27 ธ.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชาย โพคาเทพ หัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครองอำเภอ ได้เดินทางเป็นประธานโครงการปล่อยนกยูงไทย คืนสู่ผืนป่าสาละวิน เนื่องในวันคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ ประจำปี 2559 และเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช ณ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สว.1 (ท่าตาฝั่ง) ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งลำน้ำสาละวิน จำนวน 21 ตัว จาก 3 สถานีเพาะพันธุ์สัตว์ป่า ประกอบด้วย สถานีรักษาพันธุ์สัตว์ป่าปางตอง , ป่าอมก๋อยและป่าห้วยยางปาง ซึ่งได้ทำพิธีปล่อยโดยผ่านพิธีกรรมความเชื่อทางศาสนา ทั้งไทยพุทธ และไทยคริสต์ มีพี่น้องประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงและหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเดินทางมาร่วมกิจกรรมกว่า 300 คน
นายวิชัย ปินะสุ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง เปิดเผยว่า สำหรับโครงการปล่อยนกยูงไทย คืนสู่ผืนป่าสาละวิน เนื่องในวันคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ ประจำปี 2559 ทางอุทยานแห่งชาติสาละวินได้เล็งเห็นความสำคัญจะฟื้นฟูประชากรนกยูงไทย ซึ่งเป็นการฟื้นฟูประชากรนกยูงที่เคยมีถิ่นอาศัยในพื้นที่เดิม
ซึ่งในอดีตทางอุทยานแห่งชาติสาละวิน เคยมีประชากรนกยูงไทยอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ในปัจจุบัน นกยูงไทยได้หายไปจากผืนป่าสาละวิน ด้วยเหตุผลนี้ อุทยานแห่งชาติสาละวินจึงได้จัดโครงการดังกล่าวขึ้น โดยพิจารณาตามหลักวิชาการด้านสัตว์ป่าแล้วและเห็นว่าพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำสาละวิน ภายในอุทยานแห่งชาติสาละวิน มีศักยภาพพร้อมและเหมาะสมต่อการปล่อยนกยูงไทยคืนสู่ธรรมชาติ โดยพิจารณาทางด้านนิเวศวิทยาแล้ว พื้นที่ที่จะปล่อยนกยูงเป็นพื้นที่ถิ่นอาศัยเดิม มีลักษณะเป็นป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณ มีแม่น้ำสาละวินที่มีแนวหาดทรายที่กว้างและยาวเหมาะสมแก่การใช้เป็นพื้นที่ช่วงฤดูผสมพันธุ์
สำหรับวัตถุประสงค์ในการจัดโครงการนี้ เพื่อฟื้นฟูประชากรนกยูงไทยคือสู่ถิ่นอาศัยทางธรรมชาติเดิม ในผืนป่าสาละวิน อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มประชากรนกยูงไทยและความสมดุลของระบบนิเวศตามธรรมชาติและให้เป็นมรดกล้ำค่าแก่ประชาชนคนรุ่นหลังและให้ประชาชนได้เห็นคุณค่าของป่าไม้และสัตว์ป่ามีส่วนร่วมในการรักษาและเสริมสร้างผืนป่าให้มีความอุดมสมบูรณ์ร่วมกันอนุรักษ์สัตว์ป่าแบบไร้พรมแดน
อย่างไรก็ตาม พี่น้องประชาชนและผู้นำชุมชนต่างๆ ในพื้นที่ก็ให้ความสำคัญและจะให้ความร่วมมือในการอนุรักษ์นกยูงไทยไว้ให้เป็นสมบัติของลูกหลาน นอกจากนี้ยังมีการเจรจาพูดคุยกับผู้นำชุมชนในพื้นที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านซึ่งมีความเห็นด้วยกับการฟื้นฟูประชากรนกยูง และเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้น โดยใช้สัตว์ป่าเป็นทูตสันถวไมตรี รวมถึงเป็นแนวทางที่ดีต่อการอนุรักษ์สัตว์ป่าแบบไร้พรมแดน ซึ่งจะรับกับการเป็นสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) ซึ่งภายในงาน ยังมีซุ้มนิทรรศการในหลวงราชกาลที่ 9 กับพระราชกรณียกิจด้านทรัพยากรป่าไม้นิทรรศการ 26 ธันวาคม วันคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ การอนุรักษ์นกยูงไทย คืนสู่ผืนป่าสาละวิน นิทรรศการมนต์เสน่ห์แห่งสาละวิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี