28 มี.ค.61 จากกรณีที่มีข่าวนายเถลิง ยงพูเขียว อายุ 54 ปี ชาว จ.อุตรดิตถ์ ถูกหลอกลงเรือประมงกว่า 15 ปี โดยไม่เคยได้ขึ้นฝั่ง แถมไม่ได้เงินค่าจ้างแม้แต่บาทเดียว และต้องชีวิตบนเรือประมงอย่างยากลำบาก ก่อนจะมาขึ้นบกที่ จ.พังงา ก่อนที่โบกสิบล้อไป จ.นครปฐม แล้วหางานทำพอเก็บเงินได้ก็ซื้อจักรยานแล้วปั่นกลับบ้านโดยใช้เวลาถึง 15 วัน ตามที่มีข่าวหลายสำนักได้ทำเสนอ ทางผู้สื่อข่าวจังหวัดพังงา ได้ลงพื้นที่พร้อมเข้าสอบถามข้อเท็จจริงจากทางนายกสมาคมประมงจังหวัดพังงา เพื่อหาข้อเท็จจริงว่าเกิดเรื่องนี้ได้อย่างไร

ทางนายบุญชู แพใหญ่ นายกสมาคมประมงจังหวัดพังงา กล่าวว่า ตนเองได้ทราบข่าวลูกเรือประมงถูกหลอกทำงานบนเรือประมงตลอดเวลากว่า 10 ปี ตนเองก็รู้สึกเสียใจที่ทราบข่าวว่าลูกเรือประมงถูกหลอกลวงเรือนานถึง 10 ปี หลังจากมีข่าวออกมาตนเองได้เช็คข่าวตามท่าเรือหรือแพปลาต่างๆที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดพังงา ยังไม่พบว่ามีเรือประเภทนี้เข้ามาในพื้นที่จังหวัดพังงา ซึ่งจากการที่มีข่าวออกมาทางผู้ประกอบการประมงอยากจะให้ทางคนที่ให้ข่าวบอกข้อเท็จจริง ว่าทำงานที่เรือของบริษัทใดและใครคือคนหลอกให้ลงเรือไปทำงาน เพราะในเมื่อทางเจ้าตัวจำทางกลับบ้านได้ก็ต้องจำเรือที่ลงไปทำงานได้ว่าเป็นเรือของบริษัทใด

โดยถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงทางผู้ประกอบการเรือประมงในพื้นที่จังหวัดพังงา พร้อมที่จะช่วยเหลือ ทางครอบครัวที่ได้รับความลำบากจริง เพราะตอนนี้ทาง EUU ได้เข้ามาตรวจสอบประมงไทยว่าเรื่องการทำผิดกฎหมายในช่วงเดือนหน้าแต่ทำไมถึงมีข่าวแบบนี้ออกมาตลอดระยะเวลา 3 ปี ทางผู้ประกอบการเรือประมงในพื้นที่จังหวัดพังงา ได้ทำถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมดทั้งการแจ้ง เรือเข้าออกและลูกน้องที่อยู่บนเรือซึ่งในฐานะที่ตนเองเป็นนายกสมาคมประมงจังหวัดพังงาก็รู้สึกเสียใจว่ามีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นจึงอยากวิงวอนให้ทางภาครัฐตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะจะส่งผลกระทบให้กับผู้ประกอบการประมงที่ตั้งใจทำถูกต้องตามกฎหมายหมดทุกอย่าง