รปภ.โรงพยาบาลบุรีรัมย์  ตะครุบตัวหนุ่มใหญ่ทำทีมาเฝ้าญาติที่ รพ.  พอตกดึกสวมวิญญาณโจรอาศัยช่วงคนนอนหลับ ฉวยโอกาสฉกกระเป๋าเงินสาววัย 17 ปี ที่มานอนเฝ้าตาป่วย  เหยื่อรู้สึกตัวตื่นตกใจกระเป๋าหายรีบแจ้ง รปภ.รวบตัวได้ทันควันหน้า รพ. ก่อนส่ง ตร.ดำเนินคดีตามกฏหมาย คาดก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง

14 มิ.ย.61 ร.ต.อ.ขัตติยะ เพชรกล้า รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ว่า สามารถจับตัวคนร้ายที่ก่อเหตุลักขโมยกระเป๋าเงิน และโทรศัพท์มือถือของญาติ ที่มานอนเฝ้าผู้ป่วยที่ รพ.ไว้ได้  จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง  

เมื่อไปถึงบริเวณป้อมยาม หน้าโรงพยาบาลบุรีรัมย์  ก็พบเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ช่วยกันคุมตัว นายเจริญ หวัดวาปี อายุ 53 ปี ชาวต.บ้านจาน อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ไว้พร้อมของกลางเป็นกระเป๋าสะพายของเหยื่อ ซึ่งภายในมีกระเป๋าสตางค์ พร้อมเงินสดจำนวนหนึ่งโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร  บัตรเอทีเอ็ม ที่ถูกลักขโมยไปแล้วนำไปทิ้งไว้ใต้อาคารตึกเฉลิมพระเกียรติ ภายในโรงพยาบาลบุรีรัมย์ หลังจากนั้นได้ประสาน น.ส.นิสา  ธนากรณ์กิตติสุข อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียหายมาตรวจดูทรัพย์สินที่พบ ก็ยืนยันว่า เป็นของตัวเองทั้งหมด   

ทั้งยังให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า  เมื่อวานนี้ได้มาเฝ้าตาซึ่งป่วยด้วยโรคชรา นอนรักษาอยู่ที่ตึกอายุรกรรมชาย รพ.บุรีรัมย์   โดยช่วงกลางคืนก็นอนพักผ่อนเหมือนกับญาติคนอื่น ซึ่งตนจำได้ว่านายเจริญ คนร้ายทำทีมานอนเฝ้าญาติ และบอกให้ตนเองขยับมานอนใกล้ๆ ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้เอะใจอะไร กระทั่งช่วงประมาณตี 4 ได้รู้สึกตัวตื่น  ก็พบว่า กระเป๋าสะพานถูกลักขโมยไปโดยไม่รู้ตัว และพบว่านายเจริญ ก็หายไปด้วย  จึงรีบไปแจ้ง รปภ.ให้ช่วยติดตามตัวผู้ก่อเหตุ และนำทรัพย์สินกลับมาคืน เพราะแม้จำนวนเงินจะไม่มากแต่ตนเองจำเป็นต้องใช้จ่ายสำหรับมาเฝ้าตาที่ รพ. แต่กลับมาถูกลักขโมยซ้ำเติมแบบนี้

จากการสอบถาม นายเจริญ   เบื้องต้นยังให้การปฏิเสธ ว่า ไม่ได้เป็นคนขโมยกระเป๋าของหญิงสาวคนดังกล่าว   แต่พอเจ้าหน้าที่ถามว่า แล้วมาทำอะไรที่ รพ. นายเจริญ ก็อ้างว่า มาเฝ้าญาติแต่ญาติกลับไปแล้วแต่ตนเองยังไม่กลับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ ประกอบกับจำนนด้วยหลักฐานคือ พบทรัพย์สินของผู้เสียหายอยู่ที่ตัวนายเจริญ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไปที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ เพื่อสอบปากคำและดำเนินคดีตามกฎหมาย  

โดยเบื้องต้นถูกแจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ในสถานที่ราชการยามวิกาล” ทั้งนี้คาดว่า นายเจริญน่าจะมีการก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งหากผู้เสียหายรายใดถูกลักขโมยในลักษณะดังกล่าวก็สามารถมาแจ้งความเพิ่มเติมได้