่นอน