ทลายรัง‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ตั้งฐานกลางกรุง ‘กสทช.-ตร.ไซเบอร์’ยึด Mini PC เถื่อนเพียบ

ทลายรัง‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ตั้งฐานกลางกรุง ‘กสทช.-ตร.ไซเบอร์’ยึด Mini PC เถื่อนเพียบ

วันจันทร์ ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 21.00 น.

ทลายรัง‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ตั้งฐานกลางกรุง ‘กสทช.-ตร.ไซเบอร์’ยึด Mini PC เถื่อนเพียบ

6 ตุลาคม 2568 ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 (บก.สอท.2) พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท. , พล.ต.ต.อรุษ แสงจันทร์ รอง ผบช.สอท. , พล.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน รอง ผบช.สอท. , พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. , พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รองผบช.สอท. , พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์ คล้ายคลึง รอง ผบช.สอท. , พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 , พล.ต.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 และ พล.ต.ต.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ ผบก.สอท.4 ร่วมกับ นายสุธีระ พึ่งธรรม ผอ.สำนักกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม ตํารวจไซเบอร์ และเจ้าหน้าที่ กสทช.บุกคอนโดคนจีนยึด Mini PC เถื่อนกว่า 130 ชิ้น ใช้ใส่ซิมปล่อยสัญญาณปลอม คาดใช้ทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์


สืบเนื่องจากตำรวจ กก.4 บก.สอท.4 ได้สืบสวนพบเบาะแสว่า มีการลักลอบตั้งศูนย์ปฏิบัติการต้องสงสัย ภายในอาคารแห่งหนึ่งในพื้นที่เขตประเวศ กรุงเทพฯ โดยอาจใช้เป็นสถานที่ดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงประชาชน หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยตำรวจได้ข้อมูลภาพถ่ายภายในห้องดังกล่าว พบว่าเป็นภาพของชั้นวางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ถูกติดตั้งเรียงกันเป็นจำนวนมาก โดยอุปกรณ์ดังกล่าว คาดว่าเป็นเครื่องมินิพีซี (Mini Pc)

ต่อมาตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอหมายค้นต่อศาลอาญาพระโขนง โดยตำรวจ กก.4 บก.สอท.4 ได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช.ร่วมกันนำหมายค้นศาลอาญาพระโขนง เข้าตรวจค้นห้องพักชั้น 23 ของอาคารคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ โดยขณะเข้าตรวจค้นได้พบผู้จัดการของบริษัท รับฝากขายเช่าเป็นผู้ดูแลห้องดังกล่าว ให้กับเจ้าของห้องพร้อมกับผู้จัดการนิติบุคคลอาคาร จึงได้แสดงหมายค้นและได้นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น

ผลจากการตรวจค้นพบเครื่องวิทยุคมนาคม (Mini Pc) อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และฐานรองชิมการ์ตโทรศัพท์มือถือถือถือ จำนวน 137 ชิ้น เป็นเครื่องวิทยุคมนาคมเถื่อน (Router ใส่ sim) ไม่ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน กสทช.โดยอุปกรณ์แต่ละตัวมีเสาอากาศ สายไฟ และสาย LAN เชื่อมต่ออยู่ อุปกรณ์เหล่านี้มีลักษณะคล้ายกับการ ใช้สำหรับเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตปริมาณมากในเวลาเดียวกัน เช่น ระบบของแก๊งคอลเซ็นเตอร์เพื่อใช้รองรับการหลอกลวงในรูปแบบ Scammer

จากการตรวจสอบเบื้องต้น เจ้าหน้าที่สันนิษฐานเพิ่มเติมว่า อุปกรณ์เหล่านี้ยังอาจถูกใช้ เพื่อปล่อยสัญญาณปลอมการตักจับข้อมูลออนไลน์ เช่น SMS หรือ OTP หรืออาจใช้สำหรับเจาะระบบบางอย่าง รวมทั้งใช้สำหรับสร้างข้อมูลการใช้งาน Server หรือ Router ปลอมขึ้นมา เพื่อหลีกเลี่ยงการติดตามตัวตนจากเจ้าหน้าที่

จากการตรวจสอบข้อมูลกับผู้จัดการของบริษัทรับฝากขายเช่าที่ดูแลห้องดังกล่าว ทราบว่าผู้เช่า คือ Mr.ZHANG HAINING สัญชาติจีน เป็นผู้ทำสัญญาเช่าห้องพักดังกล่าว มีความผิดตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 6 และ 11 ประกอบมาตรา 23 ฐาน "มีและใช้ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยได้รับอนุญาตและตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต" มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งปรับทั้งจำ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดของกลางทั้งสิ้น 4 รายการ จำนวน 137 ชิ้น ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเร่งขยายผลติดตามตัวชาวจีนรายดังกล่าวมาดำเนินคดี รวมทั้งขบวนการที่อุปกรณ์ดังกล่าวอาจถูกนำไปใช้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top