หนุ่มวัย 29 ปี ชาว อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ถูกจับกุมพร้อมของกลางยาบ้าร่วมแสนเม็ด ส่วนแฟนสาวถูกจับกว่า 300 เม็ด เผยรับยาบ้าจากชาวลาว นำมาวางต่อให้ลูกค้า ได้ค่าจ้างมัดละ 500 บาท บอกต้องอาศัยกินนอนอยู่ในสวนยางพารา เพื่อสะดวกต่อการขายยาบ้าให้ลูกค้า ที่เป็นคนกรีดยางแต่ละวันมีไม่ต่ำกว่า 10-20 คน จ่ายสดไม่มีเซ็นหรือชักดาบเหมือนกลุ่มวัยรุ่น 

8 กันยายน 2568 พ.ต.ท.สุวัฒน์ นามมงคล รอง ผกก.สส.ฯ รองหัวหน้าชุดปฎิบัติการปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ (ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์) นายตะวัน ปานเพชร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.สตึก นำกำลังตำรวจ ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ ร่วมกับฝ่ายปกครอง อ.บ้านกรวด ตชด. และทหาร จับกุมตัว นายอิทธิพล (หรือกี้) ชาติมนตรี อายุ 29 ปี ชาว ต.สนามชัย อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ พร้อมของกลางยาบ้า 94,000 เม็ด และยังจับกุม น.ส.หฤทัย (หรือปลาย) สีเขียว อายุ 20 ปี แฟนสาวของนายอิทธิพล พร้อมของกลางยาบ้า 332 เม็ด ได้ในพื้นที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ก่อนนำตัวส่ง พงส.สภ.สตึก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการจับกุมตัว ผู้ค้ารายย่อยพร้อมของกลางยาบ้า 48 เม็ด ในพื้นที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ จากการสืบสวนขยายผลโดยการล่อซื้อยาบ้าจากเครือข่ายชาวลาว จำนวน 3 มัด หรือประมาณ 6,000 เม็ด และได้มีการนัดตกลงส่งมอบยาบ้าในพื้นที่หน้า อบต.สนามชัย อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่จึงได้อำพรางตัวเป็นสายลับไปรับเอายาบ้าดังกล่าว

จากนั้นพบวัยรุ่นชาย 1 คน สะพายกระเป๋าเป้ใบใหญ่ ขับขี่รถจักรยานยนต์สีขาวแต่งซิ่งเข้ามาประกอบข้าง ก่อนจะยื่นยาบ้าที่ติดต่อล่อซื้อให้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จำได้ว่าชายที่สะพายกระเป๋าเป้ขับขี่รถจักรยานยนต์ นำยาบ้ามาให้คือ นายอิทธิพล (หรือกี้) ชาติมนตรี ผู้ซึ่งมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในพื้นที่ อ.สตึก จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อจับกุม แต่นายอิทธิพล หรือกี้ ไหวตัวทันได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่จึงได้ขับติดตามไปอย่างกระชั้นชิด พบถึงบริเวณวัดบ้านดงหนาม ม.11 ต.สยามชัย อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ นายอิทธิพล หรือกี้ ได้โยนกระเป๋าสะพายทิ้งลงข้างทาง เมื่อไปตรวจสอบพบมียาบ้าจำนวนมากอยู่ข้างใน ก่อนที่จะสามารถขับหลบหนีหลุดการติดตามเจ้าหน้าที่ไปได้

จากนั้นชุดจับกุมได้ออกติดตามหาตามเส้นทางที่ขับหลบหนี โดยแบ่งกำลังออกตรวจสอบตามเส้นทาง และบ้านพัก ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่า นายอิทธิพล หรือกี้ น่าจะไปหลบซ่อนอยู่ที่บ้านพักของ น.ส.หฤทัย ซึ่งเป็นแฟนสาว ใน ต.สตึก อ.สตึก ก็พบ น.ส.หฤทัย ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ เมื่อตรวจสอบ น.ส.หฤทัย พบในกระเป๋าสะพายที่ถือถือภายในมียาบ้าจำนวน 2 ถุง รวมจำนวน 332 เม็ด โดยรับว่าเป็นยาบ้าที่ นายอิทธิพล หรือกี้ ได้ฝากให้เอาไปทิ้งแต่เอาไปทิ้งไม่ทัน พร้อมยอมรับว่าตนเองเพิ่งเสพยาบ้าไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้ามาจับกุมด้วย

หลังจากนั้นชุดจับกุมได้จับกุมตัว นายอิทธิพล หรือกี้ ได้ที่บริเวณป่ามันสำปะหลัง ด้านทิศใต้บ้านยางน้ำใส ม.7 ต.สตึก อ.สตึก ขณะหมอบหลบหนีอยู่ในทุ่งนาหลังไร่มันสำปะหลัง จึงควบคุมตัวไปตรวจสอบของกลางยาบ้าทั้งหมด ที่ล่อซื้อและที่ทิ้งไว้ระหว่างหลบหนีรวมของกลางยาบ้าทั้งหมด 94,000 เม็ด ก่อนจะควบคุมตัวทั้ง 2 คน มาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ทำการ ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ ก่อนจะนำตัวส่ง พงส.สภ.สตึก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ชูสิทธิ์ หล่อแสง รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ รับผิดชอบด้านยาเสพติด ได้เดินทางมาร่วมสอบปากคำ นายอิทธิพล หรือกี้ ซึ่งยอมรับว่ายาบ้าทั้งหมดเป็นของตนเองจริง โดยตนรับจ้างต่อจากชาวลาวอีกทอดหนึ่ง ให้นำเอายาบ้าที่มีผู้นำเอามาวางไว้ในให้ในพื้นที่ อ.สตึก เพื่อให้ตนทำหน้าที่นำเอาไปวางไว้ต่อให้กับลูกค้าอีกทอดหนึ่ง โดยตนจะได้รับค่าจ้างต่อมัด (1มัดจำนวน2,000เม็ด) จำนวน 500 บาท และบางครั้งก็ได้รับค่าจ้างเป็นยาบ้า หรือทั้งเงินและยาบ้า

โดยตนจะนำยาบ้ามาขายให้กับลูกค้า ซึ่งมีทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นก็มี แต่ขายให้กลุ่มวัยรุ่นกำไรไม่ดี เพราะชอบชักดาบ รวมถึงเซ็นต์แล้วไม่จ่ายก็มีจึงไม่ค่อยได้ขายให้ แต่ที่เป็นลูกค้าชั้นดีจะเป็นวัยทำงาน โดยเฉพาะเกษตรกรชาวสวนยางพารา จะซื้อด้วยเงินสดอย่างเดียวไม่มีเซ็นต์ เพราะพวกนี้จะชอบซื้อไปเสพก่อนเข้าไปกรีดยาง ซึ่งในพื้นที่หมู่บ้าน ตำบลที่ตนอยู่จะมีสวนยางพาราเยอะ ตนจึงไม่ค่อยใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้าน แต่จะมาอาศัยอยู่ที่แถวสวนยางพารา เนื่องจากง่ายต่อการขายยาบ้าให้กับลูกค้าที่เป็นคนกรีดยาง แต่ละวันมีมาซื้อไม่ต่ำกว่า 10-20 คน.

012