วันพุธ ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
คดี'เกาะหลีเป๊ะ'! พบ จนท.ผิดฐาน'ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ'

คดี'เกาะหลีเป๊ะ'! พบ จนท.ผิดฐาน'ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ'

วันอังคาร ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561, 14.05 น.
Tag : เกาะหลีเป๊ะ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ พบ จนท.ผิด รุกอุทยาน
  •  

20 ก.พ.61 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอใช้พื้นที่เกาะหลีเป๊ะ จากกรมป่าไม้กว่า 10 ไร่ต่อมาถูกกลุ่มนายทุนรุกที่ดินพื้นดังกล่าวเหลือเพียงครึ่งไร่ว่า ตามที่มีผู้บุกรุกวนอุทยานเกาะหลีเป๊ะ ขับไล่และให้รื้อถอน สภ.หลีเป๊ะ รวมถึงบ้านพักข้าราชการตำรวจออกจากพื้นที่นั้นจากการสำรวจจากหลักฐานที่วนอุทยานฯได้อนุญาตให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติใช้ประโยชน์ พ.ศ. 2531 มีพื้นที่ 18 ไร่เศษ แต่ปัจจุบันถูกนายทุนบุกรุกเข้ามาทำการสร้างโรงแรมและรีสอร์ท เหลือพื้นที่ทำการของตำรวจเพียงแค่ 2 งานนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.จึงได้มอบหมายให้ตนร่วมกับ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย รอง ผบช.ภ.9 และ พล.ต.ต.ศุภวัฒน์ ทับเคลียว ผบก.ภ.จว.สตูล ดำเนินการนำพื้นที่ของ สภ.หลีเป๊ะ กลับคืนมาและดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด  

โดย ผบ.ตร.ได้มีคำสั่งให้ตนเป็นหัวหน้าคณะทำงานและให้ พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผบช.กมค.เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ประกอบด้วย  พนักงานสอบสวนทั้งจากส่วนกลางและพื้นที่ร่วมกันสืบสวนสอบสวนจนทราบว่า เดิมไม่มีผู้ใดทำประโยชน์ในพื้นที่ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขอใช้มาก่อนแต่อย่างใด  และจากการตรวจสอบการได้มาของ สค.1 เลขที่ 29, 39 และ 33 เป็นการได้มาโดยมิชอบ และเป็นการนำเอกสาร สค.1 ที่ได้มาโดยมิชอบมาทำการออก นส.3 เลขที่ 29, 39 และ 33 โดยมิชอบ นอกจากนี้การออก นส.3 ยังได้ออกโดยเนื้อที่เกินไปกว่าที่ระบุไว้ใน สค.1 ดังปรากฏตามรายละเอียดที่ดินเนื้อที่ตาม สค.1 เนื้อที่ ตาม นส.3 เนื้อที่เกินไป เลขที่ 29 จำนวน 6 ไร่ 3 งาน และ16 ไร่ 2 งาน และ 9 ไร่ 3 งาน เลขที่ 39 จำนวน 2 ไร่ 2 งาน 17 ไร่ 14 ไร่ 2 งาน เลขที่ 33 จำนวน 7 ไร่ 2 งาน 60 ตรางวา และ17 ไร่ อีก 9 ไร่ 1 งาน 40 ตรางวา รวมที่ดิน 3 แปลง มีเนื้อที่ใน นส.3 เกินกว่าที่ระบุใน สค.1 ทั้งสิ้น 33 ไร่ 2 งาน 40 ตรางวา


พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบการได้มาของเอกสารการได้ขอ สค.1 และ นส.3 ที่มิชอบนั้น มีผู้เกี่ยวข้องจากการได้เอกสารมาโดยมิชอบ คือนายบรรจง อังโชติพันธ์ (ถึงแก่ความตาย) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกำนันตำบลเกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล, นายกระจ่าง  บุญเรืองขาว (ถึงแก่ความตาย) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเสมียนพนักงานที่ดิน มีหน้าที่ตรวจสอบที่ดิน, นายเติมศักดิ์ สมันตรัฐ  (ถึงแก่ความตาย) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายอำเภอเมืองสตูลโดยได้ร่วมกันกระทำความผิดในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 มีอัตราโทษ จำคุกตั้งแต่หนึ่งปี ถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ และกระทำการโดยทุจริต เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำการรับรองเป็นหลักฐานว่า ตนได้กระทำการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จ โดยการกระทำของบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา  162 (1) ประกอบมาตรา 83 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี และปรับไม่เกินหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท

นอกจากนี้ ยังตรวจพบการจัดทำเอกสารเท็จเพื่อนำมาใช้ยืนยันความถูกต้องและความชอบธรรมในการออก สค.1 และ นส.3 แปลงที่ 29,33 และ 39 ว่าเป็นการได้ สค.1 มาโดยชอบ และออกเอกสาร นส.3 มาด้วยความถูกต้อง เพื่อใช้เป็นหลักฐานมิให้คณะกรรมการตรวจสอบที่ดิน ตามคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ทำการเพิกถอน นส. 3 และยกเลิก สค. 1 ทั้ง 3 แปลงดังกล่าว อีกทั้งได้นำมาใช้เป็นพยานหลักฐาน เอกสารราชการ เพื่อใช้ยืนยันในการดำเนินการต่างๆ รวมตลอดถึงใช้อ้างอิงในการต่อสู้คดีชั้นพนักงานสอบสวนและศาล จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่คดีและความยุติธรรม 

โดยผู้กระทำผิดในการจัดทำเอกสาร ประกอบด้วยนายฉลองศักดิ์ เชียรวิชัย อดีตปลัดอาวุโสเมืองสตูล ในฐานะประธานกรรมการ นายณรงค์ เอกวงศ์ อดีตผู้ช่วยเกษตรจังหวัดฝ่ายวิชาการสตูล นายสุริยา ลักษโณสุรางค์  อดีตพนักงานที่ดินจังหวัดสตูล นายอัครพล เชียรวิชัย อดีตปลัดอำเภอเมืองสตูล นายกิจชัย หอพิสุทธิสาร  อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล นายจำลอง ศรีไชย อดีต เจ้าหน้าที่วิชาการเกษตรจังหวัดสตูล 

ส่วนการดำเนินการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทำการรื้อฟื้นคดีอาญาที่ 688/2554 ของ สภ.เมืองสตูล ซึ่งทางพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องไปแล้ว เมื่อวันที่ 9 มี.ค.2556 ซึ่งจากการรวบรวมพยานหลักฐาน พบพยานหลักฐานใหม่ 

ดังนี้ การนำชี้พิกัดที่ดินที่เป็นสถานที่เกิดเหตุ ที่เป็นเหตุสั่งไม่ฟ้อง ผิดสถานที่, แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ ปี 2493, 2497, 2522 ,2529, 2539 และ 2556 โดยผู้เชี่ยวชาญอ่านและแปลผลยืนยันว่าสถานที่เกิดเหตุและที่พนักงานสอบสวนอ้างถึงไม่มีคนอยู่อาศัย, การปฏิบัติหน้าที่มิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐในการออกเอกสาร สค.1, นส.3 และแบบตรวจนับอายุมะพร้าว โดยมิชอบตามคำพิพากษาศาลฏีกา คดีหมายเลขแดงที่ 7974/2540 และ 5697/2559 ระหว่างนางณัฐฎญา สมานุกร กับกรมตำรวจ ศาลพิพากษายกฟ้อง กรมตำรวจด้วยเหต กรมตำรวจได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้อย่างถูกต้อง, การยืนยันสถานที่เกิดเหตุ ตามคดีอาญาที่ สภ.เกาะหลีเป๊ะ ที่ 59/2559 คดีหมายเลขแดงที่ 481/2560 และคดีอาญาที่ 48/2560 ซึ่งยืนยันว่าผิดสถานที่เกิดเหตุจริง 

จึงสรุปสำนวนมีความเห็นเชื่อว่ามีพยานหลักฐานใหม่อันสำคัญแห่งคดี เชื่อว่านายมานิต กวีรัตน์ ผู้ต้องหาได้สร้างกำแพงบุกรุกเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตาโดยมิชอบ จึงส่งสำนวนการสอบสวนคดีอาญาที่ 688/2554 ลงวันที่ 30 พ.ย.2554 และผลการสอบสวนเพิ่มเติมไปยังพนักงานอัยการเพื่อพิจารณา   

สำหรับกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ออกเอกสาร สค.1, นส.3 โดยมิชอบและเจ้าหน้าที่ที่จัดทำแบบตรวจนับคำนวณอายุมะพร้าวอันเป็นเท็จ ซึ่งจากการสอบสวนมีพยานหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่าเป็นการกระทำความผิดฐาน "เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำการรับรองเป็นหลักฐานว่า ตนได้กระทำการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จ  โดยการกระทำของบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 , 162 (1)  และมาตรา 83 แต่เนื่องจากระยะเวลาผ่านมาเนิ่นนานทำให้คดีขาดอายุความ สิทธิการนำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป จึงไม่สามารถดำเนินคดีจากผู้กระทำความผิดได้

แต่จากการสอบสวนมีพยานหลักฐานยืนยันการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่แน่ชัด จึงส่งสำนวนการสอบสวนให้ ป.ป.ช.เพื่อพิจารณาไต่สวนคดียืนยันว่ามีการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐ อันจะนำไปสู่การยกเลิก สค.1 และเพิกถอน นส.3 และยกเลิกแบบนับจำนวนอายุมะพร้าว และบันทึกการไม่เพิกถอนสิทธิในที่ดิน นส.3 ในแปลงเลขที่ 29 , 33 และ 39  เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

มั่นใจไร้สะดุด! ‘JAS-AIS’ย้ำเน็ตแรงยิงสดบอลผู้ดี

บันไดมาพาดแล้ว! ‘หมอเปรม’แนะ‘อิ๊งค์’ลาออก เปิดทางสภาฯเลือก‘นายกฯคนใหม่’

เจ้าของใจสลาย! แมวถูกหมารุมกัดตาย ซ้ำลุงเก็บขยะชาวกัมพูชา นำซากไปปิ้งหวังประกอบอาหาร

รวมตัวสายบู๊! ช่อง7ยิงสดสามมวยดังสุดสัปดาห์นี้

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved