วันจันทร์ ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
กักโรค‘เปรมชัย’  ผู้ต้องหาเอี่ยวตึกสตง.ถล่ม  เฝ้าดูอาการในแดนพยาบาล

กักโรค‘เปรมชัย’ ผู้ต้องหาเอี่ยวตึกสตง.ถล่ม เฝ้าดูอาการในแดนพยาบาล

วันจันทร์ ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : เรือนจำ กักโรค ตึกสตง. เปรมชัย กรมราชทัณฑ์
  •  

กรมราชทัณฑ์กักโรค “เปรมชัย-พิมล” คดีตึกสตง.พังถล่ม เฝ้าดูอาการที่แดนพยาบาล ยังไม่ย้ายไปนอน รพ.ราชทัณฑ์ ด้าน “เรืองไกร” บี้นายกฯควรยกเลิกมติครม.อนุมัติงบเพิ่มค่าควบคุมงานก่อสร้างตึก สตง.แห่งใหม่ จาก 76 ล้านบาท เป็น 84ล้านบาท ยังมีผลอยู่หรือไม่

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2568 นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำ (ผบ.เรือนจำ) จังหวัดนนทบุรี ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีคดีตึก สตง.หลังใหม่พังถล่ม ว่า วานนี้ (วันที่ 17พฤษภาคม2568 ) เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ได้รับตัวฝากขังผัดแรก ในส่วนของผู้สูงอายุ 2ราย คือ นายพิมล เจริญยิ่งและนายเปรมชัย กรรณสูต ทางพยาบาลเรือนจำประเมินแล้วเป็นผู้ต้องขังสูงอายุ มีโรคประจำตัว ช่วยเหลือตัวเองลำบาก จึงให้แยกกักโรคโควิด-19 เพื่อเฝ้าดูอาการที่แดนพยาบาล และจัดให้มีอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำ (อสรจ.) ซึ่งเป็นอดีตแพทย์เป็นผู้ดูแล เรือนจำอนุญาตให้ได้รับยารักษาโรคประจำตัวที่ติดตัวมาด้วย ขณะนี้ทั้งคู่ยังคงอยู่ในแดนพยาบาลของเรือนจำฯยังไม่ได้มีการส่งตัวออกรักษายังทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แต่อย่างใด


นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เปิดเผยว่า หลังจากศึกษามติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เกี่ยวกับงบ สตง. ล่าสุด วันนี้จึงได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้นายกรัฐมนตรี ตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีลงวันที่ 11 ก.พ.2568 ที่อนุมัติเพิ่มวงเงินรายการค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ จากเดิมวงเงิน 76,800,000 บาท เป็นวงเงิน 84,371,916บาทนั้น ยังมีผลอยู่หรือไม่ หลังจากอาคาร สตง.ถล่มทั้งตึก มติคณะรัฐมนตรีในเรื่องนี้ ได้ยกเลิก หรือไม่มติ ครม.ดังกล่าว มีความเห็นของกระทรวงคลังและสำนักงบประมาณ รวมอยู่ด้วย ล้วนเป็นตัวหนังสือที่ประกอบด้วยข้อกฎหมายและความเห็นที่มีลักษณะเหมือนกับมติ ครม.เรื่อง อื่นๆ คือ มีแต่คำแนะนำ ข้อเสนอ แต่ไม่พบการตรวจสอบข้อบกพร่องแต่อย่างใด ซึ่งคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีที่ขาดประสบการณ์เรื่องบริหารราชการแผ่นดินก็คงยากที่จะเข้าใจกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ

นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า วันนี้จึงยกมติ ครม.วันที่ 11ก.พ.2568 เรื่อง เพิ่มวงเงินให้ สตง. มาสรุปให้นายกรัฐมนตรีได้นำไปพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ตามความในหนังสือที่เกี่ยวข้อง 4ฉบับ ดังนี้ เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2567 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินโดยนายมณเฑียร เจริญผล ได้มีหนังสือที่ ตผ 0013/9610 ขอเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติเพิ่มวงเงินรายการค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ จากเดิมวงเงิน 76,800,000 บาท เป็นวงเงิน 84,371,916 บาทเมื่อวันที่ 16ม.ค.2568 กระทรวงการคลังโดยนายพิชัย ชุณหวชิร มีความเห็นว่า เพื่อให้งานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ ได้มีการควบคุมการก่อสร้างให้เป็นไปตามหลักวิศวกรรม มีความถูกต้อง ครบถ้วน ตามแบบรูปรายการรายละเอียดและข้อกำหนดของสัญญา ทำให้อาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินบรรลุวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้จัดทำรายละเอียดข้อมูลที่หน่วยงานของรัฐต้องเสนอพร้อมกับการขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรีตามบทบัญญัติในมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติวินับการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 และประกาศคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ เรื่อง การดำเนินกิจกรรม มาตรการ หรือโครงการที่ก่อให้เกิดภาระต่องบประมาณหรือภาระทางการคลังในอนาคต พ.ศ. 2561 เรียบร้อยแล้ว จึงเห็นสมควรที่คณะรัฐมนตรีจะอนุมัติเพิ่มวงเงินรายการค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ จากเดิมวงเงิน 76,800,000 บาท เป็นวงเงิน 84,371,916 บาท ตามที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเสนอ

ทั้งนี้ ควรให้ความสำคัญกับการควบคุมและกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับการจัดสรรงบประมาณให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2568 สำนักงบประมาณโดยนายอนันต์ แก้วกำเนิด ขอเรียนว่า รายการค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ เป็นรายการที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 – พ.ศ. 2566 วงเงินตามสัญญา จำนวน 74,653,200 บาท และคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินได้มีมติให้ขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณจาก พ.ศ. 2563 – พ.ศ. 2566 เป็น พ.ศ. 2563 – พ.ศ. 2569 เนื่องจากมีความจำเป็นต้องขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณให้สอดคล้องกับระยะเวลาของการก่อสร้าง กรณีงานรื้อถอนสิ่งก่อสร้างเดิมและแก้ไขแบบก่อสร้าง ส่งผลให้วงเงินของรายการค่าควบคุมงานก่อสร้างเพิ่มขึ้น ซึ่งสำนักงบประมาณได้พิจารณาความเหมาะสมของราคาค่าควบคุมงานรายการดังกล่าว ภายในกรอบวงเงิน 9,718,716 บาท

ดังนั้น เพื่อให้การควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ สามารถดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการ จึงเห็นสมควรที่คณะรัฐมนตรีจะพิจารณาให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเพิ่มวงเงินรายการค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ จากวงเงินเดิมที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ก่อหนี้ผูกพันไว้เดิมจำนวน 76,800,000 บาท เป็นวงเงิน 84,371,916 บาท ตามนัยข้อ 7 (3) ของระเบียบว่าด้วยการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 สำหรับวงเงินของรายการค่าควบคุมงานก่อสร้างที่เพิ่มเติมดังกล่าว ให้ใช้จ่ายจากเงินรายได้ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินสมทบเงินงบประมาณรายจ่าย ร้อยละ 30 และใช้จ่ายจากเงินงบประมาณรายจ่าย ร้อยละ 70 โดยปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และสัญญาที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน และต่อรองราคาตามสัดส่วนผลงานที่ผู้ให้บริการได้เข้าควบคุมงานจริงจนถึงที่สุดด้วย เพื่อจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณในการเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป ต่อมา เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2568 ตามหนังสือที่ นร 0505/3895 สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เรียน ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน โดยมีความสำคัญสรุปได้ว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2568 อนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณและให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินรับความเห็นของกระทรวงการคลังไปพิจารณาดำเนินการต่อไป

นายเรืองไกร กล่าวทิ้งท้ายในหนังสือว่า ภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2568 ต่อมาเพียงเดือนเศษ คือวันที่ 28 มีนาคม 2568 อาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) ก็ได้ถล่มลงมาจนเสียหายทั้งอาคาร ดังความที่ควรทราบโดยทั่วไปแล้วนั้น

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • กักโรค‘เปรมชัย-พิมล’คดีตึก สตง.ถล่ม ยังไม่ย้ายนอน‘รพ.ราชทัณฑ์’ กักโรค‘เปรมชัย-พิมล’คดีตึก สตง.ถล่ม ยังไม่ย้ายนอน‘รพ.ราชทัณฑ์’
  • แยกขัง ‘เปรมชัย-พิมล’ ยังไม่ส่งรักษานอกเรือนจำ 14 ผู้ต้องหาตึกสตง.นอนคุกคืนแรกไม่เครียด แยกขัง ‘เปรมชัย-พิมล’ ยังไม่ส่งรักษานอกเรือนจำ 14 ผู้ต้องหาตึกสตง.นอนคุกคืนแรกไม่เครียด
  • ด่วน! ‘เปรมชัย-พวก’นอนคุก! ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว ด่วน! ‘เปรมชัย-พวก’นอนคุก! ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว
  • เปิดคำร้อง! พนักงานสอบสวนขอฝากขัง ‘เปรมชัย-พวก’ คดีตึก สตง. ค้านประกันกลัวหนี เปิดคำร้อง! พนักงานสอบสวนขอฝากขัง ‘เปรมชัย-พวก’ คดีตึก สตง. ค้านประกันกลัวหนี
  • ฝากขัง 15 ผู้ต้องหาเอี่ยวตึก สตง. ถล่ม ผลัดแรก คัดค้านประกันตัว \'เปรมชัย\'ปัดตอบสื่อ ฝากขัง 15 ผู้ต้องหาเอี่ยวตึก สตง. ถล่ม ผลัดแรก คัดค้านประกันตัว 'เปรมชัย'ปัดตอบสื่อ
  • ผู้ต้องหาเอี่ยวตึก สตง.ถล่ม ให้การปฏิเสธ ตร.เตรียมนำตัวไปฝากขัง-ค้านประกัน ผู้ต้องหาเอี่ยวตึก สตง.ถล่ม ให้การปฏิเสธ ตร.เตรียมนำตัวไปฝากขัง-ค้านประกัน
  •  

Breaking News

สลด! เก๋งเมาแอ๋เสยท้าย จยย. 'ส.ท.' 4 สมัยเสียชีวิตพร้อมภรรยา

เปิดประตูการค้าในสหภาพยุโรป! ชู Soft Power ด้านอาหาร กีฬา ดันมวยไทยสู่เวทีโลก พร้อมดึงแข่ง F1 มาไทย

'บ้านใหญ่'ยังกิน! แนะ'พรรคส้ม'ควรโฟกัสยึดอำนาจรัฐระดับชาติก่อน

ปิดจบแบบสมศักดิ์ศรี! 'ชมพู่ อารยา'สวมชุดโบว์ยักษ์สุดอลังการ สวยฟาดส่งท้ายพรมแดงคานส์

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved