31 พ.ค.61 ที่โกดังผลไม้ของนายอับดุลอาซิ มาหะมะเพอะ ในเขตเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งเป็นโกดังจัดส่งผลไม้ตามฤดูกาล เพื่อส่งออกไปยังประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ ช่วงนี้คึกคักมากเป็นพิเศษ เนื่องจากบรรดาพ่อค้าแม่ค้าจากประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ มีความต้องการซื้อทุเรียนจากประเทศไทย หลังปีนี้ผลผลิตออกมาน้อย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากฝนตกต่อเนื่องในช่วงออกผลผลิต แม้จะไม่ถึงในช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายน ที่ทุเรียนพื้นบ้านของ อ.เบตง ออกผลผลิตก็ตาม
โดยทางพ่อค้าแม่ค้าในตลาดมาเลเซีย สิงคโปร์ มีความต้องการทุเรียนพันธุ์พวงมณีและชะนี รวมถึงทุเรียนพื้นบ้านของ อ.เบตง รวมถึงผลไม้ชนิดอื่นๆ ซึ่งนักบริโภคทุเรียนชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ต่างชื่นชอบรสชาติของผลไม้ไทย โดยเฉพาะทุเรียนพันธุ์พวงมณี ชะนี และทุเรียนพื้นบ้านของ อ.เบตง ซึ่งมีรสชาติคล้ายกันแต่ของไทยจะมีรสชาติดีกว่า จึงกลายเป็นผลไม้ที่ชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ให้ความนิยมชื่นชอบเป็นอย่างมาก
นายอับดุลอาซิ มาหะมะเพอะ พ่อค้าขายส่งทุเรียน กล่าวว่า ทุเรียนนอกฤดูส่วนใหญ่จะเป็นการปลูกเพื่อตอบสนองความต้องการตลาดต่างประเทศ ซึ่งราคาซื้อในช่วงนี้จะค่อนข้างแพง ถ้าราคาถูกจะเป็นทุเรียนประเภทตกไซส์ คือทุเรียนที่มีรูปร่างไม่สวย แต่เนื้อข้างในเหมือนกัน แต่ถ้าต้องการทุเรียนคุณภาพดีจะแข่งขันกันที่ราคา พ่อค้าแม่ค้าจำเป็นต้องซื้อของด้วยต้นทุนที่สูง แต่ถ้าสู้ราคาไม่ได้ก็ต้องซื้อทุเรียนประเภทตกไซส์มาขายแทน
โดยทุเรียนที่ขายในประเทศไทยต้องเป็นทุเรียนคุณภาพ มีเปอร์เซ็นต์สูง 90-100 เปอร์เซ็นต์ ทุเรียนต้องแก่เท่านั้นถึงจะขายได้ แต่ถ้าส่งออกแม้ว่าจะเป็นทุเรียนที่เปอร์เซ็นต์ต่ำประมาณ 70-80 เปอร์เซ็นต์ ก็สามารถขายได้ เพราะผู้บริโภคต่างประเทศนิยมบริโภคทุเรียนอ่อนกรอบๆ ปัจจุบันทุเรียนที่ขายตามท้องตลาด โดยเฉพาะตลาดค้าส่งจะหาได้เฉพาะทุเรียน 80-90 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
จากการที่ผลผลิตทุเรียนในปีนี้ค่อนข้างน้อย ปัจจัยสำคัญมาจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ดอกทุเรียนที่ออกเป็นจำนวนมากร่วง ส่งผลให้ปีนี้ทุเรียนออกล่าช้ากว่าปีอื่นๆ คาดว่าผลผลิตจะเข้าสู่ตลาดไม่มากนัก แต่ในช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายน ทุเรียนจะเริ่มทยอยเข้ามาในตลาดเพิ่มมากขึ้น ส่วนที่ทุเรียนที่รับมาในขณะนี้สั่งมาจากจันทบุรี เพื่อส่งออกจะมีอยู่ 2 พันธุ์ คือ พันธุ์พวงมณีและพันธุ์ชะนี
ซึ่งราคาขายทุเรียนในช่วงนี้ ทุเรียนพันธุ์พวงมณี มี 3 เกรด คือ 3A ราคาขายส่ง กิโลกรัมละ 120-125 บาท นำมาขายส่งออก กิโลกรัมละ 135- 140 บาท 2A ราคาขายส่ง กิโลกรัมละ 70-80 บาทขายส่งออก กิโลกรัมละ 95-120 บาท และ 1A ราคาขายส่ง กิโลกรัมละ 50 บาท ขายส่งออก กิโลกรัมละ 55-60 บาท
ส่วนทุเรียนพันธุ์ชะนี มี 2 เกรด คือ เกรด A รับมาจากพ่อค้าคนกลางที่ตลาดจันทบุรี เกรด A รับมา กิโลกรัมละ 50-55 ขายส่ง กิโลกรัมละ 55-70 บาท เกรด B ราคาขายส่งจากพ่อค้าคนกลาง กิโลกรัมละ 35-40บาท ขายส่ง กิโลกรัมละ 55-60 บาท ซึ่งผู้บริโภคชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ จะเลือกซื้อทุเรียนที่มีน้ำหนักไม่เกิน 4 กิโลกรัม เนื่องจากจะมีรสชาติกำลังพอดีไม่หวานจนเกินไปและเนื้อทุเรียนจะอ่อนกรอบๆ
ส่วนทุเรียนพันธุ์เหมา ซาน หว่อง ขณะนี้ยังไม่ออกผลผลิต ซึ่งขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 400-500 บาท ซึ่งเป็นที่นิยมบริโภคของชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ และในช่วงเดือนสิงหาคม ผลผลิตทุเรียนพื้นบ้านของ อ.เบตง จะออกผลผลิต และทุเรียนพันธุ์เหมา ซาน หว่อง ออกผลผลิตเช่นกัน ซึ่งในช่วงทุเรียนออกผลิต จะมีคณะนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ เหมารถตู้ รถบัสมาซื้อกินถึงสวนทุเรียนของเกษตรกรเลยทีเดียว ซึ่งสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรชาวสวนทุเรียนในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา ได้เป็นอย่างดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี