หนุ่มใหญ่ป่วยจิตคลั่งฆ่ายกครัว 3 ศพ พ่อแม่และน้องชาย ศพตายข้ามวันญาติเพิ่งมาเจออีกวัน ตำรวจเกลี่ยมกล่อมจับได้โดยละม่อม-ตำรวจกั้นแผงห้ามถ่ายผู้ต้องหา—ตำรวจระบุตายมาแล้ว 2 วัน -ญาติยืนยันแค่ป่วยจิตมานานแต่ไม่เคยยุ่งเกี่ยวยาเสพติด

วันที่ 2 เมษายน2568 เวลา 09.30 น. ร.ต.อ.สุวัฒน์  แดงเอียด รอง สว.(สอบสวน)สภ.การะเกด อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุชายคลุ้มคลั่งทำร้าย บิดา มารดา และน้องชาย ถึงแก่ความตาย จึงเดินทางพร้อม พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ  ทองทิพย์ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช,พ.ต.อ.สุทัศน์ สงสยม รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช,พ.ต.อ.ขจิตร คงปราบ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช,พ.ต.ท.พ.ต.ท.สุนันท์  นาคนิคาม สวญ.สภ.การะเกด,แพทย์เวร รพ.เชียรใหญ่และตำรวจพิสูจน์หลักฐานนครศรีธรรมราช,และจนท.มูลนิธิใต้เต๊กตึ้งเชียรใหญ่ ไปตรวจที่เกิดเหตุ บ้านแห่งหนึ่ง ต.เขาพระบาท อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช  

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุซึ่งบ้านปูนชั้นเดียวในสวนยาง พบว่า บ้านปิดอยู่ พบผู้เสียชีวิต 3 ราย และผู้ก่อเหตุอยู่ภายในบ้าน 

สอบสวนเบื้องต้น ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือนายอั้น  อายุ 50 ปี  ส่วนศพผู้เสียชีวิต 3 ศพนอนอยู่ในบ้าน สอบสวนทราบนายอาด  อายุ 81 ปี บิดาผู้ก่อเหตุ,นางปลื้ม อายุ 71ปี มารดาผู้ก่อเหตุ และนายอนันต์ศักดิ์ อายุ 30 ปี น้องชายผู้ก่อเหตุ โดยศพพ่อแม่นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอนนอน 2 ศพ และน้องชายนอนเสียชีวิตพื้นด้านล่าง สภาพศพทั้ง 3 ศพ มีบาดแผลถูกฟันด้วยมีดพร้าและเหล็กแหลมแทงปาร์มเข้าลำตัวและศีรษะหลายแผล ซึ่งเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า24ชม.หรือประมาณ 2 วัน

พ.ต.ท.สุนันท์ฯพร้อมกำลังจทน.ตร.สภ.การะเกด และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่และกู้ภัยในพื้นที่ ได้ใช้อุปกรณ์เหล็กง่ามกระจายกำลังโอบล้อมบ้านที่เกิดเหตุ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้พยายามเกลี้ยกล่อมให้ผู้ก่อเหตุออกมามอบตัว ใช้เวลาเจรจาเกลี่ยกล่อมอยู่นานประมาณ 2 ชม. ผู้ก่อเหตุได้ยอมออกมามอบตัวแต่โดยดีในที่สุด เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายอั้นฯผู้ก่อเหตุซึ่งยังพูดจาไม่รู้เรื่องไปคุมขังยังสภ.การะเกดทันที เพื่อสงบสติอารมณ์ในเบื้องต้นก่อน พร้อมของมีดพร้าและเหล็กแหลมแทงปาล์มปื้อนเลือดจึงเก็บไว้เป็นหลักฐานต่อไป

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในบ้านพบศพผู้ตายทั้ง 3 นอนเสียชีวิต มีบาดแผลถูกของมีคม ศพเริมมีกลิ่นเหม็นเน่า ในบ้านพบอาวุธมีดพร้าและเหล็กแทงปาล์มที่คาดว่าใช้ก่อเหตุ จึงแจ้ง พฐ.จว.นศ ร่วมตรวจที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์เวร และแจ้งแพทย์เวรร่วมชันสูตรพลิกศพ เพื่อดำเนินการต่อไป

จากการสอบสวน 2 หลานสาวที่มาเจอศพคนแรก ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าตนได้มาที่บ้านที่เกิดเหตุและทำเคาะประตูเรียกคนในบ้านทั้งตาอาดและยายปลื้มฯซึ่งได้ยินเสียงจากนายอั้น  ผู้ก่อเหตุตะโกนออกในบ้านว่าอย่าเข้ามา พร้อมทั้งใช้มีดพร้าที่ใช้ก่อเหตุตีพื้นจนเสียงดังเพื่อข่มขู่ตนไม่ให้เข้ามาในบ้านเกิดเหตุ ตนเปิดประตูแง้มดูในบ้านก็พบร่าง 3 ศพถูกฆ่าตายยกครัวดังกล่าว  ทำให้ตนตกใจวิ่งหนีไปแจ้งชาวบ้านและแจ้งตำรวจมาตรวจที่เกิดเหตุดังกล่าว 

ส่วนสาเหตุคาดมจากอาการป่วยจิตของนายอั้นฯลูกชายผู้ตายเกิดกำเริบหนักเพราะเคยรักษาอาการป่วยจิตที่ รพ.สงขลาเมื่อ 4 ปีที่แล้ว แล้วอาการอาจจะกำเริบหนักจนก่อเหตุฆ่ายกครัวดังกล่าว โดยผู้ก่อเหตุน่าจะก่อเหตุในช่วงวานนี้แต่ไม่มีใครมาเจอจนผ่านมา 1 วัน ตนพบตอนเช้าวันนี้กลายเป็นเหตุฆ่ายกครัว 3 ศพดังกล่าว

ขณะที่นายอั้นฯผู้ก่อเหตุทางตำรวจสภ.การะเกด  ได้มีการคุมตัวเข้าห้องขังชั้น 2 ของ สภ.การะเกด โดยมีการคุ้มกันไม่ให้นักข่าวเข้าไปถ่ายภาพและมีการนำแผงเหล็กมากั้นบันไดทางขึ้นชั้น 2 เพื่อไม่ให้ผู้สื่อข่าวขึ้นไปถ่ายภาพได้ ขณะที่นายอั้น ฯผู้ต้องหายังมีอาการเหม่อลอยไม่พูดจากอะไรกับใคร ซึ่งทางตำรวจได้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

โดยล่าสุดทาง พ.ต.อ.ขจิตร คงปราบ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปสอบสวนปากคำนายอั้นฯ ผู้ก่อเหตุที่ห้องขังแต่ยังไม่พูดจาอะไรนั่งเหม่อลอยตลอดเวลา ซึ่งทาง พ.ต.อ.ขจิตรฯระบุว่าศพน่าจะเสียชีวิตตั้งแต่คืนวันที่ 31มีนาคม2568 เพราะมีพยานเห็นครั้งสุดท้าย และผู้ก่อเหตุลูกชายอาจจะก่อเหตุตอนพ่อแม่และน้องชายนอนหลับอยู่ และญาติยืนยันว่าแค่ป่วยจิตรมานานเนื่องจากปัญหาทางครอบครัวเลิกกับเมียจนป่วยจิตแต่ประวัติไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดแต่อย่างใด ซึ่งทางตำรวจจะได้คุมตัวนายอั้นผู้ก่อเหตุไปให้แพทย์ทำการตรวจวินิจฉัยสภาพจิตเพื่อประเมินอาการป่วยจิตต่อไปหากพบป่วยจิตจริงก็จะส่งตัวไปบำบัดรักษาต่อไป

ขณะที่ล่าสุดตำรวจ สภ.การะเกด ได้ทำการตรวจปัสสาวะนายอั้นฯผู้ต้องหาแล้วพบว่าไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด