5 ต.ค. 59 เวลา 10.00 น. ที่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีการจัดเสวนาเรื่อง “กรุงเทพ : ขนส่งทำมือ” ซึ่ง นายอมร หรินทรสุธิ อดีตประธานชุมชนเคหะฉลองกรุง (โซน 1) เปิดเผยว่า ชาวชุมชนเคหะฉลองกรุง เขตหนองจอก กทม. ได้รับความเดือดร้อน ประสบความยากลำบากในการเดินทางสัญจร โดยเฉพาะการเข้ามาในเขตเมืองของ กทม. เนื่องจากไม่มีระบบขนส่งสาธารณะเพียงพอ

นายอมร กล่าวว่า นับตั้งแต่ที่ กทม. มีแผนพัฒนาเมืองผ่านโครงการก่อสร้างทางยกระดับ (ทางด่วน) และโครงการรถไฟฟ้าในหลายเส้นทาง เมื่อหลายสิบปีก่อน ซึ่งพื้นที่ก่อสร้างหลายจุดเดิมเคยเป็นชุมชนต้องถูกย้ายออกไป ผู้บริหาร กทม. รวมถึงรัฐบาลในขณะนั้นได้จัดให้ไปอยู่รวมกันในพื้นที่การเคหะย่านหนองจอก-ลาดกระบัง เกิดเป็นชุมชนเคหะฉลองกรุง ปัจจุบันมีกว่า 30 ชุมชน มีประชากรราว 3,000 ครัวเรือน โดยในระยะแรก มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ว่าจะมีรถประจำทางเพียงพอ สามารถเดินทางได้สะดวกสบายไม่ต่างจากที่เดิม

“พวกท่านได้นั่งรถไฟฟ้า ทางที่สร้างนั่นเมื่อก่อนเป็นบ้านของพวกผม อย่างผมนี่โตอยู่ที่สี่แยกคลองตัน โดนย้ายตอนมีทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ไปอยู่หนองจอก ทีแรกก็ตกลงว่าจะมีอะไรต่อมิอะไร พรรณนาเหมือนจะได้ขึ้นสรรค์ ปรากฏว่าผมอยู่มา 19 ปี รถเมล์ยังไม่มีเลย ค่ารถที่นั่งออกมาไปกลับร่วมร้อยบาท” นายอมร ระบุ

อมร หรินทรสุธิ

อดีตประธานชุมชนเคหะฉลองกรุง (โซน 1) กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นนโยบายของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการส่งเสริมการสัญจรทางน้ำในคูคลองต่างๆ ชาวชุมชนเคหะฉลองกรุงทั้ง 6 โซน เห็นตรงกันว่าต้องผลักดันให้เกิดเส้นทางเรือ ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีลำคลองมากมาย อาทิ คลองลำพระองค์ (ลำพะอง) คลองลำปลาทิว ที่เชื่อมต่อกับคลองประเวศบุรีรมย์ หากมีการเดินเรือประชาชนจะสามารถเดินทางไปต่อรถไฟและรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ ณ สถานีรถไฟลาดกระบัง เพื่อเข้าสู่เขตเมืองชั้นในของ กทม. ได้สะดวกขึ้น

เช่นเดียวกับชาวชุมชนเคหะฉลองกรุง (โซน 4) รายหนึ่ง ที่ระบุว่า ปัจจุบันการเดินทางเข้าเมืองกรุงเทพฯ โดยรถยนต์นั้นลำบากมาก เพราะเส้นทางหลักต้องผ่านหน้านิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีปัญหาการจราจรติดขัดนานนับชั่วโมงเป็นประจำ

ตัวอย่างเส้นทางเดินเรือ (เส้นสีเขียว) จากเคหะฉลองกรุง-นิคมฯลาดกระบัง (ขวาบน) มาสถานีรถไฟ-แอร์พอร์ตลิงก์ลาดกระบัง (วงกลมสีแดงซ้ายล่าง)

