เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทันที กรณีที่ "อ๊อด-บัณฑิต ทองดี" นายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว "บัณฑิต ทองดี" เปิดเผยกรณีถูก น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย อดีตศิลปินกองการสังคีต กรมศิลปกากร เข้าร้องเรียนต่อสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (วิทยาลัยนาฏศิลป์) ถึงความเหมาะสมของมิวสิควิดีโอเพลง "เที่ยวไทยมีเฮ" ที่ "อ๊อด บัณทิต" ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมผลิตเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยมีการนำตัวละครจากเรื่องรามเกียรติ์ มาร่วมแสดง โดยที่ประชุมผู้ทรงคุณวุฒิและนักวิชาการจากสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ให้เหตุผลว่า ติดใจที่นำ "ทศกัณฐ์" ราชาแห่งยักษ์ทั้งปวง และเป็นตัวละครในวรรณคดีที่สง่างาม น่าเกรงขาม มาทำกิจกรรมที่ดูไม่เหมาะสม อาทิ หยอดขนมครก ขับโกคาร์ท ถ่ายเซลฟี่ เป็นต้น
ขณะที่ "อ๊อด บัณฑิต" โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "คุณค่าทางวัฒนธรรมควรเก็บไว้แค่บนหิ้งหรือไร นำมาต่อยอดเพื่อประโยชน์ของชาติก็ไม่ได้ ถูก...กับ...เรียกไปขู่ว่าจะฟ้อง โทษฐานทำลายวัฒนธรรมชาติ"
นอกจากนี้ "อ๊อด บัณฑิต" ยังให้สัมภาษณ์เปิดใจต่อสื่อมวลชน ว่า ระหว่างการประชุม น.ส.ลัดดา กล่าวว่า สามารถล่ารายชื่อ 1 หมื่นรายชื่อ เพื่อฟ้องร้องทีมงานได้ เพราะมีกฎหมายคุ้มครองวัฒนธรรม ซึ่งตามจริงไม่ต้องนำกฎหมายมาอ้างก็ทำให้อยู่แล้ว และขออธิบายว่า ระหว่างการถ่ายทำ คนสวมหัวโขนในเรื่องเป็นเด็กจากวิทยาลัยนาฏศิลป์ หัวหน้าทีมผู้คุมการแสดงก็เป็นคนของกรมศิลปากร ซึ่งเป็นผู้ให้คำปรึกษาตลอดการถ่ายทำ แต่หากทางคณะกรรมการให้แก้ตนก็ยินดี แต่หากแก้แล้วยังไม่เป็นที่พอใจ แต่หากเห็นว่าไม่สมควรจะแบนไม่ให้ออกอากาศก็ต้องเป็นไปตามขั้น เข้าใจดีว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
ด้านบุคคลที่มีเสียงชื่อทั้งด้านวงการบันเทิง วงการศิลปวัฒนธรรม วงการภาพยนต์ ก็ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวเรื่องนี้ดังนี้
ยุทธนา มุกดาสนิท ผู้กำกับภาพยนตร์ นักเขียน และนักเขียนบทละครเวทีและภาพยนตร์ โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว "Euthana Mukdasanit" ข้อความว่า "!!! เอาวิดีโอเพลง "เที่ยวไทยมีเฮ" ที่กำลังเป็นปัญหาอยู่มาให้เพื่อนๆ ลองชม
...ส่วนตัวได้ดูแล้วก็ว่าน่ารักดี...แต่ถ้าถามว่าดีหรือไม่ ก็จะบอกว่าไม่ดี!!!!
ด้วยเหตุผล 2 ประการ 1.จากเคมเปญเที่ยวไทยทำให้เห็นตัวละครมากกว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าชมต่างๆ....
2.ศิลปวัฒนธรรมการแสดงชั้นสูงของไทยที่เรียกว่าโขนนั้น มีการพัฒนามาหลายร้อยปีจนอยู่ในระดับคลาสสิค และจะแสดงอยู่เพียงเรื่องเดียวคือ รามเกียรติ เพื่อเชิดชูประเด็น ธรรมย่อมชนะอธรรม เพื่อเชิดชูพระมหากษัตริย์เท่านั้น...
มีทั้งการแสดง โขนโรงใน โขนกลางแปลง โขนฉาก และโขนหน้าจอเป็นต้น...ซึ่งถ้าใครเคยดูและดูเป็นจะรู้ว่าวิจิตรงดงามมากในทุกมิติ...การแสดงที่หยิบยืมมาแต่เฉพาะตัวละครมาพัฒนาดนตรีและท่าเต้น เพื่อขายการท่องเที่ยวย่อมทำได้ แต่จะได้ผลบวกสมดังเจตนาหรือไม่ ผมไม่แน่ใจ.....
ปล.อ่านในเนื้อข่าวที่คุณพิเชษฐ์ให้สัมภาษณ์แล้วออกจะงงๆ เพราะเนื้อหามีแต่ประเด็นเสียดสีมิได้แยกแยะว่ามีผลดีร้ายอย่างไรบ้าง!!! น่าจะแจ้งให้ทราบว่านี่ไม่ไช่โขน แต่เป็นงานคอนเทมป์เพื่อขายการท่องเที่ยวเท่านั้นมากกว่า"
ต่างจาก พิเชษฐ กลั่นชื่น ศิลปินนักรำไทยที่ได้รับการฝึก "โขน" จาก ครูชัยยศ คุ้มมณี ครูโขนอาวุโสของกรมศิลปากร ที่ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว "Pichet Klunchun" ข้อความว่า "การเติบโตทางวัฒนธรรม ด้านความคิด การกระทำ จิตใจ ของคนที่ข้องเกี่ยวกับงานศิลปะจะเป็นส่วนสำคัญในการนำพาให้ศิลปะแบบดั้งเดิม ยังคงดำรงอยู่ได้อย่างสง่างาม การปิดกั่นวัฒนธรรม ทางความคิด การกระทำและจิตใจ ก็รังแต่จะส่งผลให้ศิลปะแบบดั้งเดิม เสื่อมถอยลดน้อยลงไปจากสังคม การปิดกันไม่ให้ผู้อื่นแสดงออกแม้แต่ความคิดนั้น มันสะท้อน ให้เห็นถึง อาการด้อยภูมิทางความรู้ ของคนผู้นั้นและสิ่งนั้นไปพร้อมๆ กัน ศิลปะแบบประเพณีไม่ต้องการการปกป้องจากวาจาที่ทำร้ายกันของคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่ง ไม่ต้องการการปกป้องด้วยกฏข้อบังคับทางสังคม
วิธีเดียวที่จะปกป้องงานศิลปะแบบดั้งเดิมได้นั้นคือทำให้งานศิลปแบบดั้งเดิมปกป้องตัวมันเองให้ได้ โดยปราศจากการปรุงแต่งด้วยสิ่งอันไร้สาระทั้งปวง แสดง นำเสนอ หาวิธีให้คนทั่วไปรับรู้ให้ได้ว่ามันมากกว่าคำว่า วัฒนธรรมประจำชาติ นี้เป็นการทับซ้อนกันทางสภาวะของความคิดความรู้สึกที่มีต่อความเชื่อและความจริง ที่เรารับรู้ซึมซาบเข้าไว้ในตัวเราผ่านวัฒนธรรมและความเชื่อ มีความจริงที่ไม่จริงแฝงอยู่ มีความไม่รู้แก่กูรัก
อะไรคือความไม่เหมาะสมมากกว่ากันระหว่างที่ทศกัณฐ์ทำกิจกรรมไม่เหมาะสม กับผู้แสดงกินเหล้าก่อนแสดง ผู้แสดงไม่ฝึกซ้อม ผู้แสดงมีความไม่พร้อมทางร่างกายที่อ้วนลงพุง การแสดงที่ควรจะอยู่ในโรงละคร กับไปอยู่ในร้านอาหาร ข้างถนน บนโรงแรม หรือล่องเรือชมแม่น้ำเจ้าพระยา มีเรื่องอีกมากมายที่เกิดขึ้นกับนาฏศิลป์ไทยที่ไม่เหมาะสม แต่ไม่ถูกพูดถึง เพราะมันอยู่ที่ใครทำ พวกใคร และใครได้อะไร ก็เรื่องเดิม แยกไม่ออกระหว่างวัฒนธรรม ความเชื่อ ความจริงและเวลาปัจจุบัน"
เช่นเดียวกับ "กอล์ฟ-ฟักกลิ้ง ฮีโร่" ศิลปินแร็ปเปอร์ชื่อดัง ที่โพสต์ข้อความผ่านเพจ "ฟักกลิ้ง ฮีโร่" ข้อความว่า "อ่านข่าวนี้แล้วปวดจิต ไม่คิดกันบ้างเหรอครับว่าอีกไม่นานท่านก็ตาย ผมก็ตาย เราทุกคนก็ต้องตาย ศิลปะวัฒนธรรมต้องถูกส่งต่อให้คนรุ่นใหม่สืบทอด นี่คือสิ่งที่ยั่งยืน การเอาสายตาท่านมองแทนมุมของเขารังแต่จะทำให้เขาหันหลังให้สิ่งนี้ไปเรื่อยๆ
รากนั้นหากมั่นใจว่ายึดอยู่ในดินแข็งแรงดีแล้ว ก็ควรปล่อยให้ใบ ดอก ผล ผลิออกไปตามธรรมชาติที่ควรจะเป็นน่าจะดีกว่า เห็นมีแมลงมาเจาะใบ พายุแรงโหมพัดค่อยมาดูแลกันไม่ดีกว่าเหรอครับ นี่เพียงกิ่งก้านเติบโตไม่เป็นทรงเดิมเสียหน่อยก็เอากรรไกรไปตัดกิ่งเสียแล้ว แล้วต้นไม้ต้นนี้จะเติบโตได้อย่างไรในเมื่อใบมันน้อย แต่รากมันโตเหลือเกิน
กายเราคราฝังดินมันก็เป็นแค่ปุ๋ย รักสิ่งนั้นจริง ควรหรือที่จะกอดสิ่งนั้นให้ตาย ย่อยสลายไปกับเรา การจับวัวนุ่งโจงกระเบน ไม่เกิดประโยชน์ถ้ามันลืมตีน แล้วถ้ายักษ์รำใส่กางเกงยีนส์ ถามว่านั่นยังคงเป็นท่ารำอยู่มั้ยครับ? ด้วยความเคารพและรักนะ"
ภาพเบื้องหลังการถ่ายทำ
ขอบคุณ : บัณฑิต ทองดี , Euthana Mukdasanit , Pichet Klunchun , ฟักกลิ้ง ฮีโร่