13 พ.ค.61 จากกรณีโลกออนไลน์เกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนัก ภายหลังจากที่ระบุเป็นครอบครัวหัวร้อนได้จอดรถบริเวณเส้นขาว-แดง ซึ่งเป็นจุดห้ามจอดในเขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด อ.เมืองระยอง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจะดำเนินการตามกฎหมาย แต่กลุ่มคนดังกล่าวไม่ยอม พร้อมเข้าต่อว่าเจ้าหน้าที่ด้วยถ้อยคำหยาบคายรุนแรง และชกเข้าที่เบ้าตาเจ้าหน้าที่ 1 ราย จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำดังกล่าวไปทั่วสังคมออนไลน์ ตามที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้ง ข้อหาทำร้ายร่างกาย ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ และดูหมิ่นเจ้าพนักงาน

ล่าสุดวันนี้ ครอบครัวหัวร้อนที่ปรากฏในคลิป คือ นายพยอม แสงวันดี อายุ 32 ปี , นางหทัยรัตน์ สมถวิล อายุ 35 ปี และนายอิทธิพล สมถวิล อายุ 18 ปี สามพ่อแม่และลูก ได้เดินทางเข้าแจ้งความกลับ เอาผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มาบตาพุด ในข้อหาเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำเกินกว่าเหตุ และทำร้ายร่างกาย โดยมี ร.ต.อ.ไมตรี พากุล รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง รับแจ้งความ

นางหทัยรัตน์ ผู้เป็นแม่ กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในข้อหา เจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำเกินกว่าเหตุ และทำร้ายร่างกาย รวมทั้งหมด 2 ข้อหา ที่คอตนมีรอยถูกบีบ และถูกผลักหน้าอก ขณะที่สามีก็ถูกต่อยบริเวณท้องด้านซ้ายและด้านหน้ารวม 3 ครั้ง นอกจากนี้ ลูกชายยังถูกชก 2 ครั้ง ที่บริเวณตาด้านขวา และมีบาดแผลที่นิ้วกลางด้านซ้ายด้วย

ทั้งนี้ ครอบครัวตนยืนยันจะสู้คดีให้ถึงที่สุดกับเหตุการณ์ที่ฝ่ายตนถูกกระทำ และถูกประนามจากสังคม จึงตัดสินใจมาเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว เพื่อให้ความเป็นธรรมให้กับครอบครัว

ด้าน นายพยอม ผู้เป็นพ่อ กล่าวว่า เป็นเพราะตำรวจใส่อารมณ์กับเราก่อน และตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อหาในเรื่องที่ห้ามจอดเลย และจะมาจับกุมผมในข้อหาอะไร ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นคงต้องไปจบกันที่ขบวนการชั้นศาล

ขณะเดียวกัน ป้าจ่อย หรือ น.ส.สุนันทา เพียนาม อายุ 56 ปี แม่ค้าขายข้างแกงบริเวณที่เกิดเหตุ พยานฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้เดินทางมาทวงถามความคืบหน้า หลังจากได้มาลงบันทึกประจำวัน หลังถูกผู้ไม่หวังดีข่มขู่ ซึ่งปัจจุบันหวาดกลัวไม่ได้หลับไม่ได้นอนมา 3 วันแล้ว และไม่ได้ขายข้าวแกงตั้งแต่เกิดเรื่อง จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มครอง เนื่องจากหวั่นจะได้รับอันตรายกับชีวิต