กอ.รมน.แฉ‘ซานูซี’

มีประวัติป่วนใต้มาแล้วหลายหน

ค้นบ้านยึดของกลางได้อีก

ตร.เร่งตามจับพวกร่วมแก๊ง

กอ.รมน.ภาค 4 แถลงจับผู้ต้องหาขนไปป์บอมบ์-อุปกรณ์ต่อระเบิด 41 ลูก พบประวัติร่วมก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ ขยายผลค้นบ้านพบวัตถุต้องสงสัยใช้ประกอบระเบิดอีกเพียบแม่ทัพภาค 4 สั่งเร่งขยายผลล่าผู้ร่วมแก๊ง ด้าน ผบช.ภ.9 แถลงผลตรวจของกลางที่ยึดได้ เคยใช้ก่อเหตุตั้งแต่ปี 2559 รู้ตัวคนร้ายแล้ว4 เร่งล่าอีก 3 ราย

เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภ.4ส่วนหน้า) แถลงถึงกรณีตำรวจทางหลวง เรียกตรวจรถยนต์ต้องสงสัยอีซูซุ ดีแม๊ก สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บท 2788 ปัตตานีที่อ.ตากใบ จ.นราธิวาส พบในรถมีระเบิดแสวงเครื่อง และอุปกรณ์ประกอบระเบิด 7 รายการคือ ระเบิดแสวงเครื่องแบบขว้าง 40 ลูก วงจรวิทยุสื่อสาร 2 กล่อง ชุดวงจรตั้งเวลา 5นาที 36กล่อง ชุดวงจรตั้งเวลา 10นาที 1กล่อง ชุดวงจรตั้งเวลา 30 นาที 2 กล่อง ระเบิดแสวงเครื่องแบบท่อเหล็ก 1 ลูก ควบคุมตัวนายซานูซี ยาแต อายุ 36 ปี ชาวอ.ระแงะ จ.นราธิวาสไว้ได้ ยังหลบหนีอีก 1 คนคือ นายอับดุลอาซิ สามะ อายุ 21 ปี ชาวอ.ตากใบ จ.นราธิวาส ตามที่เสนอข่าว

โดยพ.อ.ปราโมทย์กล่าวว่า จากกรณีเหตุการณ์ดังกล่าว เห็นได้ว่าคนร้ายยังพยายามสร้างสถานการณ์ หวังสร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำลายเศรษฐกิจ และความสงบสุขในพื้นที่ ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 4 สั่งการให้หน่วยรวบรวมวัตถุพยานสอบสวนขยายผลหาตัวผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว พร้อมย้ำให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัติด้วยการตั้งจุดตรวจ จุดสกัดให้มากขึ้น เพื่อสกัดกั้นความพยายามก่อเหตุให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพฤติกรรมนายซานูซี ยาแต คนร้ายพบมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุสำคัญ ในพื้นที่มาแล้วหลายครั้ง เช่น เหตุร่วมโจมตีฐาน ร้อย ร.15121 (ฐานพระองค์ดำ) เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2554 การเข้ายึดโรงพยาบาลเจาะไอร้อง เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2559 และอีกหลายคดี นอกจากนี้ ยังเคยถูกจับกุมดำเนินคดีข้อหาครอบครองอาวุธปืน พ้นโทษออกมา เมื่อปี 2558 ส่วนนายอับดุลอาซิ สามะ ที่หนีไปได้นั้น เจ้าหน้าที่กำลังติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี

พ.อ.ปราโมทย์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังขยายผลตรวจค้นบ้านพักของนายซานูซี ตรวจพบวัตถุต้องสงสัย เพื่อใช้ในการประกอบระเบิด 7 รายการ และตรวจค้นบ้านพักของนายอับดุลอาซิ แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย สำหรับรถยนต์ที่ใช้ขนระเบิดนั้น ทราบว่าเป็นรถของนายอุษมา ยาแต น้องชายนายซานูซี ที่ถูกควบคุมตัวกรณีมีส่วนร่วมเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตี เจ้าหน้าที่ ร้อย ร.15121 เมื่อปี 2554 และศาลตัดสินจำคุก ตลอดชีวิต

ด้านพ.อ.ธนาวีร์ สุวรรณรัตน์ รองโฆษก กอ.รมน.ภ.4 ส่วนหน้ากล่าวถึงกรณีคนร้ายลอบวางระเบิดตู้ ATM ของธนาคารใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจ.สงขลา เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า การสืบสวนสอบสวนจนถึงขณะนี้มีความคืบหน้า กรณีเหตุระเบิดตู้ ATM ในจ.ปัตตานี 10 จุด ปัจจุบันศาลจังหวัดปัตตานีอนุมัติหมายจับ ป.วิอาญา 10 หมาย จับกุมผู้ทำผิดได้ 8 คน ได้แก่ นายมูฮำมัด แวอุเซ็ง นายซูไฮมี มะแซ นายอาแว หะยีเด็ง นายอับดุลรอนิง เปาะลี นายอิสดิน สะอิ นายนุริดิน เจ๊ะอุเซ็ง นายอิสมาแอล อาแซ และนายมะยูโซะ มะแซ ซึ่งใน 8 คนให้การยอมรับสารภาพว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี 4 คน ส่วนอีก 4 คน ให้การภาคเสธ แต่สารภาพว่าเคยเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงโดยก่อเหตุอื่นในพื้นที่จ.ปัตตานี ทั้งนี้ อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน เพื่อขออนุมัติศาลจังหวัดปัตตานี ออกหมายจับอีก 4 คน ควบคุมตัวตามพ.ร.ก. เพิ่ม 1 คน รวมทั้งสิ้นทราบตัวผู้ทำผิดแล้ว 14 คน และจับกุมได้แล้ว 9 คน ยังหลบหนี อีก 5คน

พ.อ.ธนาวีร์กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา ตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานีร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 43 นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนตามคำให้การยอมรับสารภาพ ในที่ก่อเหตุ 14 จุด เริ่มตั้งแต่สถานที่วางแผน ที่ฝึกสอนระเบิด ที่รับระเบิด และที่ก่อเหตุ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมวัตถุพยาน ภาพจากกล้องวงจรปิด คำให้การของพยาน และหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำตัวคนทำผิดมาลงโทษ

วันเดียวกัน พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 แถลงข่าวที่สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส กรณีด.ต.เอนก เต็มพร้อม ผบ.หมู่ ส.ทล.5 กก.7 บก.ทล.และพวกรวม 3 นายตรวจยึดระเบิดไปป์บอมบ์ 41 ลูก พร้อมอุปกรณ์วงจรจุดชนวนระเบิดได้จำนวนหนึ่งว่า เจ้าหน้าที่รู้ตัวกลุ่มคนร้ายที่ร่วมขนย้ายวัตถุระเบิดครั้งนี้แล้วมีทั้งหมด 4 คน รวมถึงตัวนายซานูซี ยาแต ที่ถูกจับ จากการตรวจสอบของกลาง ระเบิดไปป์บอมบ์ที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดมาได้เบื้องต้น พบคนร้ายเคยนำมาใช้ก่อเหตุแล้ว 83 ลูก ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ระเบิด ทำงาน 60 ลูก ไม่ทำงาน 23 ลูก ตั้งแต่ปี 2559 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 รายเป็นอ.บาเจาะ และอ.จะแนะ คนร้ายเสียชีวิต 2 ราย ใช้ก่อเหตุอ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา

ขณะที่พล.ต.สมพล ปานกุล ผบ.ฉก.นราธิวาสกล่าวถึงกรณีคนร้ายเมื่อก่อเหตุแล้วหลบหนีไปซ่อนตัวในประเทศเพื่อนบ้านว่า ตนจะปรึกษากับแม่ทัพภาค 4 เพื่อวางมาตรการประมวลพื้นที่ริมพรมแดนเป็นช่วงๆว่า สมควรต้องพิจารณาให้ประชาชนงดข้ามแดนไปมาหาสู่กัน เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งอาจป้องกันไม่ให้กลุ่มคนร้ายนำวัตถุระเบิดหรืออุปกรณ์และสารตั้งต้นข้ามมาในพื้นที่ฝั่งไทยต่อไป โดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวกับเจ้าหน้าที่ประเทศเพื่อนบ้านเจรจา คาดว่าจะได้รับความร่วมมือ