เล็งสร้างอ่างฯ‘ห้วยแม่ละเมา’
กรมชลพัฒนาแหล่งน้ำต้นทุน
รองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษตาก
ศึกษา3จุดทั่ว‘ลุ่มน้ำแม่ละเมา’
นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้ดำเนินการการศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำต้นทุนให้เขตเศรษฐกิจพิเศษตากที่มีความต้องการใช้น้ำเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยมีแผนดำเนินโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดกลางในลุ่มน้ำแม่ละเมาซึ่งเป็นสาขาใหญ่ของแม่น้ำเมยเบื้องต้นจำนวน 3 แห่งคือ โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ละเมาตอนกลาง-บ้านใหม่พัฒนา โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยอุ้มเปี้ยมตอนบน และโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยแม่กึ๊ดหลวงตอนบน ซึ่งจะสามารถเก็บน้ำได้รวมกันมากกว่า 170 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) เป็นปริมาณน้ำประมาณครึ่งหนึ่งของปริมาณน้ำที่ไหลผ่านลำห้วยแม่ละเมา คือ 314 ล้านลบ.ม.ต่อปี
ทั้งนี้การพัฒนาแหล่งน้ำทั้ง 3 แห่งดังกล่าว จะสร้างความมั่นคงเรื่องน้ำให้กับเขตเศรษฐกิจพิเศษตาก ครอบคลุมพื้นที่ อ.แม่สอด อ.แม่ระมาด และ อ.พบพระ โดยเฉพาะโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ละเมาตอนกลาง-บ้านใหม่พัฒนา ซึ่งเป็นอ่างขนาดกลางมีความจุถึง 85 ล้าน ลบ.ม. เมื่อก่อสร้างเสร็จจะเป็นแหล่งน้ำต้นทุนที่สำคัญ สำหรับเขตเศรษฐกิจพิเศษตากอย่างมาก เพราะจะทำให้มีน้ำต้นทุนพอเพียงสำหรับที่จะโรยน้ำ ให้กับเขื่อนทดน้ำโกกโก่ เพื่อส่งให้กับพื้นที่การเกษตรในเขตชลประทานได้อีกกว่า 50,000 ไร่ และยังจะทำให้มีน้ำเพียงพอที่จะส่งให้กับภาคอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวในพื้นที่ิีอีกด้วย
“เกษตรกรและประชาชนในพื้นที่เห็นด้วยที่จะให้ก่อสร้าง อ่างเก็บน้ำห้วยแม่ละเมาตอนกลาง-บ้านใหม่พัฒนา ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสมและวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะเสนอต่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) พิจารณาเห็นชอบในหลักการก่อนที่จะสำรวจและออกแบบ และนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติภายในปี 2562 คาดว่าประมาณปี 2563 จะสามารถ เริ่มดำเนินการก่อสร้าง โดยใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 3 ปีจึงจะแล้วเสร็จ” รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าว
รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวต่อว่า ภาคเกษตรกรรมของทั้ง 3 อำเภอมีแนวโน้มขยายตัวขึ้นเนื่องจากเป็นนิคมสหกรณ์ผลิตข้าวโพด รองจากจังหวัดเพชรบูรณ์ และยังมีการผลิตเมล็ดพันธุ์ส่งขาย นอกจากนี้ ภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรมมีการขยายตัวต่อเนื่อง เฉพาะพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมาที่ อ.แม่สอด ซึ่งมีมูลค่าการค้าขายหลายหมื่นล้านบาทต่อปี พบว่าความต้องการใช้น้ำจะเพิ่มขึ้นจากปีละ 14 ล้านลบ.ม. เป็น 21 ล้านลบ.ม.ในอีก 2 ปีข้างหน้า และภายใน 10 ปี จะเพิ่มเป็น 38 ล้านลบ.ม.
ดังนั้นหากอ่างฯห้วยแม่ละเมาสร้างเสร็จ นอกจากมีน้ำมาเสริมพื้นที่เกษตรแล้ว สิ่งสำคัญคือ จะทำให้มีน้ำสำหรับการอุปโภค-บริโภค รองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษของ อ.แม่สอด ได้อย่างพอเพียง เนื่องจากมีแผนสร้างโรงสูบน้ำบริเวณหน้าเขื่อนทดน้ำโกกโก่เพื่อส่งน้ำดิบลงไปผลิตประปาใน เขตอำเภอแม่สอด พร้อมกับสร้างสถานีสูบน้ำที่ฝายท่าวังผา บริเวณปลายแม่น้ำเมยแล้วดึงน้ำไปใช้ได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งจะเป็นการใช้ประโยชน์น้ำลำห้วยแม่ละเมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพของลุ่มน้ำ
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่รอการสร้างอ่างฯห้วยแม่ละเมา กรมชลประทานกำลังดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยแม่สอดตอนบนซึ่งจะสร้างเสร็จภายในปีนี้ สามารถเก็บน้ำได้ 13 ล้านลบ.ม. น่าจะเพียงพอสำหรับการสร้างความมั่นคงในเรื่องน้ำให้กับ อ.แม่สอดได้ในระยะหนึ่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี