วอนช่วย9ขวบอยู่กับตา

ตัดอ้อยล้างหนี้

ตั้งใจเรียนแต่ยากจน

ขาดทั้งอาหาร-เสื้อผ้า

สุดเวทนาวอนช่วยเด็กหญิง 9 ขวบ อยู่กับตาอายุ 73 ปี และน้องชาย 4 ขวบ ในแคมป์ตัดอ้อย ทำงานล้างหนี้ 4 หมื่นอดมื้อกินมื้อ ขาดแคลน ทั้งอาหาร-เสื้อผ้า อีกแม่บุกโรงพักล่ามนุษย์ใจโฉด แอบอ้างรูปลูกสาวป่วยหนักไปสร้างข่าวปลอมหลอกเรียกยอดไลค์-แชร์ ลั่นอย่าทำร้ายเด็ก แค่นี้ก็ทุกข์พอแล้ว

เมื่อวันที่ 24 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีเรื่องราวนี้ได้รับการเผยแพร่ผ่านทางเฟซบุ๊ก Waraporn Apple Chanprommin จึงได้สอบถามเฟซบุ๊กของครูเปิ้ล นางวราภรณ์ จันพรหมมิน คุณครูโรงเรียนนิคมบางระกำ 8 (หนองปลวก ) ตั้งอยู่ที่ ม.11 ต.หนองกุลา อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก โดย ครูเปิ้ล เล่าว่า เด็กหญิงลำดวน กิจคม อายุ 9 ปี นักเรียนชั้น ป. 3 เพิ่งย้ายมาอยู่ ที่โรงเรียน ได้ประมาณ 1เดือน ภูมิลำเนาเดิมอยู่ จ.ร้อยเอ็ด วันก่อนมีประชุมผู้ปกครองที่โรงเรียน ชาวบ้านฝากช่วยดูแล ด.ญ.ลำดวนด้วย เพราะตา ผู้ดูแลไม่ได้มาประชุมด้วยเพราะสภาพการกินอยู่แร้นแค้นมากจึงได้ไปเยี่ยมที่บ้านพัก เป็นบ้านพักคนงานตัดไร่อ้อยใกล้ๆโรงเรียนพบ ด.ญ.ลำดวน อาศัยอยู่กับ นายสมิง กิจคม อายุ73ปี ผู้เป็นตากับน้องขาย วัย 4 ขวบ ด.ช.ธนะวัตร กิจคม เรียนชั้นอนุบาล 1 ในบ้านพักสภาพค่อยข้างโทรม

สาเหตุที่เด็กหญิงลำดวนกับน้องชาย ต้องย้ายมามาเรียนที่โรงเรียนนิคมบางระกำ 8 เนื่องจากคุณตา ติดหนี้เจ้าของไร่อ้อย เป็นเงินประมาณ 40,000 บาท ต้องมาทำงานใช้หนี้ ส่วนพ่อแม่เด็กก็ได้แยกทางกันและทิ้งภาระให้ตาวัย 73 ปีดูแลหลานตั้งแต่เล็กและใช้หนี้ ตาแก่มาก ทำอะไรไม่ไหว ไม่มีแรงจะตัดอ้อยใช้หนี้ ค่าแรงที่ได้แค่พอค่ากับข้าว บางวันก็ไม่ได้ค่าขนมมา ต้องอาศัยมากินข้าวโรงเรียน เสื้อผ้า ก็ไม่มี แต่งตัวมอมแมม เห็นแล้วก็สงสารจับใจ สภาพความเป็นอยู่ยากลำบาก ขาดแคลนทั้งอาหาร และเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม

ครูเปิ้ลบอกว่าที่ผ่านมาครูไม่รู้ถึงความลำบาก เพราะยังไม่ได้ออกไปเยี่ยมจะพบเห็นพฤติกรรมเป็นปกติ เป็นเด็ก มีความประพฤติเรียบร้อย ตั้งใจเรียนมาก ตอนกลางวันมักจะมาเขียนหนังสือที่ห้องเพราะไม่มีเงินซื้อขนมกินกับเพื่อนๆ จึงมานั่งอยู่ในห้องคนเดียวกับน้อง อยู่กันแบบตามมีตามเกิด ลำพังความช่วยเหลือจากครูและโรงเรียน คงจะไม่เพียงพอจึงนำเรื่องราวโพสต์ผ่านโซเชียล เพื่อหาผู้มีจิตกุศลช่วยเหลือเด็กต่อไป ผู้มีความประสงค์จะช่วยเหลือครอบครัว ดญ.ลำดวน จิตคม ติดต่อได้ที่ ครูเปิ้ล โทรศัพท์ 097-918 4211

อีกราย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.นงลักษณ์ ยานประสงค์ อายุ 31ปี อยู่บ้านเลขที่ 181หมู่ 2 ต.เชียงกลม อ.ปากชม จ.เลย ได้ร้องเรียนสื่อมวลชนว่า ถูกเพจเฟซบุ๊คที่มีชื่อว่า “PioreZi”นำรูปภาพของด.ญ.มุทิตา โหมดทอง บุตรสาวอายุ 3 เดือน ป่วยเป็นโรคยีนส์พันธุกรรมกลายพันธุ์ไปสร้างข่าวเท็จโดยระบุว่าแม่ของน้องมุทิตา รถคว่ำเสียชีวิต ต้องอาศัยอยู่กับพ่อเลี้ยง แล้วมาโดนพ่อเลี้ยงจับทุ่มใส่กำแพงจนศีรษะบวม ดวงตาปูดโปน ใบหน้าฟกช้ำ พร้อมแต่งเนื้อข่าวสัมภาษณ์หมอผู้รักษาว่าจะต้องได้รับการผ่าตัดช่วยเหลือชีวิตภายใน7วันและเรียกร้องให้แฟนเพจช่วยกันแชร์ต่อๆไปซึ่งเรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริง ได้ทำให้ครอบครัวได้รับความเสียหายเป็นอย่างมากจึงเข้าไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ดูแลเพจนี้ที่สภ.เชียงกลมแล้วเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2561ถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ

น.ส.นงลักษณ์ เล่าว่าความจริง น้องมุทิตา อยู่กับพ่อ แม่พี่ชายอายุ 12 ปี และญาติพี่น้องพร้อมหน้าพร้อมตา ตั้งแต่เกิดมาก็กลายเป็นคนป่วยที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดหมอบอกเป็นโรคยีนส์พันธุกรรมกลายพันธุ์ ศีรษะโตขึ้นเรื่อยๆลิ้นมีขนาดใหญ่จุกปากตลอดเวลา ยืดแขนไม่ได้ เปลือกตาปิดไม่สนิทแม้ยามลูกหลับต้องคอยใช้น้ำตาเทียมป้ายตาและปิดเปลือกตาอยู่เสมอ ป้องกันไม่ให้ตาแห้ง เวลากินนมก็จะสำลักบ่อยๆต้องเดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่นตามหมอนัดเป็นประจำทุกเดือน อีกทั้งมีฐานะทางบ้านก็ยากจน มีสามี นายสุนทร โหมดทอง อายุ 38ปี อาชีพทำไร่ทำนา ทำสวนยางและรับจ้างทั่วไป รายได้ไม่พอเลี้ยงดู รักษาลูก สิ่งที่ต้องการคือนมผงและผ้าอ้อมสำเร็จรูปขนาดเด็กแรกเกิด ใช้สิ้นเปลืองมาก

ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวได้เข้าไปตรวจสอบที่เพจ“PioreZi”พบว่าเต็มไปด้วยโพสต์ข่าวปลอมโดยเฉพาะข่าวของ ด.ญ.มุทิตา ถูกลบออกไปแล้วซึ่งเพจนี้มีคนกดถูกใจและติดตามอยู่กว่า 35,000 คน อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้มีจิตกุศล สามารถบริจาคเงินช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลน้องมุทิตาได้ที่บัญชี ธ.ก.ส.สาขาปากชม เลขที่บัญชี 017332206371 ชื่อบัญชี น.ส.นงลักษณ์ ยานประสงค์.