7 พ.ค.61 ผู้สื่อข่าวประจำจังสุรินทร์รายงานว่า ที่ศูนย์คชศึกษา บ้านตากลาง. ต.กระโพ อ.ท่าตูม ได้มีช้างตกลูกทีเดียว 2 ตัว พร้อมกันตัวแรก ชื่อพังฟ้าใส อายุ 10 ปี เป็นช้างของ นายสุดใจ โมกหอม อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41หมู่ 3 บ้านท่าลาด ต.ศรีณรงค์ อ.ชุมพลบุรี. จ.สุรินทร์ ซึ่ง พังฟ้าใสเชือกนี้เป็นช้างสาว การตกลูกครั้งนี้ถือว่าเป็นท้องแรก
ต่อมาในเวลา 05.10 น. ชาวช้างภายศูนย์คชศึกษา ก็ได้เฮอีกอีกครั้ง เมื่อพังน้อยหน่า อายุ 12 ปี ซึ่งเป็นช้างของนายบันลือ ศักดิ์ศรีกรม อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 หมู่3. บ.ท่าลาด. ต.ศรีณรงค์ อ.ชุมพลบุรี. จ.สุรินทร์ ช้างพังน้อยหน่า ตกลูกครั้งนี้ถือว่าเป็นท้องแรก ซึ่งคลอดออกมาเป็นช้างพลาย
ปกติช้าง 2ตัวนี้ เจ้าของเลี้ยงไว้ที่บ้านท่าลาด แต่ต่อมามีโครงการนำช้างกลับคืนถิ่น ก็เลยเข้ามาร่วมโครงการกับศูนย์คชบ้านตากลาง เป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว และการตั้งท้องของช้างแต่ละตัวจะใช้เวลาตั้งท้องนานกว่า 21เดือน และการคลอดลูกใหม่ของแม่ช้าง ลูกช้างจะเดินเข้าไปกินนมของแม่ช้างไม่ได้เอง เจ้าของหรือควาญช้าง จะต้องใช้ผ้าขาวม้าพยุงลูกตัวลูกช้างตัวน้อยเข้าไปกินนมแม่ เพราะถ้าลูกช้างเข้าไปเองอาจจะถูกแม่ช้างทำร้ายเอาได้
นายสุดใจ โมกหอม เจ้าของช้างพังฟ้าใส กล่าวว่า ดีใจสุดๆที่แม่ช้างได้ตกลูกให้ในวันนี้ ซึ่งพังฟ้าใส ได้ตกลูกในเวลา 02.40 น. พังฟ้าใสตกลูกช้างเป็นเพศผู้ เป็นช้างพลายแต่ยังไม่ได้ตั้งชื่อ
ด้าน นายบันลือ ศักดิ์ศรีกรม เจ้าของพังน้อยหน่า กล่าวว่า ตนรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ช้างบ้านท่าลาด ตกลูกพร้อมกัน 2 ตัวในศูนย์คชศึกษาแห่งนี้ และในอดีตช้างบ้านท่าลาดก็เคยตกลูกพร้อมกันมาแล้วครั้งหนึ่ง นั่นก็คือการตกช้างแฝดคู่แรกของโลกคือ ช้างทองคำและทองแท่ง ซึ่งไปรอให้การต้อน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และครม.สัญจร ที่ บ้านท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ดุจช้างเหยียบนา พระยาเหยียบเมือง โดยชาวสุรินทร์เชื่อว่าจะโชคดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี