6 ม.ค.61 เวลา 13.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. พล.ต.ต.ฤชากร จรเจวุฒิ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อรรถพล อนุสิทธิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ธนาวินท์ กาญจนวิภาส สว.กก.สส.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ธนะเมฐศ์ วิจิตรจริยา สว.กก.สส.2 บก.สส.บช.น. 

แถลงจับกุม นายเกรียงศักดิ์ วงษ์สุวรรณ หรือใหม่ ดอนซ่าส์ อายุ 22 ปี และนายวิเชียร เนตรทอง หรือเจ อายุ 25 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 4,960,000 เม็ด, อาวุธปืนยี่ห้อซีแซด 1 กระบอก, ลูกกระสุนขนาด 9 มม. 14 นัด, รถกระบะทะเบียน ฒผ-กรุงเทพฯ, รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ก สีบอร์น ทะเบียน บษ 547 สุพรรณบุรี, รถเก๋ง ยี่ห้อนิสสัน 200 เอสเอ็กซ์ สีส้ม ทะเบียน 3171 กรุงเทพฯ ,รถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า แจ๊ส ทะเบียน 6 กล 2266 กรุงเทพฯ, โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง จับกุมได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 1608/148 หมู่ 5 ต.อู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 5 ม.ค. เวลาประมาณ 20.30 น. 

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก การสืบสวนขยายผลจับกุม ยาเสพติดรายใหญ่ในกรุงเทพฯ โดยมี นายโจ ดอนซ่าส์ (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) ลูกชาย โจ ด่านช้าง พร้อมพวกมีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดรายใหญ่ จะจำหน่ายยาเสพติดให้กับลูกค้าในพื้นที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี กรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง ชุดสืบสวนได้ติดตามสังเกตุการณ์ จนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหา จะมีการแบ่งหน้าที่อย่างเป็นระบบ และได้เช่าบ้านพักเลขที่ 1608/148 หมู่ 5 ต.อู่ทอง ไว้เป็นที่เก็บยาเสพติด โดยใช้รถกระบะมีตู้ทึบในการขนส่งยาเสพติด เพื่ออำพรางการตรวจค้นจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ

กระทั่งเมื่อวันที่ 5 ม.ค. นายเกรียงศักดิ์ และนายวิเชียร ได้นำรถคันดังกล่าวมาจอดบริเวณหน้าบ้านพัก ชุดจับกุมจึงแสดงตัวขอตรวจค้น พบของกลางอาวุธปืนออโตเมติก พร้อมลูกกระสุนปืน จากนั้นได้ตรวจค้นภายในบ้านพักพบยาบ้า จำนวน 496,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่บริเวณชั้นล่างของบ้านหลังดังกล่าว จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสอง ให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจาก นายโจ ดอนซ่าส์ ให้นำยาบ้าไปขายต่อในพื้นที่ภาคกลาง ทำมานานกว่า 5 เดือน เมื่อทำงานสำเร็จแต่ละครั้ง นายโจ จะจ่ายค่าจ้างเป็นการพาไปเที่ยวเตร่ 

เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่า สำหรับยาเสพติดล็อตดังกล่าวเป็นของกลุ่มว้าใต้ ลำเลียงมาจากภาคเหนือ น่าจะเข้ามาในช่วงก่อนปีใหม่หรือหลังปีใหม่ กลุ่มผู้ต้องหาจะฉวยโอกาสช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน นำยาบ้าดังกล่าวกระจายลงสู่พื้นที่ภาคใต้ และภาคกลาง เชื่อว่ามีการจำหน่ายยาบ้าออกไปแล้วบางส่วนกว่า 6 ล้านเม็ด

มีรายงานด้วยว่า ของกลางยาบ้าที่จับได้ครั้งนี้มีมูลค่า 992,000,000 บาท ส่วนอาวุธปืนยี่ห้อซีแซด ที่ตรวจยึดได้ เป็นของนายตำรวจรายหนึ่งในพื้นที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (บช.ภ.7) ชุดจับกุมจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดนี้หรือไม่