เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 16 ก.ย.59 ร.ต.อ.อภินันท์ พลศร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจากนายศักดิ์เทพ ชุมนุมมณี ผู้บัญชาการทัณฑสถานวัยหนุ่มนครศรีธรรมราช ว่า มีเหตุ 2 นักโทษชาย (นช.) ปีนกำแพงเรือนจำหลบหนีไปได้ เหตุเกิดเมื่อเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา
หลังรับแจ้งแล้วจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อดิศักดิ์ เทพวรรณ์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช, พ.ต.อ.รังสรรค์ สุขเกื้อ ผกก.กก. สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช และกำลังตำรวจสายตรวจ, กำลัง กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช และชุดจู่โจม นปพ.นครศรีธรรมราช รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุทันที
ที่เกิดเหตุเป้นบริเวณด้านหลังเรือนจำ ที่กำแพงพบว่ากลุ่มเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ กำลังวุ่นอยู่กับการติดตามตัวผู้ต้องขังที่หลบหนีจำนวน 2 คน บริเวณรอบๆกำแพงเรือนจำเนื้อที่จำนวน 9 ไร่ มีกำแพงสูงประมาณ 10 เมตรเศษ และมีสายไฟฟ้าแรงสูงล้อมรอบรั้วรอบกำแพง โดยที่เกิดเหตุอยู่บริเวณกำแพงด้านหลังเรือนจำทัณฑสถานวัยหนุ่ม ซึ่งเจ้าหน้าที่พบหลักฐานเป็นผ้าห่มสีน้ำเงิน จำนวน 3 ผืน นำมาต่อๆกันแล้วมีการม้วนทำเป็นเกลียวยาวประมาณ 10 เมตร ห้อยคาติดอยู่กับสายไฟรั้วริมกำแพงเรือนจำทั้งสองด้าน และมีท่อพีวีซีขนาดความยาวประมาณ10 เมตรเศษวางพาดพิงกับกำแพงเรือนจำ
จากการตรวจสอบพบนักโทษที่หลบหนีแหกคุกครั้งนี้ ทราบชื่อว่า นายธีรยุทธ หรือ มุ้ย ชูแก้ว อายุ 32 ปี เป็นนักโทษคดี พ.ร.บ.อาวุธปืนสงคราม และคดีพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน เมื่อปี 2558 และคดียาเสพติด ซึ่งมีประวัติโชกโชนมีหมายจับคดียาเสพติดและอาวุธปืนหลายคดี และเป็นมือปืนรับจ้างระดับต้นของตำรวจภูธรภาค 8
เมื่อประมาณเดือน ก.พ.2558 กำลังตำรวจ และทหารเคยล้อมจับนายธีรยุทธ บนเขาสวนอ้ายเลา อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งนายธีรยุทธ หรือ มุ้ย ได้ใช้อาวุธปืนยาวยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร และยิงเจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บจำนวน 1 ราย ก่อนที่นายธีรยุทธ หรือ มุ้ย จะแหวกวงล้อมเจ้าหน้าที่หลบหนีไปได้หวุดหวิด และมีการเข้ามอบตัวกับตำรวจในเวลาต่อมา หลังจากถูกเจ้าหน้าที่กดดันอย่างหนัก ซึ่งคดีอยู่ระหว่างการพิจาณาของศาล
ส่วนนักโทษอีกคนที่หลบหนีชื่อนายสมชาย ไทยบุรี อายุ 40 ปี เป็นนักโทษเด็ดขาดคดี พ.ร.บ.ยาเสพติด ซึ่งศาลได้ตัดสินจำคุกจำนวน 10 ปี 4 เดือนแล้ว
จากการสอบสวนทราบว่า ทัณฑสถานวัยหนุ่มนครศรีธรรมราช มีนักโทษถูกคุมขังอยู่ประมาณ 920 คน ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าเวลาประมาณ 05.00 น. เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้ปล่อยให้บรรดานักโทษทั้งหมดออกมาจากเรือนนอนเพื่อทำภารกิจประจำวันตามปกติ จังหวะนั้นนายธีรยุทธ ซึ่งนุ่งกางเกงขาสั้น เสื้อยืดสีแดง และนายสมชาย ซึ่งนุ่งกางเกงสีน้ำเงิน สวมเสื้อสีขาว ซึ่งคาดว่า 2 นักโทษมีการเตรียมการหลบหนีไว้แล้ว ได้แอบมาทางกำแพงด้านหลัง แล้วนำผ้าห่มสีน้ำเงินจำนวน 3 ผืน มาผูกมัดต่อกันเป็นเกลียวยาวประมาณ 10 เมตร แล้วใช้ท่อพีวีซีขนาดความยาว 10 เมตร ใช้คล้องผ้าห่มที่มัดเป็นเกลียวยาวให้ผ้าไปมัดกับเสากำแพงและห้อยผ้าห่มข้ามกำแพงเรือนจำ
ก่อนที่นักโทษทั้ง2 จะปีนข้ามกำแพงเรือนจำ และกระโดดข้ามสายไฟฟ้าแรงสูงปีน หลบหนีไปทางด้านหลังเรือนจำทันที ซึ่งด้านหลังมีสวนมะพร้าวป่ารกทึบและบ้านของผู้คุมเรือนจำอยู่จำนวนหลายหลัง แต่ก็หลบหนีรอดสายตาเจ้าหน้าที่ไปได้หวุดหวิด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี