10 มิ.ย.61 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในซอย อสมท ถนนพระราม 9 ว่า ได้มีชายฉกรรจ์มาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของซอย และเรียกค่าคุ้มครอง หากชาวบ้านจะใช้ซอยดังกล่าวเป็นที่ตั้งในการค้าขาย และวินมอเตอร์ไชด์รับจ้าง โดยมีการเรียกเก็บค่าแผงค้าหรือแผงค้าหน้าบ้านอาคารพาณิชย์ วันละ 600 บาท เรียกเก็บค่าวินมอเตอร์ไชด์รับจ้าง เดือนละ 30,000 บาท โดยไม่มีใบเสร็จใดๆ ให้ทั้งสิ้น หากไม่จ่ายก็จะให้ชายฉกรรจ์มาเดินข่มขู่ไล่ไม่ให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการในบริเวณดังกล่าว อันเป็นการสร้างความเดือดร้อนในยุคข้าวยากหมากแพงนี้เป็นอย่างมาก และไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดเหตุนี้ในพื้นที่ใจกลาง กทม.และอยู่หน้าสำนักข่าวใหญ่ของประเทศ
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ทั้งนี้ พื้นที่ซอยดังกล่าวเป็นซอยหมู่บ้านจัดสรร ซึ่งเอกชนได้ก่อสร้างมากว่า 30 ปีแล้ว และเจ้าของหมู่บ้านก็ได้ให้พ่อค้าแม่ค้า และวินมอเตอร์ไซด์ ใช้ประโยชน์กันเรื่อยมา โดยเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาความสะอาด ค่าเก็บขยะ ค่ากวาดถนน และค่าภาษีที่ต้องจ่ายให้สำนักงานเขตห้วยขวางเท่านั้น ต่อมาได้มีการจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านทวีมิตรขึ้นมา แต่ทว่าเอกชนผู้สร้างหมู่บ้านยังไม่ยอมโอนที่ดินและสิทธิ์ให้ จนนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรทวีมิตรต้องนำความไปฟ้องศาล
ต่อมาศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาเป็นคดีแดงที่ 2282/2558 ลงวันที่ 29 กันยายน 2558 ให้สำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขาห้วยขวาง จดทะเบียนโอนทรัพย์สินที่เป็นสาธารณูปโภค (ถนน ระบบไฟฟ้า ประปา และท่อระบายน้ำ) ให้แก่นิติบุคคล และให้เจ้าของหมู่บ้านจัดสรรกับพวกร่วมกันจัดทำสาธารณูปโภคและบริการสาธารณะให้เป็นไปตามแผนผังโครงการฯ ตาม พ.ร.บ.จัดสรรที่ดิน 2543 ภายใน 60 วัน แต่ทว่าจนบัดนี้กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น ตามคำพิพากษาของศาล แต่กลับมีชายฉกรรจ์อ้างสิทธิเหนือพื้นที่ซอยดังกล่าวมาเรียกค่าคุ้มครองต่อพ่อค้าแม่ค้า และชาววินมอเตอร์ไซด์ในซอยดังกล่าว
นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า กรณีดังกล่าวเข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพล ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่13/2559 เรื่อง การป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดบางประการที่เป็นภยันตรายต่อความสงบเรียบร้อยหรือบ่อนทำลายเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยให้ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง บูรณาการร่วมกัน ซึ่งก่อนหน้านั้นนายกรัฐมนตรีเคยมีคำสั่งที่ 324/2558 ให้ตั้งคณะกรรมการบูรณาการปราบปรามผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นขึ้นมา โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม เป็นประธาน และ ผบ.ตร.ก็ได้ตั้งโต๊ะแถลงว่าได้จัดการกับผู้มีอิทธิพลได้เกือบหมดไปแล้ว แต่กรณีที่เกิดขึ้นในซอย อสมท ถนนพระราม 9 ใจกลางกรุงเทพมหานครนี้ จึงเป็นดัชนีชี้วัดได้ว่าความจริงนั้นคืออะไร
ด้วยเหตุดังกล่าวสมาคมฯ และชาวบ้าน จึงจะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อนายกฯ เพื่อขอให้นายกฯ สั่งการอย่างใดๆ เพื่อปราบผู้มีอิทธิพลกลุ่มนี้ให้หมดไปจากซอย อสมท เสีย และให้เอาผิดทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ที่ปล่อยปละละเลย ปล่อยให้ผู้มีอิทธิพลย่ามใจ มาสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวด้วย โดยจะเดินทางไปยื่นคำร้อง ในวันจันทร์ที่ 11 มิ.ย.61 เวลา 10.30 น.ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน อาคารตึก กพร.เดิม ตรงข้ามประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล ถ.พิษณุโลก กทม.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี