22 ก.พ.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น. ที่บริเวณป่าอ้อยท้ายหมู่บ้านห้วยยาง หมู่ที่ 5 ต.คำใหญ่ อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ไพโรจน์ ไทยพุทรา รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ธนาวัชร ดีบุญมี ผกก.สภ.ห้วยเม็ก และพ.ต.อ.ธีรพัฒน์ ธารีไทย ผกก.สืบสวน ภ.จว.กาฬสินธุ์ พร้อมกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนกว่า 50 นาย นำตัว นายชยุต หรือหม่ำ ราระศรี บ้านเลขที่ 10 หมู่ที่ 5 ต.คำใหญ่ อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาคดีฆ่าข่มขืน ด.ญ.เอ (สงวนชื่อนามสกุล) นักเรียนหญิงชั้น ป.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของนายชยุต ผู้ต้องหา หลังทำการล่อลวงเพื่อข่มขืนด้วยการแอบถ่ายคลิปลูกเลี้ยงขณะอาบน้ำ และแอบถ่ายรูปอนาจารตามร่างกาย ก่อนทำการปลอมเฟซบุ๊ค เป็นหนุ่มหน้าตาดี ทำการข่มขู่เพื่อขอร่วมหลับนอน ก่อนผู้ตายจะดิ้นรนต่อสู้ขัดขืนจนถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม ตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2561 และถูกจับกุมพร้อมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

โดยก่อนการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ผู้ต้องหายังอยู่ในอาการสงบนิ่ง โดยอ้างว่าที่ทำไปเพราะต้องการหลับนอนแต่ถูกปฏิเสธ อีกทั้งเจ้าโลกไม่แข็งตัวและภรรยาก็ไม่ยอมให้หลับนอนด้วย เนื่องจากตนได้นำเจ้าโลกไปฉีดเพิ่มขนาดจนทำให้เน่า อีกทั้งก็ต้องการมีเพศสัมพันธ์กับลูกเลี้ยง จึงได้ทำการถ่ายคลิปลูกเลี้ยงเพื่อเอาไว้ข่มขู่ ก่อนจะออกอุบายปลอมเฟซบุ๊คเป็นหนุ่มหล่อมาชักชวนไปหลับนอน แต่เมื่อพบว่าตนลูกเลี้ยงไม่ยอม จึงตัดสินใจใช้ลำอ้อยตีจนตาย ทั้งนี้การทำแผนประกอบคำรับสารภาพเกิดขึ้นท่ามกลางเสียงสาปแช่ง และมีความพยามจะรุมประชาทัณฑ์

คดีนี้ ร้อยเวร สภ.ห้วยเม็ก ได้รับแจ้งเหตุคนหาย จากนายชยุต ราระศรี ผู้ต้องหา และนางสาวบี (สงวนชื่อนามสกุล) แม่ของผู้ตาย เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 21.00 น.ว่า ด.ญ.เอ อายุ 12 ปี บุตรสาว ได้หายออกไปจากบ้านตั้งแต่ช่วงกลางวัน จนถึงขณะนี้ยังไม่กลับบ้าน เบื้องต้นร้อยเวร สภ.ห้วยเม็ก จึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับแจ้งผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นและติดตามค้นหาแต่ก็ไม่พบ

ต่อมาเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2561 ครบ 48 ชั่งโมง ซึ่งร้อยเวรฯได้สอบถามไปถึงยังครอบครัว ก็แจ้งว่ายังไม่กลับบ้าน ครอบครัวซึ่งได้ออกตามหาเกรงว่าจะถูกลักพาตัว พ.ต.อ.ธนาวัชร ดีบุญมี ผกก.สภ.ห้วยเม็ก จึงได้รายงานไปยังตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยพ ล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ไพโรจน์ ไทยพุทรา รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ , พ.ต.อ.ธีรพัฒน์ ธารีไทย ผกก.สืบสวน ภ.จว.กาฬสินธุ์ เข้าช่วยติดตาม ร่วมกับ พ.ต.อ.ธนาวัชร ดีบุญมี ผกก.สภ.ห้วยเม็ก

จากการแกะรอยชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เริ่มตั้งแต่การหาข่าวภายในครอบครัว มีการสอบปากคำ และการแกะรอยกล้องวงจรปิด จนไปพบกล้องวงจรปิดภายในตลาดหลายแห่ง เป็นเหตุการณ์ในช่วงบ่ายของวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2561 กล้องบันทึกภาพผู้ตาย ในร้านขายของชำใกล้บ้าน และยังได้เบาะแสจาก เฟซบุ๊คของน้องผู้ตาย ซึ่งตำรวจไปพบบทสนทนากับผู้ต้องสงสัย ที่ใช้ชื่อเป็นภาษาอังกฤษ ว่า “Chayut”เป็นรูปหนุ่มหน้าตาดี แต่ด้วยข้อสงสัยว่าจะเป็นฝีมือของพ่อเลี้ยง ชุดสืบสวนจึงได้เชิญตัวนายชยุต ผู้ต้องหามาสอบปากคำ ครั้งแรกในช่วงบ่ายผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ จึงได้ปล่อยตัวกลับไป แต่ได้ขอโทรศัพท์มือไว้ตรวจสอบ

ชุดสืบสวนจึงได้เริ่มได้ทำการแกะข้อความสำคัญในเฟซบุ๊คและโทรศัพท์ผู้ต้องหา ซึ่งมีการถ่ายภาพลามกอนาจารตัวของน้องผู้ตาย ที่นอนอยู่บนเตียงนอน และมีการโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กของ “Chayut” ไปถึงผู้ตายโดยประจานว่า “มีคลิปหลุดเด็กคนนี้ กับแฟนหนุ่มน้อง....(สงวนชื่อนามสกุล) นักเรียนโรงเรียน ......... (สงวนชื่อโรงเรียน) ที่กำลังโด่งดังในตอนนี้ มาแรงในโลกโซเชียล ใครอยากดูทักเฟซมา แล้วบอกมาว่าอยากดู เดี๋ยวส่งให้ทางแชท” 

ชุดสืบสวนจึงได้ทำการแกะรอยย้อนหลังจนทราบว่า เฟซบุ๊คที่ใช้ชื่อ  “Chayut” คือนายชยุต พ่อเลี้ยงของน้องผู้ตายนั่นเอง ทางตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ จึงได้เชิญตัวนายชยุต มาสอบปากคำอีกครั้ง ในเวลา 19.00 น. โดย พ.ต.อ.ธีรพัฒน์ ธารีไทย ผกก.สืบสวน ภ.จว.กาฬสินธุ์ ทำการสืบสวนด้วยตนเอง 

และจากการสอบสวนซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง นายชยุต ผู้ต้องหา จึงเปิดปากรับสารภาพว่าเป็นเจ้าของเฟซบุ๊ค และได้ลงมือฆ่าตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยก่อนที่จะลงมือได้ให้เงินไปเติมเงินในโทรศัพท์ผู้ตาย ก่อนจะทำการล่อลวงไปที่บริเวณกระท่อมปลายนาไร่อ้อย เพื่อขอมีเพศสัมพันธ์แลกเปลี่ยนกับการลบคลิปในเฟซบุ๊ค แต่น้องไม่ยอมและต่อสู้ขัดขืน ทำให้ผู้ต้องซึ่งได้เสพยาบ้าโมโห จึงได้ใช้ลำอ้อยตีเข้าที่ท้ายทอยจนสลบ จากนั้นจะลงมือข่มขืน แต่เนื่องจากอวัยวะเพศของตนใช้การไม่ได้ เนื่องจากไปฉีดให้เจ้าโลกใหญ่แต่เกิดเป็นแผลเน่าจึงไม่แข็ง เลยตัดสินใจลากเข้าป่าอ้อย แล้วใช้ลำอ้อยตีเข้าที่หน้าหลายครั้ง จนแน่ใจว่าตายสนิทแล้วทิ้งศพไว้ในป่าอ้อย

ภายหลัง นายชยุต ผู้ต้องหารับสารภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ และชุดสืบสวน สภ.ห้วยเม็ก จึงได้ให้นายชยุต ผู้ต้องหา ไปยังที่เกิดเหตุ ตำรวจก็ได้กลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วบริเวณ เมื่อเดินเข้าไปในป่าอ้อยก็พบศพของน้องอยู่ในป่าอ้อย สภาพศพ สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นสีเหลือง สภาพร่างกายมีแผลถูกตีเข้าที่ใบหน้า โดยทีมแพทย์ชันสูตรโรงพยาบาลห้วยเม็ก ระบุว่า เสียชีวิตจากการถูกของแข็งตีที่ใบหน้า เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ จึงได้นำศพออกไปเก็บไว้เพื่อส่งต่อไปยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์จังหวัดขอนแก่น

ผกก.สืบสวน ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า คดีนี้ตำรวจได้ทำการแกะรอยจากเฟซบุ๊ก ซึ่ง นายชยุต ผู้ต้องหา ได้ปลอมตัวเข้ามาใช้เฟสบุ๊คชื่อ “Chayut”ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 โดยมีพฤติกรรมต้องการจะกระทำอนาจารผู้ตายก่อนหน้าลงมือฆ่า ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ในช่วงเดือนตุลาคม 2560 ได้ทำการแอบถ่ายรูปผู้ตายระหว่างอาบน้ำและยังเคยไปถ่ายรูปผู้ตายบนที่นอนระหว่างนอนหลับ เพราะถึงแม้ลูกเลี้ยงจะมีอายุ 12 ปี  แต่ร่างกายโตกว่าเด็กปกติทั่วไป ซึ่งผู้ต้องหาสารภาพว่า ต้องการมีเพศสัมพันธ์ การลวนลามจึงได้เริ่มด้วยการเปิดถลกเสื้อลูกเลี้ยงเพื่อถ่ายหน้าอกขณะนอนหลับ ก่อนจะทำการโพสเฟซบุ๊คเพื่อใช้เป็นเครื่องมือต่อรอง

“แต่ผู้ต้องหารายนี้ไม่สามารถข่มขืนได้แน่นอน เพราะอวัยวะเพศของผู้ต้องหาเป็นแผล เกิดจากการไปฉีดเจ้าโลกให้ใหญ่ แต่เกิดการอักเสบ จนเหม็นเน่า จึงเชื่อว่าภรรยาที่อยู่ในบ้านคงจะไม่ยอมให้หลับนอนด้วย จึงได้ตัดสินใจทำการล่อลวงลูกเลี้ยงตนเอง โดยปลอมเฟซบุ๊คขู่เพื่อขอมีเพศสัมพันธ์ แต่คาดว่าน้องไม่ยอม จึงใช้ลำอ้อยตีจนเสียชีวิต”

พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า คดีนี้ ด.ญ.ผู้ตาย เป็นลูกติดของนส.บี มารดา โดยได้มาอยู่กินกับผู้ต้องหา ในปี 2558 ผู้ตายจึงเป็นลูกเลี้ยง ซึ่งการทำงานของตำรวจเป็นการแกะรอยจากเฟซบุ๊คมือถือ เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงในโลกโซเชียล จึงขอให้ผู้ปกครองทุกคนระมัดระวังในเรื่องการใช้โทรศัพท์มือถือ การใช้เฟซบุ๊ค โดยเฉพาะรายนี้ผู้ต้องหาเป็นถึงพ่อเลี้ยง ซึ่งมีจิตใจโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ ทั้งนี้จากการตรวจค้นที่บ้านผู้ต้องหา ตำรวจยังพบอาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ อีก 1 กระบอก

อย่างไรก็ตาม คดีนี้ตำรวจได้ตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และปิดบังซ่อนเร้นทำลายศพ กระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งอยู่ในความปกครอง และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามก มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ดำเนินคดีต่อไป