บุกทลาย3โกดัง

ยึดสินค้าจีนไร้คุณภาพหมื่นชิ้น

แสบอ้างชื่อคนดังโฆษณา

6 ดารารีวิวเมจิกฯพบตร.

'วิระชัย'แย้มมีบางคนผิด

ตำรวจบุกค้น 3 โกดังจับสินค้าไม่ได้คุณภาพจากจีน ยึดกว่า 1.2 หมื่นชิ้น ส่วนใหญ่เกี่ยวกับสุขภาพ-ความงาม อาทิ แผ่นแปะลดความอ้วน ที่นอนยางพารา พัดลม เสาอากาศ เกม พฤติการณ์แสบแอบอ้างคนมีชื่อเสียงทั้งแพทย์–ดารา–พิธีกร

หลอกขายประชาชน สาวลึกพบนายทุนจีนเป็นเจ้าของ เร่งขยายผลจับยกแก๊ง ตั้งข้อหาฉ้อโกง นำเข้าข้อมูลเท็จ ผิดพ.ร.บ.คอมพ์ฯ ขณะที่ 6 ดารารีวิวเมจิกสกิน เข้าให้ปากคำพนง.สอบสวน“วิระชัย”แย้มมีบางคนอาจถูกแจ้งข้อหา แฉมีคนเขียนสคริป์ให้

เมื่อวันที่ 15มิถุนายน ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก. พร้อมพ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.กก.3 บก.ปอท. พ.ต.อ.ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ ผกก.4 ปคบ. ตำรวจ บก.ปอท. บก.ปคม บก.ปอศ. นพ.สมิทธิ์ อารยะสกุลหรือหมอโอ๊ค นางปาณิสรา อารยะสกุล หรือโอปอลล์ ดร.ปานระพี รพิพันธุ์ หรือเอิ้น ร่วมแถลงผลสืบสวนจับกุมสินค้าไม่ได้คุณภาพจากประเทศจีน โดยแอบอ้างบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น นายแพทย์ ดารา พิธีกร เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในตัวสินค้าที่โฆษณา ทำให้มีประชาชนหลงเชื่อสั่งซื้อสินค้าที่ไม่มีมาตรฐาน และไม่มีคุณภาพ

พล.ต.ต.ชาญเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายคือ นายกสิณพจน์ ศรีเหรานุกุล หรือนายสุเทพ สีใส สั่งซื้อเสาทีวีจากเฟซบุ๊ก ซึ่งอ้างว่าสามารถรับชมได้ถึง 5,000 ช่อง โดยการโฆษณาขายสินค้ามีการแอบอ้างนำคลิปวิดีโอของนางปานระพี ระพิพันธุ์ ผู้ประกาศข่าวและพิธีกรรายการดังมาตัดต่อใส่ในบัญชีเฟซบุ๊กที่ทำการโฆษณา ทำให้นายสุเทพ สีใส หลงเชื่อสั่งซื้อสินค้า เมื่อได้รับสินค้าปรากฏว่าไม่สามารถรับชมช่องทีวีได้ตามที่โฆษณา จึงติดต่อสอบถามไปที่นางปานระพี แต่นางปานระพี ไม่ทราบเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด ผู้เสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

รอง ผบช.ก.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ มีการแอบอ้างทำนองเดียวกันกับกรณีของหมอโอ๊ค -โอปอล์ เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา แพทย์ รพ.กรุงเทพ ซึ่งมีการนำภาพไปตัดต่อแอบอ้างชื่อขายสินค้าลดความอ้วนประเภทแผ่นแปะลดน้ำหนักผ่านเว็บไซต์ www.mqqkv.com/zailai https://www.leekeekulit.com/thxha ฯลฯ โดยลักษณะการส่งสินค้าใช้บริการขนส่งบริษัทเอกชนเคอรี่ (kerry) เป็นตัวกลางจัดส่ง และเก็บเงินปลายทาง โดยเส้นทางการเงินเป็นเส้นทางที่ถูกโอนเข้าบัญชีเดิม ซ้ำๆ ตำรวจจึงต้องเรียกบริษัท เคอรี่มาสอบปากคำว่า มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับขบวนการหรือไม่ นอกจากนั้น ขบวนการนี้เมื่อลูกค้าไม่พอใจกับสินค้าที่สั่งไป สามารถส่งคืนสินค้าได้ โดยขบวนการหลอกลวงแจ้งว่า จะนำสินค้าใหม่มาเปลี่ยนให้ แต่ก็หายเงียบไป ถือว่าเป็นการหลอกลวงประชาชนเช่นกัน

ด้านพ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่า มีเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับขบวนการหลอกลวงดังกล่าว 3 จุด จึงขอหมายค้นต่อศาลอาญาเข้าตรวจค้น ได้แก่ ที่แรกโกดัง W3 บริษัท ไทคอน โลจิสติคส์ พาร์ค จำกัด (TPARK) เลขที่ 173/19 หมู่ 9 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เป็นสถานที่เก็บสินค้า ตรวจค้นพบ แผ่นแปะลดความอ้วน 636 กล่อง เสาอากาศ 144 ชิ้น เครื่องวีดีโอเกม 187 หน่วย และ เครื่องหนีบผม 10 หน่วย จุดที่สองโกดัง เลขที่289 ถ.เลียบคลองลำกอไผ่ ถนนฉลองกรุง แขวงปลาทิว เขต ลาดกระบัง กทม. เป็นสถานที่ตรวจคืนพัสดุ ตรวจค้นพบ เสาอากาศ 388 กล่อง แผ่นแปะลดความอ้วน Slim Patch 6,480 กล่อง แผ่นแปะลดน้ำหนัก 2,830 ซอง ของเล่น Iron Man 394 ชิ้น ของเล่น Rock Crawler 58 ชิ้น พัดลม Miracle Fan 72 ชิ้น เครื่องเป่าผม 300 ชิ้น และกีตาร์ 440 ตัว และจุดสุดท้าย บริษัท เชินถง เอ็กซ์เพรส (ไทยแลนด์) จำกัด เลขที่ 20,22 ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. เป็นสถานที่บริการ หลังการขาย ตรวจค้นพบ หมอนยางพารา 135 ใบ แบะ ที่นอนยางพารา 23 ชิ้น รวมสินค้าที่ตรวจยึดได้ทั้งหมด 12,047 ชิ้น ขณะที่ขบวนการดังกล่าวได้ปิดเพจขายสินค้าหนี

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์กล่าวต่อว่า เบื้องต้นจากการสอบสวน พนักงานเฝ้าโกดังแจ้งว่า ไม่ทราบว่าสินค้าที่ขายไม่ได้คุณภาพ เนื่องจากมีหน้าที่เฝ้าโกดังเท่านั้น สอบสวนเบื้องต้นทราบตัวกลุ่มผู้ทำผิดแล้ว เป็นกลุ่มนายทุนชาวจีน โดยมีนายทุนชาวไทยเกี่ยวข้อง ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนหาหลักฐานให้ชัดเจน จึงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดใดๆได้

ขณะที่ดร.ปานระพีกล่าวว่า ตอนแรกมีคนแจ้งมาทางเพจว่า มีคนเข้ามาถามคำถามเกี่ยวกับเสาอากาศ และร้องเรียนว่าเสาอากาศที่ซื้อไปไม่สามารถใช้งานได้ตามที่โฆษณา นอกจากนั้น ยังมีคนมาเตือนว่าถูกแอบอ้างเอารูปไปใช้ ตนจึงเข้าไปดู และเห็นว่าเป็นการโฆษณา วีดิโอ เกี่ยวกับ เสาอากาศ สามารถรับชมได้ 5,000 ช่องทั่วโลก และเป็นวีดิโอที่ตนกำลังพูดถึง ทีวีดิจิตอลไทย ไม่ใช่การโฆษณา ตนจึงเริ่มรู้ตัว และเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที

ส่วนนพ.สมิทธิ์หรือหมอโอ๊คกล่าวว่า เป็นห่วงประชาชน เนื่องจากสินค้าบางอย่างเป็นสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพ จึงอยากเตือนผู้ที่ประกอบธุรกิจให้มีวิจารณญาณในการขายสินค้า ตรวจสอบว่าสินค้าที่ขายมาได้คุณภาพและปลอดภัยหรือไม่

น.ส.ปาณิสราหรือโอปอลล์กล่าวเสริมว่า ฝากถึงผู้เสียหายทุกคน อย่านิ่งนอนใจ เราต้องลุกขึ้นมาแสดงจุดยืนของตนเองว่าเราไม่เกี่ยวข้อง ให้มาแจ้งความ เพื่อดำเนินการกับผู้ทำผิด นี่เป็นเพียงการเริ่มต้น ขบวนการนี้เป็นเหมือนอาชญากรในอากาศ และวันนี้ตนเห็นแล้วว่า ตำรวจสามารถเอาผิดกับคนทำผิดได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิด ข้อหาฉ้อโกงประชาชน นำเข้าข้อมูลเท็จโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จำหน่ายสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม นำเข้าสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม ขายสินค้าที่ควบคุมสลากโดยไม่มีสลาก เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดสินค้าของกลางดังกล่าวทั้งหมด และจะขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้องที่ร่วมขบวนการทั้งหมด

อีกด้านหนึ่ง มีความคืบหน้าการสอบปากคำดารานักแสดง ที่เกี่ยวข้องกับการโฆษณาสินค้าเครื่องสำอางในเครือบริษัท เมจิกสกิน จำกัด วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) น.ส.อุษามณี หรือขวัญ ไวทยานนท์ นายศรัณย์ หรือพอร์ช ศิริลักษณ์ น.ส.สาวิกาหรือพิ้งกี้ ไชยเดช น.ส.วรัทยา หรือจุ๋ย นิลคูหา, น.ส.มารีญา พลูเลิศลาภ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2560 และน.ส.วริฏฐิสา ลิ้มธรรมมหิศรหรือปริยฉัตร ดารา นักแสดง รวม 6 คน เข้าให้ปากคำพล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ตามหมายเรียกพนักงานสอบสวน กรณีเป็นพรีเซ็นเตอร์รีวิวสินค้าในเครือบริษัทเมจิกสกิน ซึ่งผลิตและจำหน่ายอาหารเสริมไม่ได้คุณภาพ ปลอมเครื่องหมายสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกดารา นักแสดงทั้งหมด 59 คน มาพบพนักงานสอบสวนแล้ว 46 คน ยังเหลือ 13 คนจะมาพบวันต่อไป คาดว่าจะสอบปากคำให้เสร็จภายในสัปดาห์หน้า จากนั้นจะนำผลสอบปากคำมาพิจารณาว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาอะไรบ้าง ยอมรับว่าอาจมีดารานักแสดงบางคนมีความผิด อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลที่ได้รับจากนักแสดง ดาราสอดคล้องกับข้อมูลของตำรวจ โดยเฉพาะกรณีมีคนเขียนสคริปให้ดารานักแสดง เรื่องนี้ต้องขยายผลต่อไป

โดยน.ส.สาวิกาหรือพิ้งกี้กล่าวว่า เริ่มรับงานรีวิวสินค้าประมาณปลายเดือนสิงหาคม 2560 เป็นอาหารเสริมชิโนบิ ได้ค่าตัวรีวิวสินค้า 5 หมื่นบาทต่อครั้ง ซึ่งตนลงรูปรีวิวเพียงครั้งเดียว ก่อนลงรูปรีวิวได้ทดลองใช้สินค้าและรู้สึกว่าใช้ดี หรืออาจเป็นเพราะอุปทานไปเอง ประกอบกับเป็นคนที่ดูแลตัวเองอยู่แล้ว

น.ส.วรัทยาหรือจุ๋ยกล่าวว่า ไม่เคยนิ่งนอนใจหลังทราบข่าวรู้สึกเสียใจ ที่ผ่านมาทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตมาตลอด ไม่อยากให้มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีก จากนี้ทุกคนทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน ให้ความรู้กับประชาชนให้มากขึ้น และจากนี้จะใช้ช่องทางสื่อของตัวเอง ให้ความรู้กับประชาชน

ขณะที่ดารานักแสดงคนอื่นๆ ต่างยืนยันในลักษณะเดียวกันว่า การรับงานจะมีเอเจนซี่มาติดต่อกับผู้จัดการส่วนตัว รวมทั้งมีการตรวจสอบสินค้าเบื้องต้นจากการดูเครื่องหมาย อย.ข้างกล่องผลิตภัณฑ์แล้ว หลังจากนี้จะระมัดระวังตัวมากขึ้น รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น