30 พ.ย.59 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงรายว่า พล.อ.อมรฤทธิ์ แพทย์เจริญ ที่ปรึกษาประจำผู้ดำรงตำแหน่งในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีบันทึกสถิติผืนธงชาติไทยหรือธงไตรรงค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกลงในบันทึกขององค์กรบันทึกสถิติโลกกินเน็สบุ๊ค ณ ที่ดินของ บริษัท อบีน่า จำกัด กลุ่มบริษัท ANDESS 7 บ้านดอยศรีแก้ว ต.ป่าสัก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

โดยพิธีจัดให้มีพิธีสงฆ์โดยคณะสงฆ์จากทั้งคณะภาค 6 และคณะสงฆ์นานาชาติจากประเทศต่างๆ และนายพฤฒิพล ประชุมผล ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ธงชาติไทย นายประธาน อินทรีย์ยง ผู้ประสานงานโครงการฯ มูลนิธิครูของแผ่นดน ชมรมนะโมพุทธายะ มูลนิธิ Sun YAT-sen Overseasฯลฯ ฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรภาคประชาชนต่างๆ เข้าร่วมประมาณ 1,000 คน นำคณะผู้แทนจากกินเน็สบุ๊คเข้าเก็บสถิติ โอกาสเดียวกันนี้ได้มีการจัดแสดงไตรรงค์ที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก บันทึกโดยหนังสือ 'บันทึกไทย' แล้ว โดยมีขนาดเล็กกว่าเมล็ดข้าวและใกล้เคียงกับเข็ม ซึ่งปัจจุบันได้เสนอให้ทางกินเน็สบุ๊คได้นำไปพิจารณาเปรียบเทียบกับธงทั่วโลกเพื่อเปรียบเทียบสถิติกันแล้ว

โดยพิธีจัดให้มีพิธีสงฆ์จำนวน 32 รูป พิธีบวงสรวงและมีการจัดเตรียมสถานที่เพื่อการจัดแสดงผืนธงชาติขนาดใหญ่ดังกล่าวโดยใช้เครนยกขนาด 25 ตันจำนวน 3 คัน ทำการยกเสาธงด้วยอุปกรณ์โลหะและเชือกสลิงที่แข็งแรงพร้อมคนงานจำนวนมาก โดยก่อนที่จะทำการยกทั้งหมดได้ร่วมยืนตรงเพื่อถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จากนั้น มีการยกธงชาติผืนใหญ่ ซึ่งมีขนาดความกว้าง 42 เมตรและยาว 63 เมตร เป็นธงไตรรงค์ที่ให้คณะผู้แทนจากกินเน็สบุ๊คได้ชม ซึ่งทางคนงานได้ค่อยๆ ชักลากผืนธงที่เตรียมเอาไว้อย่างช้าๆ กระทั่งสามารถชูแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจน และได้ร่วมกันร้องเพลงชาติไทยก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมอบใบรับรองสถิติให้ทาง พล.อ.อมรฤทธิ์ ในฐานะตัวแทนผู้จัดทำเพื่อประกาศให้รับทราบกันต่อไปท่ามกลางความดีใจของผู้เข้าร่วมในพิธี

นายพฤฒิพล กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้พิพิธภัณฑ์ฯ โดยตนเข้าอยู่ในคณะกรรมการจัดกิจกรรมในวาระครบรอบ 100 ปีธงชาติไทย ด้วยเหตุนี้จึงได้หารือกับภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องจัดโครงการนี้ขึ้นเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ผู้ทรงพระราชทานธงไตรรงค์ให้เป็นธงชาติไทยมาจนถึงทุกวันนี้เมื่อวันที่ 26 ก.ย.2460 ซึ่งตามกำหนดก็คงจะมีการจัดกิจกรรมกันมากขึ้นในปี 2560 จนกว่าจะถึงวันที่ 26 ก.ย.2560 หรือปีหน้าต่อไป .

สำหรับธงที่นำมาจัดแสดงในวันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมดังกล่าวโดยดำเนินการโดยภาคเอกชนเป็นหลักโดยใช้ธงที่จัดทำโดยเอกชนจากประเทศสหรัฐอเมริกา มีมูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท เมื่อจัดแสดงแล้วเสร็จก็จะพับเก็บรักษาไว้ เบื้องต้นจะนำไปเก็บไว้ ณ สถานที่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ บ้านสบกรวก ต.เวียง อ.เชียงแสน เพื่อแสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชมในฐานะเมืองที่อยู่ใกล้กลุ่มประเทศเพื่อนบ้านต่างๆ ที่สามารถเข้าพบเห็นได้โดยสะดวกต่อไป ส่วนสถานที่จัดแสดงธงก็จะพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเบื้องต้นจะเป็นศูนย์ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเกี่ยวกับอาณาจักรโยนกต่อไป

ทางด้าน นายแอนดรู คอ ผู้ร่วมทุนจากประเทศมาเลเซียในโครงการธงชาติไทยผืนใหญ่ใบนี้ กล่าวว่า ที่ดินที่มีการจัดแสดงธงชาติไทยผืนใหญ่ที่สุดในโลกครั้งนี้มีเนื้อที่ประมาณ 700 ไร่ ใช้งบประมาณราว 200 ล้านบาท โดยตนเข้าร่วมด้วยด้วยการขายหุ้นในต่างประเทศแล้วนำมาดำเนินการ โดยในอนาคตก็จะมีการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งก็ไม่อาจทราบได้ว่า จะต้องใช้งบประมาณอีกเท่าไหร่เพราะจะค่อยๆ ดำเนินการไปเรื่อยๆ เชื่อว่าจะทำให้ผู้คนที่สนใจเดินทางไปชมจำนวนมากแน่นอน