เหตุการณ์โจรใต้จองเวรไล่ฆ่าผู้บริสุทธิ์รายวันยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดลงมือขั้นอำมหิตโหดเหี้ยมเพราะไล่ยิงหญิงท้องแก่เสียชีวิตทั้งแม่ลูก โดยเมื่อเวลา19.20 น. วันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานีได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุวายร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ใช้อาวุธปีนสั้นไม่ทราบชนิดและขนาด ยิงราษฎรไทยพุทธ 2คน ขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับจากซื้อของกินเพื่อจะกลับบ้าน บริเวณบนถนนสาย42 ปัตตานี-นราธิวาส หน้าร้านขายข้าวเหนียวไก่ทอด ใกล้กับปั๊มน้ำมัน ปตท ปาลัส ม 4 ต.ควน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี

โดยทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน คือ น.ส.รัตติกาล จ่าวัง อายุ 26ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/3 ม.4 ต.ควน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ประมาณ 8เดือนเศษ สภาพมีบาดแผลถูกยิงที่ศรีษะและลำตัว และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1ราย คือ น.ส.สายใจ ทองดี อายุ 30ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/1 ม.6 ต.ดอน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี มีบาดแผลถูกยิงบริเวณลำตัวผู้เสียชีวิตถูกนำส่ง ร.พ.ปะนาเระ สำหรับเด็กในครรภ์ผู้เสียชีวิตแพทย์เเจ้งว่า หัวใจหยุดเต้นวและแพทย์ได้ผ่าตัดนำเด็กออก ส่วนผู้บาดเจ็บขณะนี้ส่งรักษาต่อที่ รพ.ปัตตานี สาเหตุเชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ขต้องการทำร้ายผู้บริสุทธิ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ข่าวฝ่ายความมั่นคง ได้ประกาศเตือนล่วงหน้าว่าคนร้ายได้ประกาศที่จะทำร้ายผู้บริสุทธิ์เจ้าหน้าที่ได้ทำการป้องกันแล้ว แต่คนร้ายหาโอกาสสามารถทำร้ายผู้บริสุทธิได้ตามประกาศไว้

ด้าน นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านสิทธิสตรี เปิดเผยว่า เหตุไม่สงบในชายแดนภาคใต้ช่วงที่ผ่านมาพบเหตุรุนแรงเกิดขึ้นหลายครั้ง โดยเฉพาะในสถานที่สาธารณะ ซึ่งผู้เสียหายมักเป็นผู้หญิง เด็ก รวมถึงผู้สูงอายุ แม้เจ้าหน้าที่จะพยายามจับกุมผู้กระทำผิด แต่ยังพบมีเหตุการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อผู้บริสุทธิ์โดยเฉพาะกับผู้หญิงและเด็กมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เมื่อวันที่ 26พฤศจิกายน เกิดเหตุคนร้ายยิงน.ส.รัตติกาลและนางสายใจ หน้าร้านขายไก่ทอด บริเวณตลาดปาลัส ต.ปานาเระ โดย นางสายใจได้รับบาดเจ็บ ส่วน น.ส.รัตติกาล ซึ่งตั้งครรภ์ 9เดือนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุพร้อมทารก

นางอังคณา กล่าวต่อว่า การสังหารหญิงทั้งสองคนนี้เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ทั่วโลกกำลังรณรงค์เพื่อยุติความรุนแรงทุกรูปแบบต่อสตรี เหตุดังกล่าวเป็นการกระทำโหดเหี้ยม ไร้มนุษยธรรมถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและขัดต่อหลักศาสนาทุกศาสนา นำมาซึ่งความเศร้าสลดเสียใจแก่ประชาชนทั่วไป ตนขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้บาดเจ็บ โดยเฉพาะผู้เสียชีวิตซึ่งกำลังตั้งครรภ์ ทั้งนี้ ตนจะเดินทางลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์และแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้สูญเสียต่อไป ขอเป็นกำลังใจและขอให้เจ้าหน้าที่รัฐเร่งใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายในการนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม และขอให้มีการฟื้นฟูเยียวยาผู้บาดเจ็บโดยเฉพาะครอบครัวผู้เสียชีวิต เพื่อให้การแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นไปอย่างยั่งยืน ทุกฝ่ายโดยเฉพาะประชาชนทุกศาสนา จะต้องร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหา เจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบจะต้องใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม และควรเปิดโอกาสให้ประชาชน รวมถึงผู้หญิงมีส่วนร่วมในการเสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน

พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.)ภาค4 ส่วนหน้า แถลงข่าวชี้แจงเหตุคนร้ายยิงราษฎรเสียชีวิต1รายและบาดเจ็บ 1ราย โดยผู้เสียชีวิตกำลังตั้งครรภ์ได้ 8เดือน ซึ่งเด็กในครรภ์ได้เสียชีวิตด้วย ว่า พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4และผอ.รมน.ภาค4 ขอแสดงความเสียใจมายังครอบครัวของผู้ที่สูญเสียและบาดเจ็บ จากการกระทำอันสุดโต่งไร้ซึ่งมนุษยธรรมของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ทั้งยังได้สั่งการให้หน่วยที่เกี่ยวข้องและกำลังร่วม 3ฝ่ายได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และกล้องวงจรปิด ตลอดจนบูรณาการมาตรการด้านการข่าวเพื่อบังคับใช้กฎหมายต่อผู้กระทำผิด ทั้งยังสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบตามระเบียบของทางราชการต่อไป

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีประชาชนทั้งไทยพุทธ และมุสลิมกว่า 200คน รวมตัวกันริมถนนสายปัตตานี-นราธิวาส ม.1 ต.คอน อ.ปะนาเระ พร้อมถือป้ายประณามการก่อเหตุต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์และร้องขอให้ยุติความรุนแรงในทุกรูปแบบ โดยตัวแทนที่มาร่วมในครั้งนี้ เปิดเผยว่า ประชาชนในพื้นที่ทั้ง 2ศาสนามีความสะเทือนใจอย่างมากที่คนร้ายก่อเหตุยิง น.ส.รัตติกาล ซึ่งตั้งครรภ์ 9เดือนและจะถึงกำหนดคลอดปลายเดือนหน้านี้ แต่ต้องมาเสียชีวิตต่อเหตุไม่สงบ ถือเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ที่สุดและไม่คิดว่าผู้ที่ก่อเหตุจะมีจิตใจป่าเถื่อนโหดร้าย จึงขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยดูแลความปลอดภัยประชาชนด้วย

ขณะที่เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ ได้ออกแถลงการณ์โดยระบุว่า จากการกระทำอันโหดร้าย ป่าเถื่อน ไร้มนุษยธรรมต่อผู้หญิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงซึ่งกำลังตั้งครรภ์ เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต และครอบครัวของผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น และขอประณามการกระทำใดๆ อันเป็นการทำร้ายต่อประชาชน โดยเฉพาะผู้หญิงซึ่งกำลังตั้งครรภ์ อีกทั้งขอให้รีบเร่งดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม การให้ความช่วยเหลือเยียวยา และขอเรียกร้องให้พี่น้องประชาชน องค์กรภาคประชาสังคม ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐ ออกมาประณามการกระทำดังกล่าว เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต และไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งต่อการกระทำความรุนแรงทุกรูปแบบ โดยเฉพาะต่อเป้าหมายพลเรือนทุกเชื้อชาติ และศาสนาและขอเรียกร้องให้เยียวยาด้านจิตใจ ให้ความช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรมต่อบุตรและครอบครัวทั้ง2ท่านอย่างถึงที่สุด