ไม่นานนี้ทีมงาน “แนวหน้า”มีโอกาสติดตามทีมงาน มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ไปเยี่ยมชม “โครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากราชดำริ ในพื้นที่ต.ยางหัก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี” และได้ร่วมพูดคุยกับผู้แทนชุมชนที่ได้รับประโยชน์จาก อ่างเก็บน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริของ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร (ในหลวงรัชกาลที่ 10) ทั้ง 5 แห่ง
สุชาติ กาญจนวลัย ผู้อำนวยการโครงการชลประทานราชบุรี เล่าว่าเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2534 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ขณะดำรงพระอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎร และทอดพระเนตรพื้นที่บริเวณโครงการอุทยานเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน บ้านไทยประจัน หมู่ที่ 5 ต.ยางหัก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี
ในเวลานั้น พระองค์ทรงมีพระราชดำริให้กรมชลประทานพิจารณาโครงการและก่อสร้างแหล่งน้ำเพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเพาะปลูกและการอุปโภค-บริโภค ตามที่ราษฎรได้กราบบังคมทูลพระมหากรุณาธิคุณขอพระราชทาน กรมชลประทานจึงได้พิจารณาวางโครงการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยแม่ประจันตอนบนสนองพระราชดำริ เป็นอ่างเก็บน้ำจำนวนทั้งสิ้น 6 แห่ง ก่อสร้างแล้วเสร็จ
5 แห่ง ได้แก่
1.อ่างเก็บน้ำบ้านพุกรูด หมู่ที่ 4ต.ยางหัก ก่อสร้างเสร็จเมื่อปี 2538 ความจุอ่างเก็บน้ำที่ระดับเก็บกัก 585,280 ลบ.ม.ช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกได้ประมาณ 1,600 ไร่ 2.อ่างเก็บน้ำห้วยพุกรูด หมู่ที่ 4 ต.ยางหักก่อสร้างเสร็จเมื่อปี 2538 ความจุอ่างเก็บน้ำที่ระดับเก็บกัก 270,000 ลบ.ม. ช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกได้ประมาณ 1,300 ไร่ 3.อ่างเก็บน้ำเขาหัวแดง หมู่ที่ 3 ต.ยางหัก ก่อสร้างเสร็จเมื่อปี 2540 ความจุอ่างเก็บน้ำที่ระดับเก็บกัก612,000 ลบ.ม. ช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกได้ประมาณ 1,000 ไร่
4.อ่างเก็บน้ำบ้านไทยประจัน หมู่ที่ 5 ต.ยางหัก ก่อสร้างเสร็จเมื่อปี 2542 ความจุอ่างเก็บน้ำที่ระดับเก็บกัก 596,000 ลบ.ม. ช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกได้ประมาณ 750 ไร่ (ทดแทนอ่างเก็บน้ำบ้านไทยประจันเดิม ก่อสร้างเมื่อปี 2528 ความจุ 60,000 ลบ.ม.) และ 5.อ่างเก็บน้ำหินสีตอนบนหมู่ที่ 4 ต.ยางหัก ก่อสร้างเสร็จเมื่อปี 2542 ความจุอ่างเก็บน้ำที่ระดับเก็บกัก1,064,000 ลบ.ม. ช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกได้ประมาณ 1,700 ไร่ (เสริมกับอ่างเก็บน้ำบ้านหินสี ก่อสร้างเมื่อปี 2529 ซึ่งปัจจุบันยังคงใช้งานอยู่ ความจุ700,000 ลบ.ม.)
ส่วนอ่างเก็บน้ำแห่งที่ 6 มีแผนก่อสร้างในปี 2565 ความจุอ่างเก็บน้ำที่ระดับเก็บกัก 200,000 ลบ.ม.ช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกได้ประมาณ 900 ไร่ ซึ่ง สุชาติ กล่าวว่า อ่างเก็บน้ำทั้ง 5 แห่ง ปัจจุบันยังมีสภาพสมบูรณ์สามารถช่วยเหลือราษฎร ต.ยางหัก ได้อย่างทั่วถึง มีการบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพจากการรวมกลุ่มผู้ใช้น้ำของราษฎร รวมถึงการให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการดูแลรักษาสภาพพื้นที่ของอ่างเก็บน้ำและระบบส่งน้ำ
ขณะที่ ถวัลย์ ติ่งทอง อดีตกำนัน ต.ยางหัก “ผู้ทูลเกล้าฯขอพระราชทานความช่วยเหลือ”เผยว่า สมัยก่อนชาวบ้านทำอาชีพตัดไม้ เผาถ่าน พอเข้าสู่ฤดูฝนก็กลับมาทำไร่ ทำสวน ซึ่งก็มีปัญหาระหว่างรัฐกับประชาชน เพราะถูกห้าเข้าป่าเพื่อตัดไม้มาเผาถ่าน ชาวบ้านจึงอยู่อย่างยากจน ต่อมาได้ยินข่าวว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร กำลังจะเสด็จฯ มาจึงเขียนฎีกาเพื่อถวายบังคมทูลในสิ่งที่ชาวบ้านขาดอยู่
“เวลานั้นได้บอกกับข้าราชการในราชสำนักไปว่า ถ้าอยากให้ชาวบ้านหยุดเข้าป่า และดำรงชีพได้อย่างยั่งยืน จะต้องมีแหล่งน้ำ ก็ถูกรับเรื่องไป จนกระทั่งพระองค์ท่านเสด็จฯมา ทรงเยี่ยมราษฎร และทรงมีพระราชดำริให้สร้างในพื้นที่ของอ่างเก็บน้ำบ้านพุกรูด ซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณกับชาวบ้านเป็นอย่างมาก ทุกวันนี้คุณภาพชีวิตของชาวบ้านดีขึ้นจากการทำสวนผลไม้มีเงินส่งลูกหลานเรียนหนังสือจนจบปริญญา สมัยก่อนส่งเรียนได้แค่ ม.3เท่านั้น” อดีตกำนัน ต.ยางหัก กล่าว
เช่นเดียวกับ จันทร์ ทองหวี ประธานอ่างเก็บน้ำบ้านพุกรูดอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กล่าวว่า เมื่อก่อนในพื้นที่ทำมาหากินลำบากมาก เพราะไม่มีแหล่งเก็บกักน้ำ น้ำกินน้ำใช้ โดยจะต้องขุดบ่อน้ำรวมขึ้นมาทั้งหมู่บ้าน ซึ่งจะต้องไปตักน้ำแล้วหาบกลับมาใช้ที่บ้านส่วนน้ำเพื่อการเพาะปลูกก็ไม่มี การเพาะปลูกพืชต่างๆ จึงไม่ได้ผล ราษฎรส่วนใหญ่จึงต้องปลูกพืชแบบทนแล้งจำพวก ข้าวโพด ฝ้าย เท่านั้น อย่างอื่นปลูกไม่ได้เพราะไม่มีแหล่งน้ำ ผลผลิตบางปีก็ได้สมบูรณ์บางปีก็ไม่ได้ผลผลิตเลยเพราะต้องขึ้นอยู่กับดินฟ้าอากาศเป็นสำคัญ
“ตั้งแต่มีอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ขึ้นมาได้มีการเก็บกักน้ำเพื่อการใช้ประโยชน์ของชุมชน ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น มีการเพาะปลูกได้รับผลผลิตที่ดีจำนวนมาก ซึ่งหลายคนในหมู่บ้านได้เข้าอบรมการใช้ชีวิตและประกอบอาชีพตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงฯที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี กลับมาก็นำแนวทางการทำเกษตรแบบผสมผสานมาปฏิบัติใช้ ซึ่งได้รับผลผลิตจากพืชที่ปลูก มีพริก มะกรูด เงาะ มะม่วง ทุเรียน ทำให้ทุกวันนี้มีกินมีใช้และมีรายได้อย่างต่อเนื่อง” จันทร์ กล่าวในท้ายที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี