สารภาพลดเหลือ34ปี6ด.

ระบุเจตนาฆ่า‘น้องแอ๋ม’

ยายเผยหลานสาวเข้าฝัน

ศาลขอนแก่นพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต “เปรี้ยว-เอิร์น” ฆ่าหั่นศพน้องแอ๋ม ให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 34 ปี 6 เดือน “แจ้-วศิน” ไม่รอด เจอคุก 33 ปี 9 เดือน และ 23 ปี 4 เดือน ตามลำดับ ส่วนเบนท์ ผิดฐานรับของโจรคุก 2 ปี สารภาพลดโทษเหลือ 1 ปี ไม่รอลงอาญา พร้อมสั่งชดใช้ค่าไร้อุปการะ 1.07 ล้านบาท ขณะที่ยายน้องแอ๋ม เผยหลานสาวเข้าฝัน จุดธูปเชิญวิญญาณมาฟังคำตัดสินด้วย แม่สาวเปรี้ยวบอกให้ลูกทำใจ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 10 พฤษภาคม ที่ศาลจังหวัดขอนแก่น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้พิพากษาอ่านคำพิพากษาคดีเลขดำที่ 1957/60 ที่พนักงานอัยการจ.ขอนแก่นเป็นโจทก์ยื่นฟ้องผู้ต้องหา 5 คน ประกอบด้วย น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว ผู้ต้องหาที่ 1 น.ส.กวิตา ราชดา หรือเอิน ผู้ต้องหาที่ 2 น.ส.อภิวันท์ สัตยบัณฑิตหรือแจ้ ผู้ต้องหาที่ 3 น.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณหรือเบนท์ ผู้ต้องหาที่ 4 และนายวศิน นามพรม ผู้ต้องหาที่ 5 ความผิดฐานร่วมกันฆ่าน.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ยหรือน้องแอ๋ม อายุ 22 ปี พนักงานร้านคาราโอเกะในเมืองขอนแก่น โดยไตร่ตรองไว้ก่อน เหตุเกิดในพื้นที่บ้านโนนสง่า หมู่ 9 ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น

ทั้งนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษา ให้จำคุกตลอดชีวิต น.ส.ปรียานุชหรือเปรี้ยว โนนวังชัย จำเลยที่ 1 และ น.ส.กวิตา หรือเอิร์น ราชดา จำเลยที่ 2 ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา แต่คำให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุกคนละ 33 ปี 4 เดือน และฐานร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้นทำลายศพ ให้จำคุก 4 เดือน รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 2 เดือน ฐานร่วมกันลักทรัพย์ จำคุก 2 ปี รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 1 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 1 และจำเลย 2 คนละ 34 ปี 6 เดือน

ส่วนน.ส.จิดารัตน์ หรือเบนซ์ พรมคุณ จำเลยที่ 3 ความผิดฐานรับของโจร ตัดสินจำคุก 2 ปีรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่งคงโทษจำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา ให้จำคุกนายวศิน หรือนิว นามพรม จำเลยที่ 4 ฐานเป็นผู้สนับสนุนในการฆ่าผู้อื่นเป็นเวลา 33 ปี 4 เดือน แต่คำให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 22 ปี 2 เดือน 20 วัน และฐานร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้นทำลายศพให้จำคุก 4 เดือน รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน ฐานร่วมกันลักทรัพย์ จำคุก 2 ปี รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 4 ทั้งสิ้น 23 ปี 4 เดือน 20 วัน

คำพิพากษายังให้จำคุกตลอดชีวิต น.ส.อภิวันทน์หรือแจ้ สัตยบัณฑิต จำเลยที่ 5 ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 33 ปี 4 เดือน และฐานร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้นทำลายศพ ให้จำคุก 4 เดือน รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน ฐานเสพเมทแอมเฟตามีน จำคุก 6 เดือน รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือน รวมจำคุกจำเลยที่ 5 ทั้งสิ้น 33 ปี 9 เดือน

นอกจากนี้ ยังให้จำเลยที่ 1, 2, 4, 5 ร่วมกันชดใช้เงินค่าไร้อุปการะ 1,070,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 23 พฤษภาคม 2560 ซึ่งเป็นวันกระทำละเมิด จนกว่าชำระเสร็จ และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1, 2, 4, 5 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันพาอาวุธมีดไปในเมืองฯ และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 5 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ โดยให้ริบของกลางทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศก่อนศาลมีคำพิพากษาคดีดังกล่าวว่า เวลา 09.30 น.ศาลจังหวัดขอนแก่น มีคำสั่งเบิกตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คน มาฟังคำพิจารณาคดี โดยรถควบคุมตัวผู้ต้องหาของเรือนจำกลางขอนแก่นนำตัวน.ส.ปรียานุชหรือเปรี้ยว น.ส.กวิตาหรือเอิน และน.ส.อภิวันท์หรือแจ้ มารายานตัวต่อศาล ทั้งหมดมีสีหน้ายิ้มแย้มเมื่อเห็นญาติและครอบครัวมารอฟังคำพิพากษาและติดตามคดีดังกล่าวด้วย โดยเฉพาะนางสาคร ภาษี มารดาน.ส.ปรียานุชหรือเปรี้ยว ที่เดินทางมารอพบลูกสาวตั้งแต่หน้าเรือนจำและตามมาจนถึงศาล จ.ขอนแก่น

นางสาครให้สัมภาษณ์หลังได้คุยกับเปรี้ยวว่า เปรี้ยวบอกให้แม่รอจนกว่าจะออก บอกให้แม่รักษาสุขภาพให้ดี อภัยให้เปรี้ยวด้วย เปรี้ยวไม่ได้เจตนาทำไปด้วยความโมโห ตนก็บอกให้เปรี้ยวทำใจ ให้สวดมนต์ไหว้พระขอพร อย่าให้ติดนาน ให้ผ่อนหนักเป็นเบา แม่ตักบาตรให้น้องแอ๋มและบอกว่าอโหสิกรรมให้เปรี้ยวด้วย อย่างไรก็ตาม แม้คำตัดสินจะเป็นอย่างไร แม่ก็ทำใจมานานแล้ว อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แม่ภาวนาให้เขาไม่ต้องโดนประหาร ขอแค่ให้ได้จำคุกเท่านั้น

ขณะที่นางสำราญ เพียแก่น อายุ 69 ปี ยายของน.ส.วริศราหรือน้องแอ๋มเผยว่า ได้จุดธูปบอกกล่าวกับภาพถ่ายหลานสาว และชวนให้มาฟังคำพิพากษาวันนี้ด้วย เชื่อในความยุติธรรมของศาล รวมถึงดีใจในการรับฟังคำพิพากษาตัดสินความผิดของผู้ที่ทำให้หลานสาวตาย เป็นระยะเวลา 1 ปีพอดี ซึ่งครอบครัวเชื่อมาตลอดว่า การทำให้น้องแอ๋มตาย ไม่ได้ทำแค่คนเดียว ต้องร่วมกันหลายคน นอกจากนี้ ยังฝันว่า น้องแอ๋มแต่งตัวสวย ยิ้มหวานร่างเริงเข้ามาเยี่ยมที่บ้าน เหมือนว่าหลานสาวยังมีชีวิตอยู่จริง จึงตื่นแต่เช้ารีบจุดธูปบอกวิญญาณหลานสาว เพราะเชื่อว่าความฝันนั้น สื่อถึงการที่วิญญาณหลานสาวรับรู้ว่า วันนี้คือวันตัดสิน