ขณะที่นางกชพร กลักทองคำ ผู้ประสานงานมูลนิธิเพื่อการพัฒนาแรงงานและอาชีพ สมาคมเครือข่ายแรงงานนอกระบบ ระบุว่า ในระยะแรกมีรถประจำทางเอกชนร่วมบริการที่ได้รับสัมปทานจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) แต่ในเวลาต่อมาผู้ประกอบการรายดังกล่าวได้ยกเลิกการวิ่งโดยให้เหตุผลว่าประสบภาวะขาดทุน ทำให้ ขสมก. ต้องจัดรถไปทดแทน แต่รถเมล์ของ ขสมก. ก็มีจำนวนน้อย ส่งผลให้ประชาชนไม่สะดวกในการเดินทาง

“พอรถ ขสมก. เข้าไป ก็ชั่วโมงนึงมาคันนึง แล้วเส้นทางก็ไม่ได้ไปตรงๆ แต่อ้อมไปมา จะไปรับงานนอกมาทำหรือไปซื้อของก็ใช้เวลาเป็นวัน สุดท้ายพอรถเมล์ไม่มี เขาก็ต้องใช้บริการรถเช่าเหมา หรือบางคนมีทุนหน่อยก็มีรถเป็นของตัวเอง แต่ปัจจุบันก็มีปัญหาคือปัจจุบันถนนรถติดเพราะรถเยอะ” นางกชพร กล่าว

กชพร กลักทองคำ

ผู้ประสานงานมูลนิธิเพื่อการพัฒนาแรงงานและอาชีพฯ ยังกล่าวด้วยว่า หากเส้นทางเรือเชื่อมชุมชนเคหะฉลองกรุงถึงสถานีรถไฟลาดกระบังเกิดขึ้นจริง จะมีผลดีหลายประการ อาทิ 1.ลดปัญหาน้ำเน่าเสียจากผักตบชวา เนื่องจากผักตบชวาเจริญเติบโตได้ดีในแหล่งน้ำนิ่ง หากมีการสัญจรไปมา จะทำให้ผักตบชวาไม่สามารถเกาะกันเป็นแพขนาดใหญ่จนกีดขวางการไหลของน้ำได้

2.ลดปัญหาการจราจรและมลภาวะทางอากาศ ทั้งในแง่การใช้รถยนต์ส่วนบุคคลและใช้รถเช่าเหมา 3.ประชาชนมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตดีขึ้น ผู้ที่ทำงานหรือเรียนในเมืองไม่ต้องออกจากบ้านแต่เช้ามืด มีเวลาพักผ่อนและอยู่กับครอบครัวอย่างเพียงพอ ไม่ต้องใช้เวลาจำนวนมากไปกับการจรจรที่ติดขัดบนท้องถนน นอกจากนี้ยังได้ประโยชน์ในแง่การท่องเที่ยวด้วย เพราะย่านหนองจอก-ลาดกระบัง มีชุมชนชาวมอญที่ยังรักษาวัฒนธรรมประเพณีของตนไว้อย่างเหนียวแน่น

ด้านนายยรรยง บุญ-หลง สถาปนิกและนักเขียน กล่าวเสริมว่า ใน กทม. มีเครือข่ายคลองอยู่เป็นจำนวนมาก และหลายคลองสามารถเดินเรือเพื่อเชื่อมต่อกับระบบขนส่งอื่นๆ ได้ เช่นที่ทำไปแล้วอย่างคลองภาษีเจริญที่เชื่อมกับรถไฟฟ้า BTS สถานีบางหว้า คลองแสนแสบที่เชื่อมกับรถไฟฟ้า BTS และรถไฟใต้ดิน MRT หลายสถานี รวมถึงที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่อย่างคลองผดุงกรุงเกษมที่เชื่อมกับสถานีรถไฟหัวลำโพง เป็นต้น ดังนั้นหากสามารถเชื่อมระบบเรือในคลองเข้ากับระบบทางถนนและทางรางได้ จะทำให้การเดินทางใน กทม. สะดวกมากขึ้น

โดยชาวชุมชนเคหะฉลองกรุง มีกำหนดจะไปยื่นหนังสือเรียกร้องต่อผู้อำนวยการเขตหนองจอก ณ สำนักงานเขตหนองจอก ช่วงสายวันที่ 6 ต.ค. 2559 นี้

ยรรยง บุญ-หลง