คดีเงินทอนวัด 28 ล้าน ปปป.หอบสำนวน 9 แฟ้ม พร้อมความเห็นสมควรฟ้อง "อดีต ผอ.สำนักพระพุทธ - อดีต ผอ.กองพุทธศาสนสถาน - พระครูฉาว - เจ้าคณะ อ.ชนแดน - พระกิตติพัชรคุณ" ส่งอัยการ คาดพิจารณาสั่งฟ้องได้ทันก่อนครบกำหนดฝากขังอดีตพระครูกลาง ก.พ.นี้ เผย อดีต ผอ.สำนักพุทธคนดังหลบหนี เตรียมเสนอขอศาลหมายจับ ขณะที่ อธ.อัยการ เตรียมตั้งคณะทำงาน มี รอง อธ.คุมคดี
1 ก.พ.61 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเวลา 14.00 น.เศษ พ.ต.ท.เพชรชุมพร ศรีวะรมย์ พนักงานสอบสวน กองปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป.นำตัว นายฉัตรชัย ชูเชื้อ อดีต ผอ.พุทธศาสนสถาน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ 1 กระทรวงศึกษาธิการ ผู้ต้องหา สมคบกันฟอกเงิน ในคดีทุจริตโกงเงินงบประมาณสำนักงานพระพุทธศาสนาหรือเงินทอนวัด เป็นเอกสาร 9 แฟ้มใหญ่ พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายนพรัตน์ เบญจวัฒนะ อดีต ผอ.สำนักพระพุทธศาสนา (พศ.) , นายฉัตรชัย ชูเชื้อ , นายสมเกียรติ ขันทอง หรืออดีตพระครูกิตติพัชรคุณ เจ้าอาวาสวัดลาดแค และเจ้าคณะ อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ต่ออธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต
โดย นายวิเชียร ถนอมพิชัย อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต กล่าวว่า พนักงานสอบสวน ปปป.ได้ส่งสำนวนข้อหาคดีร่วมกันฟอกเงินมายังอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต โดยอ้างเหตุว่า มีผู้ร้องเรียนไปที่ สำนักงาน ปปป.ว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น จึงได้สืบสวนสอบสวนและมีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องจึงได้ทำการส่งสำนวนไปยัง ป.ป.ช.และได้แยกส่งสำนวนให้ ปปง.ดำเนินการยึดอายัดในส่วนที่เกี่ยวกับการฟอกเงินในส่วนแพ่ง
ต่อมาเมื่อ ปปง.ได้รับสำนวนก็มีการมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษความผิดฟอกเงินต่อ ปปป.และสอบสวนสรุปสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องมาในวันนี้ ซึ่งตนจะตั้งคณะทำงานขึ้นพิจารณาโดยที่มีรองอธิบดีเป็นหัวหน้าคณะทำงานก็จะพิจารณาให้แล้วเสร็จและมีคำสั่งก่อนที่จะครบกำหนดฝากขังอดีตพระครูกิตติพัชรคุณ วันที่ 22 ก.พ.
ด้าน นายประยุทธ์ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า คดีนี้ในส่วนของผู้ต้องหาที่1คือนายนพรัตน์ อดีต ผอ.สำนักพระพุทธศาสนา ได้หลบหนีซึ่งพนักงานสอบสวนก็เสนอมาเห็นควรสั่งฟ้องในวันนี้และเห็นควรให้ออกหมายจับ ซึ่งคดีจะขาดอายุความในวันที่ 21 ม.ค.2579
ส่วน นายฉัตรชัย อดีต ผอ.กองพุทธศาสนสถานฯ ผู้ต้องหาที่ 2 พนักงานสอบสวนนำตัวมาส่งที่อัยการในวันนี้ ส่วน นายสมเกียรติ อดีตพระครูกิตติพัชรคุณ ผู้ต้องหาที่ 3 ตัวอยู่ในอำนาจควบคุมตัวในชั้นฝากขังที่ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งจะครบกำหนดการฝากขังครั้งที่ 6 ในวันที่ 10 ก.พ.นี้ ซึ่งอัยการก็จะมีเวลาพิจารณาสำนวนอีก 1 ฝากจนถึงวันที่ 22 ก.พ.ซึ่งข้อหาเฉพาะที่ส่งสำนวนในวันนี้คือข้อหาฟอกเงิน ซึ่งมีสำนักงาน ปปง.เป็นผู้กล่าวหา ซึ่งความเสียหายในคดีนี้ที่ปรากฏในสำนวนจากการกล่าวหาว่ามีการเบียดบังจัดสรรงบประมาณของวัดต่างๆ ในเขต จ.เพชรบูรณ์ , นครสวรรค์ , ตาก และชุมพร ประมาณ 28 ล้านบาท และเงินทอนที่ผู้ถูกกล่าวหาเบียดบังไป 21 ล้านบาทเศษ คดีนี้เมื่อมีการตั้งคณะทำงานและเป็นคดีสำคัญก็จะต้องเสนอผู้บังคับบัญชาตามขั้นตอนขอให้ประชาชนเชื่อใจในความรวดเร็วละเอียดรอบคอบของอัยการ
ขณะที่ พ.ต.ท.เพชรชุมพร ศรีวะรมย์ พนักงานสอบสวน ปปป.กล่าวว่า เรื่องเงินทอนวัดที่ ปปง.ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษมีอยู่อีกหลายสำนวนที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานให้พนักงานอัยการพิจารณา ซึ่งสำนวนที่อยู่ระหว่างพิจารณาในชุดแรกเป็นสำนวนที่ปปช.ได้ชี้มูลเข้ามาซึ่งยังมีผู้ต้องหาหลายสิบคนที่จะทยอยส่งให้อัยการพิจารณาเพื่อมีคำสั่งต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี