ว่าด้วยการปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ศาสตร์พระราชา โดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ ได้น้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ส่งเสริมให้เกิด “ป่าครอบครัว” ในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ของ จ.กาฬสินธุ์ จากการปลูกป่า 3 อย่าง อันเป็น ไม้ใช้ ไม้กินได้และไม้เศรษฐกิจ สู่ประโยชน์ 4 อย่าง แม้ว่าจะใช้เวลาเนิ่นนานอย่างน้อย 5 ปีจะเห็นผล แต่ผลที่ได้รับ ได้ก่อให้เกิดความยั่งยืน และมั่นคงให้กับ “คนปลูกป่า” อย่างเป็นรูปธรรม
ประพันธ์ เวียงสมุทร และ อัมพร วารีกุฎ สองสามีภรรยา ที่ได้น้อมนำศาสตร์ของพระราชาจากการปลูกป่า ต่อยอดผสมผสานกับหลุมพอเพียงของพระมหาสุภาพ พุทธวิริโย โดยมีภาคเกษตรกร ประชาชน และเครือข่ายภาครัฐเข้ามาส่งเสริม ช่วยเหลือและให้คำแนะนำจากคำชักชวน พื้นที่ว่างตามหัวไร่ปลายนา จึงเกิดเป็นป่าผืนย่อมๆ ในพื้นที่ 4 ไร่ ด้วยความพากเพียรเฝ้าดูแลรักษาในเวลา 5 ปี ผลจากการปลูกป่าที่ได้รับมาในเวลานี้เป็นสิ่งเหนือความคาดฝัน ภายใต้ความร่มรื่น สงบ ร่มเย็น กับบทบาทใหม่ของการเป็นต้นแบบ ป่าครอบครัว จากชื่อ สวน นา ป่าเห็ด เฮินโฮม
ประพันธ์ เวียงสมุทร เล่าว่า จากการทำธุรกิจครอบครัวค้าขายผ้าฝ้ายเข็นมือโบราณ ผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติ ครอบครัวอยู่กับธรรมชาติมาโดยตลอด จนเกิดแรงบันดาลใจที่จะเริ่มต้นปลูกต้นไม้ ปลูกป่าโดยยึดแนวทางของหลุมพอเพียงของพระหาสุภาพ พุทธวิริโย เข้ามาประยุกต์ใช้ภายในสวน แบ่งสัดส่วนพื้นที่ 4 ไร่เศษ เป็นที่พัก นาข้าว สลับกับการปลูกต้นฝ้าย ต้นไม้ที่ปลูกในพื้นที่ เน้นความหลากหลาย มีทั้งเต็งรัง
จิก ต้นสัก ต้นชาด ประดู่ ยางนา หรือไม้ยืนต้นหายากในป่าอีกหลายพันธุ์ โดยได้รับการสนับสนุนจากผู้นำเกษตรภาคประชาชน รวมถึงสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ สนับสนุนพันธุ์ไม้และคำแนะนำมาโดยตลอด
“ก่อนหน้านั้นยังไม่รู้ซึ้งถึงประโยชน์ของการปลูกป่า จนกระทั่งเริ่มลงมือขุดหลุมและปลูกต้นไม้นานาพันธุ์ที่สวน เมื่อต้นไม้เริ่มเติบโตจากที่เราเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด จาก 1 ปี เป็น 5 ปี ไม่ใช่แค่ความผูกพันแต่กลับกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เราเริ่มได้ใช้ประโยชน์จากป่าที่เราปลูกในปีที่ 3 เป็นทั้งแหล่งผลิตอาหาร ป่าของกิน ที่ผุดขึ้นมาอย่างไม่คาดฝัน ขณะที่เปลือกไม้ ใบไม้ กิ่งไม้ ยังนำมาสร้างสรรค์ สู่กระบวนการย้อมผ้าฝ้ายธุรกิจของครอบครัวได้อย่างลงตัวและสวยงาม ความไม่คิด และไม่คาดฝันจากการปลูกป่า จากพื้นที่ว่างเปล่าที่ไม่รู้จะปลูกอะไร จนเป็นป่าย่อมๆ ป่าที่คนในครอบครัวร่วมกันปลูกขึ้นมาเอง และเริ่มต้นการเรียนรู้ศาสตร์ของพระราชาจากการปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ทั้งการศึกษาเอง และการเข้าไปขอความรู้ร่วมกับส่วนราชการ สวนนาป่าเห็ด เฮินโฮม เกิดจากแรงบันดาลใจและจะเดินหน้าต่อไปเพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจกับทุกๆ คน 1 ป่า 1 ครอบครัว อยากให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เพราะจริงๆ แล้วผืนป่า ธรรมชาติ และเป็นที่พึ่งพิงของมนุษย์”
อัมพร วารีกุฎ เล่าว่า ภายหลังจากต้นไม้ที่ปลูกเริ่มเติบโต เกิดความคิดนำใบไม้ เปลือกไม้ และส่วนต่างๆ มาทดลองเป็นส่วนผสมการย้อมสีผ้าฝ้าย ลองผิดลองถูกจนได้วิธีย้อมเปลือกไม้สีสันสวยงามเป็นสินค้าผ้าฝ้ายย้อมสีธรรม จากเปลือกไม้ ด้วยการนำเสนอผ่านช่องทางโซเชียล ทำให้เกิดเป็นกระแสนิยมและยังมีออเดอร์จากต่างประเทศเข้ามา ขณะเดียวกัน เห็ดป่าตามฤดูกาลได้ผลิดอกจากใต้ดินขึ้นมาอีก ยิ่งทำให้สวนนาป่าเห็ดเฮินโฮม เป็นจุดท่องเที่ยว ถ่ายภาพ และเรียนรู้วิถีคนอาศัยในป่า
“เห็ดที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ทั้งเห็ดระโงก เห็ดโคน เห็ดปลวก และเห็ดก่อ เห็ดดิน ถ้าจะนำไปวางขายในท้องตลาดคงจะมีมูลค่ามากเพราะมีจำนวนเยอะจริงๆ แต่เราเลือกที่จะแจกจ่ายให้กับเพื่อนบ้าน ทั้งในแบบเห็ดสดและแปรรูปเป็นอาหารเป็นความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้น จากการปลูกป่าเพราะอยากใกล้ชิดธรรมชาติ แต่เวลานี้ป่าได้ให้ชีวิตกับเราเป็นผลตอบแทนที่คุ้มค่าตี ราคาไม่ได้ โดยเฉพาะคุณค่าทางจิตใจ” นางอัมพรกล่าว
ด้านนายพิชิต สมบัติมาก ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ศาสตร์พระราชาว่าด้วยการปลูกป่า
3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง แนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เป็นแนวทางวิธีที่ทางสำนักงานได้เข้าส่งเสริมชาวบ้านในพื้นที่นอกเขตชลประทาน 13 อำเภอ ได้หันมาเพิ่มพื้นที่ป่าให้มากขึ้น 1 ป่า 1 ครอบครัว เริ่มจาก 1 ไร่ ในปีแรก และขยายพื้นที่ออกเรื่อยๆ ในกลุ่มป่าครอบครัวต้นแบบจากครอบครัวขยายสู่หมู่บ้าน ตำบล และอำเภอ ทำให้สมาชิกป่าครอบครัวเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ โดยครัวเรือนต้นแบบ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เป็นพี่เลี้ยง โดยเกษตรกรสามารถนำบัตรประจำตัวประชาชน โฉนดที่ดินแสดงที่ตั้งพื้นที่เข้าร่วมโครงการ มารับพันธุ์ไม้นานาชนิดได้ที่สำนักงานป่าไม้ นอกจากนี้ ยังได้รับผลตอบแทนจากการเข้าร่วมโครงการไร่ละ 5,000 บาท แบ่งจ่ายเป็นปีๆ จนครบกำหนด รวมถึงเปิดโอกาสให้เกษตรกรได้นำพันธุ์ไม้ไปปลูกตามหัวไร่ปลายนา ที่ขณะนี้เกษตรกรตื่นตัวอย่างมาก ที่จะหาพันธุ์ไม้ไปปลูกในพื้นที่ของตนเอง ดูได้จากปริมาณการขอพันธุ์ไม้ที่เพิ่มขึ้นทุกๆ ปี
“ถ้า 1 ล้านครอบครัว มีป่าคนละ 1 ไร่ ประเทศไทยก็จะมีผืนป่าเพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านไร่ การส่งเสริมให้ประชาชนลุกขึ้นมาปลูกป่า ปลูกต้นไม้ เป็นเครื่องมือที่จะคืนผืนป่าให้กับประเทศไทย รวมถึงการสร้างความสามัคคีให้เกิดกับคนไทยทุกๆ กลุ่ม ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ นอกเหนือจากการส่งเสริมให้ปลูกป่าแล้ว ทางสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) จ.กาฬสินธุ์ ยังได้นำหลุมพอเพียง เข้ามาเป็นเครื่องมือในการสร้างแรงบันดาลใจให้ได้เห็นผลของการปลูกป่า รวมถึงฝายมีชีวิต ที่มีต้นไม้ มีป่า เป็นปัจจัยสำคัญของการสร้างฝายมีชีวิต รูปธรรมที่มีความชัดเจนในแนวทาง นำมาซึ่งแนวทางการส่งเสริมที่ประสบผลสำเร็จเห็นได้จากครอบครัวของสวนนาป่าเห็ดเฮินโฮม แม้จะต้องใช้เวลานานกว่า 5 ปี” นายพิชิตกล่าว
นอกเหนือจากป่าครอบครัวที่จะช่วยสร้างผืนป่าให้กับประเทศไทยให้เพิ่มมากขึ้น บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการแล้ว ในการใช้ประโยชน์จากป่าที่เห็นได้ชัดเจนมากกว่ามูลค่าทรัพย์สินอื่นๆ คือความสุขทางใจและชีวิตที่ปลอดภัยในผืนป่าของตนเอง กลายเป็นต้นแบบของวิถีชีวิตของคนในทุกอาชีพ ที่จะใช้ชีวิตอยู่ในผืนป่าของตนเอง
กฤษณ์ ทิพเลิศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี