"รจนา"ส่ง จม.เปิดผนึกฉบับที่ 2 ห้องสื่อ ศธ.อีก แฉ "อรรถพล" ปธ.ตรวจสอบทุจริตกองทุนเสมาฯให้ข้อมูลเท็จ ยันตนเองไม่เคยได้รับการติดต่อจาก "อรรถพล" ไปให้ปากคำ ชี้เป้ามีโกงอีกเพียบช่วยหาคนผิดลงโทษหน่อย ขณะที่ "อรรถพล" ยันคุยจริงแต่จำช่วงเวลาไม่ได้ ลั่นไม่ต้องการโต้ตอบ ขอให้เข้ามาให้ข้อมูล หาวิธีการนำเงินคืน ด้านปลัด ศธ.ประชุมกรรมการกองทุนเสมาฯ รายงานปัญหาทุจริต ยันเงินต้น 600 ล้านยังอยู่พร้อมดอกเบี้ย 49 ล้านบาท เร่งทำคู่มือพัฒนาระบบกองทุนเสมา ก่อนเยียวยาเด็ก-ครูที่มีสิทธิ์รับเงินกองทุน
วันนี้ (11 เม.ย.) เวลา 17.30 น. มีผู้ขับรถจักรยานยนต์รับจ้างนำซองเอกสาร จ่าหน้าถึง ผู้สื่อข่าวทุกสำนัก ศธ.มาส่งที่ห้องสื่อมวลชนประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยเป็นจดหมายเปิดผนึกฉบับที่ 2 จำนวน 1 แผ่น หน้าหลัง ท้ายจดหมายลงชื่อ นางรจนา สินที อดีตข้าราชการระดับ 8 ที่ถูกไล่ออกจากราชการกรณี ทุจริตกองทุนเงินเสมาพัฒนาชีวิต
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามผู้ขับรถจักรยานยนต์ที่มาส่งจดหมาย ดังกล่าว ตอบเพียงว่ามีผู้ว่าจ้างจากเมืองทองธานี ให้นำเอกสารดังกล่าวมาส่งที่ห้องสื่อมวลชน ศธ. โดยไม่รู้รายละเอียดอื่นๆ
เปิดจม.ฉบับที่2"รจนา"
สำหรับเนื้อหาในจดหมายเปิดผนึกฉบับที่ 2 ระบุว่า กราบเรียน นายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา) ตามที่ดิฉันนางรจนา สินที อดีตข้าราชการสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการระดับชำนาญการพิเศษซึ่งรับผิดชอบ "กองทุนเสมาพัฒนาชีวิต" ได้กราบเรียนท่านนายกรัฐมนตรีตามจดหมายเปิดผนึก ฉบับก่อนไปในหลายประเด็น ซึ่งพบว่าทางรัฐบาลได้มีการเร่งรัดบางคดีที่เกิดการทุจริตได้อย่างดีซึ่งทำให้ยุติความเสียหายต่อราชการและประชาชนได้ทันท่วงทีและนำผู้กระทำผิดมาลงโทษ "อย่างรวดเร็ว" และเป็นธรรมได้บางอันจะทำให้เกิดความยำเกรงต่อไป
ทั้งนี้ การที่ดิฉันได้ออกจดหมายฯ ฉบับที่ 2 นี้ก็เพื่อนำกราบเรียนข้อความจริงที่สังคมควรจะต้องรับรู้และมีประเด็นที่บ้านเมืองจะได้ประโยชน์จากการนำเสนอข้อมูลข่าวสารในช่วงเวลานี้กล่าวคือ
ซัด"อรรถพล"ให้ข้อมูลเท้จ
1.กรณีของดิฉันที่ได้กราบเรียนไปว่าการพิจารณาโทษทางวินัยนั้น กระทำการโดย เร่งด่วน รวบรัดประเด็นการพิจารณาโทษทางวินัยของดิฉันที่กระทำการโดยเร่งด่วน รวบรัด ผิดหลักการขาดความชอบธรรม ไม่มีการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อเรียกสอบสวน ตามที่ควรจะเป็น และเร่งรีบสรุปผลสอบวินัยทันที จำนวนเงินยังไม่ได้ข้อยุติต้องสืบค้น ทั้งนี้ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ทำหน้าที่ในกรณีนี้ก็ส่อพฤติกรรมมีข้อสงสัยให้ข้อมูลคลาดเคลื่อนและยังลุแก่อำนาจในบางประการ อาทิ
1.1 ในการให้ข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์และฉบับอื่นๆ ฉบับวันที่ 6 เมษายน 2561 หน้าที่ 13 ของนายอรรถพล ตรึกตรอง ประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงระบุว่ามีการนัดหมายนางรจนา สินที ให้ปากคำในวันที่ 5 เมษายน 2561 และกล่าวว่า "ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้โทรไปคุยกับนางรจนา สินที เพื่อสอบถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้น โดยนางรจนา พูดด้วยน้ำเสียงเนือยๆ ไม่สดชื่น พร้อมยังยืนยันว่าการดำเนินการเพียงคนเดียว" ซึ่งนายอรรถพล กล่าวเท็จทั้งสิ้น เพราะว่าดิฉันไม่เคยได้รับการติดต่อไปให้ปากคำแต่อย่างใด ส่วนที่แจ้งว่าโทรหาดิฉันนั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะโทรศัพท์ของดิฉันได้ถูกเจ้าหน้าที่ป.ป.ท.เก็บไปในวันที่บุกค้นบ้านของดิฉันเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2561 และในช่วงนี้ดิฉันถูกโทษวินัยร้ายแรงไล่ออกจากราชการแล้ว จะให้ไปสอบอะไรอีกท่านเป็นผู้ใหญ่แล้ว "โปรดอย่าพูดปลด เอาดีใส่ตัว ชั่วให้คนอื่น"
1.2 ในช่วงเวลาต่อมา นายอรรถพล ก็ได้ให้ข้อมูลต่อสื่อว่าดิฉันเข้าไปเกี่ยวข้องกับการโอนเงินไปให้บุคคล หน่วยงานอีกหลายแห่ง แม้กระทั่งว่าบังคับให้เด็กเปิดบัญชีเอาเงินผ่านเพื่อ "โกงรัฐ" อย่างน่าอับอาย ซึ่งไม่เป็นความจริง
1.3 ขณะเดียวกัน ก็ใช้อำนาจเรียกโดยวาจาให้ข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับกรณีของดิฉันมารายงานตัวให้ข้อมูล ทั้งที่คนเหล่านี้ยังบริสุทธิ์และบางคนไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ
ด้วยความเคารพต่ออดีตผู้บังคับบัญชาดิฉันกล้ารับถูก รับผิด ถ้าเรากระทำจริง แต่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่บางคนที่เข้ามาเกี่ยวกับการรักษาผลประโยชน์รัฐและพิทักษ์ความเป็นธรรมแล้วมีพฤติกรรมดังกล่าวที่ว่า "บุคคลใดกล่าววาจาเป็นเท็จนอกจากจะไม่สุจริตแล้ว จะหาความเที่ยงธรรมก็ลำบากเหลือประดา"
แฉยังมีทุจริตในศธ.อีกเพียบ
จึงกราบเรียนท่านนายกรัฐมนตรีโปรดพิจารณาตรวจสอบพฤติกรรมของข้าราชการท่านดังกล่าวเหมาะสมในการทำหน้าที่ตรวจสอบให้ความเป็นธรรมหรือไม่"และอาจเข้าข่ายทำผิดระเบียบวินัยและกฎหมายกรณีการให้สัมภาษณ์สื่อต่างๆ ซึ่งอาจทำให้ราชการเสียหายด้วยหรือไม่
2.ในกรณีคดีทุจริตคอรัปชั่นในกระทรวงศึกษาธิการจำนวนมากที่ผ่านมาโปรดสั่งให้ตรวจสอบด้วยว่าความเสียหายเป็นอย่างไร เช่น
2.1 คดีในสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา( สกสค.)หลายคดีความเสียหายหลายพันล้านบาท
2.2 คดีการก่อสร้างสนามฟุตซอลทั่วประเทศ เสียหายหลายร้อยล้านบาท
2.3 โครงการไทยเข้มแข็งของอาชีวศึกษา เสียหายหลายพัน ล้านบาท
2.4 ความเสียหายการสร้างอควาเรียมสงขลา เสียหายกว่าพันล้านบาท
2.5 ความเสียหายโครงการ MOE NET ศธ.เสียหายกว่า 3,000 ล้านบาท
2.6 ความเสียหายโครงการ CCTVใต้ เสียหายกว่า400ล้านบาท ฯลฯ
3.กรณีการทุจริต "โกงเงินคนจน" ในกระทรวงพม. เป็นปรากฎการณ์เกิดขึ้นแทบุกจังหวัดทั่วประเทศ ผู้กระทำผิดจำนวนมา ความเสียหายจำนวนมาก และส่งผลต่อผู้ด้อยโอกาสจำนวนมาก หลักฐานชัดเจน แต่การลงโทษทางวินัยข้าราชการระดับสูง "ให้ออกชั่วคราว" ทำไมไม่กระทำเป็นบรรทัดฐานเดียว กับกรณีของดิฉันซึ่งโทษถึงขั้น"ไล่ออกจากราชการแล้ว"
ท้ายนี้ ดิฉันขอยืนยันว่า จะไม่หนี จะสู้ตามกระบวนการยุติธรรมของไทย และกรณีมีผู้สงสัยว่าจดหมายเปิดผนึก ฉบับลงวันที่ 5 เมษายน 2561 นั้น เป็นของดิฉันหรือไม่นั้น ดิฉันยืนยันอีกครั้งว่า เป็นความมุ่งมั่น ตั้งใจที่จะเสนอข้อมูลที่จะเกิดประโยชน์กับสังคมเช่นนี้เป็นระยะ เพื่อปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรีของดิฉันและของเพื่อนข้าราชการทุกคนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ ไม่ได้รับความเป็นธรรม ตลอดทั้งเป็นการรักษาผลประโยชน์ของชาติและประเทศให้ถึงที่สุด
ทั้งนี้ ท้ายจดหมายเปิดผนึก ขอแสดงความนับถือ รสนา สินที 11เม.ย.2561
"อรรถพล"ลั่นไม่ต้องการโต้
ด้านนายอรรถพล กล่าวว่า ยังไม่เห็นจดหมายฉบับดังกล่าว แต่ตามที่ในจดหมายดังกล่าวได้ระบุว่า เรื่องที่ตนเองโทรไปพูดคุยกับนางรจนา ไม่เป็นความจริงนั้น ต้องยืนยันว่าตนได้โทรไปหานางรจนาจริง โดยมีคณะกรรมการสืบสวนฯรายหนึ่งเป็นผู้ต่อสาย และขณะคุยก็คนอื่นๆอยู่ด้วย เพียงแต่จำวันที่ไม่ได้ว่าคุยหลังจากที่ ป.ป.ท.เข้าตรวจค้นบ้านนางรจนาหรือยัง ตอนนี้นางรจนาจะพูดอะไรก็พูดได้ เพราะทุกอย่างมีข้อมูล และตนก็ไม่ต้องการที่จะโต้เถียงในประเด็นใดๆ ต้องการเพียงแค่ให้นางรจนา มาให้ข้อมูลมากกว่า
"มาช่วยกันหาวิธีการที่จะนำเงินกองทุนกลับคืนมา เพราะตอนนี้มีเด็กที่ยังรอเงินของกองทุนฯ อยู่จำนวนมาก อีกทั้งตนเองก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายใคร การดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการสืบสวนข้อเท็จจริง ส่วนตัวก็รู้จักกับนางรจนา เพียงแต่ไม่ได้สนิทเท่านั้น อีกทั้งในส่วนที่มีการระบุว่าบังคับให้เด็กเปิดบัญชีเอาเงินผ่าน เพื่อโกงรัฐนั้น เรื่องนี้ตนไม่ได้เป็นคนพูด เพราะเด็กเป็นคนให้ข้อมูลทั้งหมด"
ปลัดศธ.ถกคกก.กองทุนเสมาฯ
วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมจันทร์เกษม กระทรวงศึกษาธิการ นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ครั้งที่ 1/2561 ว่า ได้แจ้งให้คณะกรรมการฯ ทราบถึงปัญหาการทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ได้โดยเชิญนายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต มานำเสนอสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อจะได้นำไปแก้ไข
โดยที่ประชุมเห็นว่า ควรมีการวิเคราะห์สาเหตุและแนวทางการแก้ปัญหาในด้านการบริหารโครงการและการเบิกจ่ายเงินของกองทุนเสมาฯ และมีมติให้ชะลอการเบิกจ่ายเงินไว้ก่อน ทั้งนี้ เพื่อจะได้สร้างแนวปฏิบัติ กฎเกณฑ์ที่รัดกุม รอบคอบและวางระบบพัฒนาการดำเนินงานของกองทุนให้ดีขึ้น ก่อนที่จะเบิกจ่ายเงิน โดยจะทำเป็นคู่มือ หรือระเบียบปฏิบัติให้เสร็จโดยเร็ว และคาดว่าอย่างช้าที่สุดเสร็จไม่เกินต้นเดือนมิถุนายนนี้ โดยแนวปฏิบัติเบื้องต้นจะเสนอให้มีตัวแทนจากกระทรวงสาธารณสุข และตัวแทนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มาร่วมเป็นคณะกรรมการกองทุนด้วย ทั้งนี้ หลังจากทำคู่มือเสร็จแล้วจะเสนอให้ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พิจารณาอีกครั้งก่อนนำไปใช้
ยันเงินต้น600ล้านยังอยู่ครบ
ขณะเดียวกัน ได้รายงานให้ที่ประชุมทราบว่า ขณะนี้เงินต้นที่รัฐบาลสนับสนุน ซึ่งเป็นเงินจากการออกสลากการกุศลพิเศษ ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 600 ล้านบาทยังคงอยู่ในบัญชีเงินฝากประจำ พร้อมมีดอกเบี้ยอีก 49 ล้านบาท ยืนยันว่าเงินยังอยู่ครบไม่ได้หายไปไหน ส่วนการเยียวยา มีข้อมูลเบื้องต้นจากกระทรวงสาธารณสุข พบว่ามีนักศึกษาวิทยาลัยพยาบาล ได้รับผลกระทบจำนวน 198 คน มียอดค้างจ่ายจำนวน 11 ล้านบาท
ส่วนครูจากโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ และโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ได้รับผลกระทบ 53 คน เป็นยอดค้างจ่ายจำนวน 11 ล้านบาทเช่นกัน ถึงแม้จะเป็นตัวเลขที่ยังไม่นิ่ง เพราะยังรอข้อมูลอีก 10 จังหวัดที่ยังไม่ส่งมาให้ แต่เราก็ต้องเยียวยาช่วยเหลือก่อน แต่การจะนำเงินไปช่วยเหลือมีผลทางกฏหมาย
ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย ถูกต้องและรอบคอบที่ประชุมจึงมีมติว่าจะเสนอขอความคิดเห็นจากกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ก่อนว่าจะสามารถนำเงินดอกเบี้ยที่มีอยู่มาอนุมัติให้เด็กที่ได้รับผลกระทบได้หรือไม่ และเพื่อนำมารองรับเด็กที่จะรับทุนใหม่ในปีการศึกษา 2561 นี้ด้วย ส่วนการเพิ่มเงินกองทุนของนักศึกษาพยาบาลวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ที่จากเดิม 40,000 บาท เพิ่มเป็น 55,000 บาทนั้น ที่ได้เสนอผ่านมติของกระทรวงการคลังแล้วนั้น จะเริ่มมีผลในการรับเงินกองทุนของปีการศึกษา 2561 เป็นต้นไป
เผยผู้เกี่ยวข้องทยอยให้ข้อมูล
ด้านนายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)ประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต กล่าวว่า ตนได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบขั้นตอนกระบวนการ การสอบสวน สิ่งที่ค้นพบจากการสืบสวนฯและ กระบวนการต่าง ๆ ที่จะต้องปรับปรุงแก้ไข ซึ่งจากการลงพื้นที่ และการตรวจสอบเอกสารต่างๆ พบว่า มีการทำหนังสือแจ้งการโอนเงินปลอมขึ้นมาจำนวนมาก ลายเซ็นมีความผิดเพี้ยง บางครั้งหนังสือแจ้งให้จัดนิทรรศการ กลับนำมาแก้เป็นหนังสือจัดสรรเงินกองทุน บางฉบับผู้ลงนามในหนังสือลงนามโดยไม่มีอำนาจ เช่น เจ้าหน้าที่ลงนามเอง โดยปลัด ศธ.ไม่ทราบเรื่อง
ขณะเดียวกันตนก็ได้รายงานให้ที่ประชุมทราบว่า ขณะนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องยังทยอยมาให้ข้อมูล ซึ่งล่าสุดในวันนี้ (11 เม.ย.) ได้ติดต่อมาเพิ่มอีก 1 ราย เป็นครูโรงเรียนเอกชน ตนจึงส่งเรื่องไปให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) สอบสวนแล้ว ส่วนข้าราชการสังกัดอื่น เช่น ตำรวจตระเวนชายแดน กทม. อปท. กรมที่ดิน ตนได้ส่งรายชื่อไปให้ต้นสังกัดช่วยตรวจสอบและยื่นยันมาว่าใช่บุคลากรในสังกัดจริงหรือไม่ ถ้าใช่ขอให้ส่งข้อมูลมาให้ หรือถ้าไม่สะดวกที่จะมาให้ข้อมูลที่ศธ. ก็ให้ไปที่ ป.ป.ท. เพราะข้อมูลของทั้งสองหน่วยงานจะเชื่อมโยงกันตลอด ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ไปให้ข้อมูลกับ ป.ป.ท.นั้นได้ให้การสารภาพว่า รับโอนเงินจากนางงรจนาจริง เพราะไม่รู้ แต่กรณีนี้ ป.ป.ท.จะวินิจฉัยเอง
คาดสรุปตัวเลขเสียหายได้เม.ย.นี้
"ผู้ที่เกี่ยวข้องที่ยังไม่ติดต่อมา ก็มีข้าราชการสังกัด กทม. ซึ่งผมได้ทำหนังสือถึงปลัด กทม. และอธิบดีกรมที่ดิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช. )แล้ว ส่วนครูเทศบาล จ.ตาก 1 ราย ที่ติดต่อกลับมาแล้ววันนี้ก็รับสารภาพว่า เป็นบัญชีของตนเองจริง แต่มีญาติขอใช้เลขที่บัญชีนี้ และจะเข้ามาให้ข้อมูลช่วงหลังสงกรานต์ ซึ่ง การเข้ามาให้ข้อมูลเช่นนี้จะมีประโยชน์มาก เพราะสามารถนำสืบเชื่อมโยงไปถึงส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็วขึ้น" นายอรรถพล กล่าว
นายออถพล กล่าวด้วยว่า ระหว่างนี้คณะกรรมการสืบสวนฯ จะตรวจสอบข้อมูลตัวเลขความเสียหายที่แท้จริง เพราะตัวเลขล่าสุดที่เราแจ้งให้ทราบ จำนวน 96 ล้านบาทนั้น เป็นตัวเลขทางบัญชี แต่จะต้องได้รับการยืนยันจากโรงเรียนผู้รับทุนด้วย เพื่อให้ได้ตัวเลขที่ตรงกัน คาดว่าจะสามารถสรุปตัวเลขความเสียหายที่แท้จริงได้ภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ เพื่อจะได้ดูว่าจะต้องเยียวยาใครเท่าไร อย่างไร และเรายังมีเงินเหลือเพียงพอหรือไม่ แต่เบื้องต้นน่าจะแก้ปัญหาได้ ซึ่งตนก็ได้ขอให้ปลัด ศธ. พิจารณาในที่ประชุมว่า หากเป็นไปได้ ควรโอนเงินไปให้กับผู้รับทุนที่ยังไม่ได้เงินตามสิทธิ์ ภายในเดือน พ.ค.นี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี