สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2 กรมวิชาการเกษตร ได้น้อมนำเอาหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการดำเนินการวิจัยและการพัฒนาการเกษตรอยู่ตลอดเวลา โดยยึดหลักบนทางสายกลาง มีความไม่ประมาท พึ่งตนเอง โดยคำนึงถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุมีผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจนใช้ความรู้ความรอบคอบ และคุณธรรม ประกอบการวางแผน การตัดสินใจในการกระทำที่รู้เท่าทันสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงในยุคไทยแลนด์ 4.0
นอกจากนี้ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2 ยังได้เน้นส่งเสริมการเกษตรตามแนวทฤษฎีใหม่ โดยได้จัดทำแปลงตัวอย่างเกษตรผสมผสานตามแนวพระราชดำริ “ทฤษฎีใหม่” เพื่อเป็นแปลงตัวอย่างให้เกษตรกรและผู้สนใจได้เข้ามาเยี่ยมชมทั้งรูปแบบของการจัดการแปลงตามแนวพระราชดำริ และที่สำคัญ คือ องค์ความรู้ในเรื่องการผลิตพืชชนิดต่าง ๆ ที่มีทั้งแปลงผลิตพืชของจริง และป้ายอธิบายถึงรายละเอียดของการดูแลรักษาพืชแต่ละชนิด ที่เกษตรกรสามารถเรียนรู้และนำไปใช้ในการผลิตพืชให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุด
นายสมเพชร พรมเมืองดี ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2 กรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า สำหรับทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริ เป็นแนวทางหนึ่งในการบริหารจัดการที่ดินและน้ำเพื่อการเกษตรในที่ดินขนาดเล็กให้เกิดประโยชน์สูงสุด และหลักการที่สำคัญ คือ เป็นระบบเศรษฐกิจแบบพอเพียงที่เกษตรกรสามารถเลี้ยงตัวเองได้ โดยจะเห็นได้ชัดเจนในปีที่ผ่านมาซึ่งได้เกิดภาวะฝนทิ้งช่วงอย่างยาวนาน เกษตรกรไม่สามารถปลูกข้าวหรือพืชชนิดอื่นๆ ได้ ทำให้ไม่มีรายได้เกือบตลอดทั้งปี แต่ในพื้นแปลงเกษตรผสมผสานตามแนวทฤษฎีใหม่ที่มีสระกักเก็บน้ำภายในแปลง ยังสามารถทำการผลิตพืช สำหรับใช้เป็นอาหารในครัวเรือนและจำหน่ายได้
สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2 ได้จัดทำแปลงตัวอย่างเกษตรผสมผสานตามแนวพระราชดำริ “ทฤษฎีใหม่” ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปีในปี 2539 ในพื้นที่ของสถานีทดลองพืชไร่ศรีสำโรง ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาการสุโขทัย อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย รวมพื้นที่ 10 ไร่ และได้มีการปรับปรุงพัฒนาพื้นที่ดำเนินการมาตลอดจนถึงปัจจุบัน เพื่อให้เป็นแปลงตัวอย่างให้เกษตรกรและผู้สนใจทั่วไป ได้มาศึกษารูปแบบเพื่อให้เกิดความเข้าใจและนำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติ และศึกษาองค์ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีการผลิตพืชต่างๆ ไปพร้อมๆ กัน โดยแบ่งพื้นที่ดำเนินการออกเป็นสัดส่วนต่างๆ ดังนี้ ส่วนที่ 1 พื้นที่แหล่งน้ำ จำนวน 3 ไร่ โดยมีสระน้ำจำนวน 2 ลูก ความลึก 4 เมตร น้ำในสระนำมาใช้ประโยชน์ในการเพาะปลูกข้าว ใช้รดไม้ผล พืชไร่ พืชผัก และใช้เป็นแหล่งเลี้ยงปลากินพืชชนิดต่างๆ และกบในกระชัง ส่วนที่ 2 พื้นที่นาข้าว จำนวน 3 ไร่ ในหน้าฝนใช้ปลูกข้าวพันธุ์หอมมะลิ 105 โดยวิธีปักดำ หรือโยนกล้า โดยจะปลูกในวันแม่ คือ วันที่ 12 สิงหาคม ของทุกปี และเก็บเกี่ยวในวันพ่อ คือ วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี
ในฤดูแล้งทำการปลูกพืชใช้น้ำน้อย เช่น ถั่วเหลือง ถั่วเขียว หรือพืชผัก ส่วนที่ 3 แปลงปลูกพืชผสมผสาน (พืชผัก ไม้ผล) ในร่องสวน จำนวน 3 ไร่ ปลูกไม้ผลชนิดต่างๆ ที่สอดคล้องกับภูมิสังคมของท้องถิ่นจังหวัดสุโขทัยและใกล้เคียง และความต้องการของตลาด เช่น ส้มโอพันธุ์ทองดีและพันธุ์ขาวน้ำผึ้ง มะม่วงพันธุ์ น้ำดอกไม้สีทอง พันธุ์มหาชนก และพันธุ์โชคอนันต์ ชมพู่พันธุ์ทับทิมจันทร์ มะปราง มะยงชิด และกล้วย โดยในระยะแรกที่ไม้ผลยังไม่โต ปลูกกล้วยน้ำว้า กล้วยหอมทอง และ พืชผัก เช่น ผักบุ้งจีน คะน้า บวบ แตงกวา มะระ น้ำเต้าพริก แซมระหว่างแถวไม้ผล ส่วนที่ 4 ที่อยู่อาศัย จำนวน 1 ไร่ ปลูกผักเป็นรั้ว พืชผักสวนครัว และพืชสมุนไพรเช่น ตะไคร้ ชะอม แมงลัก กะเพรา โหระพา มะเขือ ฟ้าทะลายโจรมะนาวในวงบ่อ มียุ้งฉางเก็บข้าว และโรงเพาะเห็ดนางฟ้า 2 โรง สามารถเพาะเชื้อเห็ดได้โรงละ 1,000 ก้อน รวมเป็น 2,000 ก้อนต่อรุ่น
ในส่วนของเทคโนโลยีการผลิตที่ใช้ในการจัดการแปลงไม้ผลในแปลงตัวอย่าง ประกอบด้วย การใช้ปุ๋ยอย่างถูกต้องและเหมาะสม การตัดแต่งกิ่งเพื่อควบคุมทรงพุ่ม ให้สะดวกในการดูแลและการจัดการ การห่อผล การป้องกันกำจัดโรคและแมลง เช่น การป้องกันเพลี้ยไฟในช่วงออกดอกและติดผลอ่อน การเก็บเกี่ยว และการขยายพันธุ์ และอีกหนึ่งเทคโนโลยีเด่น คือ การผลิตมะนาวในวงบ่อ ซึ่งจะมีรายละเอียดตั้งแต่การเลือกพันธุ์ให้เหมาะสมกับพื้นที่และตลาด เช่น พันธุ์พิจิตร 1 ที่ทนทานต่อโรคแคงเกอร์ มีกลิ่นหอม และติดผลทั้งปี และพันธุ์ตาฮิติ ซึ่งเป็นที่ต้องการ ที่ไม่มีเมล็ด ดูแลง่าย และทนแล้ง การปลูก การดูแลรักษา และที่สำคัญ คือ เทคนิคการบังคับให้มะนาวออกนอกฤดู
เกษตรกรหรือผู้สนใจ สามารถติดต่อเข้าชมแปลงตัวอย่างเกษตรผสมผสานตามแนวพระราชดำริ “ทฤษฎีใหม่” ได้ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสุโขทัย เบอร์โทรศัพท์ 0-5568-1384 หรือที่สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2 จ.พิษณุโลก เบอร์โทรศัพท์ 0-5531-1305
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี