“บิ๊กฉัตร” ใส่เกียร์เดินหน้าก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญ 9 โครงการในปี 2562 ยึดตาม Area Based เพิ่มพื้นที่รับประโยชน์ 8.4 แสนไร่ แก้ไขน้ำท่วม-ภัยแล้งถาวร
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญ ภายใต้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางเร่งรัดโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญให้เป็นไปตามมติ กนช. ที่ต้องการขับเคลื่อนโครงการสำคัญให้ได้จนถึงขั้นตอนการก่อสร้าง ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดพื้นที่การแก้ไขอุทกภัยและภัยแล้งอย่างเป็นระบบ (Area Based) 66 พื้นที่ รวม 29.70 ล้านไร่ พบว่า มีโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญที่สามารถแก้ปัญหาในพื้นที่ซึ่งเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (ปี 2561 - 2580) รวมทั้งสิ้นกว่า 300 โครงการ โดยในช่วงปี 2562 - 2565 มีโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญจำนวน 31 โครงการ แบ่งเป็นภาคเหนือ 4 โครงการ ภาคกลาง 13 โครงการ ภาคอีสาน 10 โครงการ ภาคตะวันออก 2 โครงการ และภาคใต้ จำนวน 2 โครงการ
สำหรับในปี 2562 รัฐบาลจะเริ่มขับเคลื่อนให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมจำนวน 9 โครงการ เมื่อโครงการแล้วเสร็จสามารถเพิ่มปริมาณน้ำได้ 379 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 840,201 ไร่ ได้แก่ 1.โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.นครศรีธรรมราช 2.โครงการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยหลวงตอนล่างจ.หนองคาย 3.โครงการประตูระบายน้ำศรีสองรัก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เลย 4.โครงการประตูระบายน้ำน้ำพุง-น้ำก่ำ จ.สกลนคร 5.โครงการประตูระบายน้ำบ้านก่อ จ.สกลนคร 6.โครงการอ่างเก็บน้ำลำน้ำชี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ชัยภูมิ 7.โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองชัยภูมิ (ระยะที่ 1) จ.ชัยภูมิ 8.โครงการอ่างเก็บน้ำลำสะพุงตอนล่าง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ชัยภูมิ และ 9. โครงการคลองระบายน้ำ บางบาล-บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา
ทั้งนี้ในการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญครั้งนี้ สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์น้ำที่ได้กำหนดเป้าหมายเป็น 3 ระยะ คือ ระยะแรกเป็นระยะเร่งด่วนปี2558-59 โดยพัฒนาโครงการขนาดเล็กที่ทำได้ทันที เช่น แก้มลิง สระน้ำในไร่นา การเพิ่มความจุอ่างเก็บน้ำเดิม พร้อมศึกษาเตรียมความพร้อมโครงการขนาดใหญ่ โครงการสำคัญที่มีผลกระทบ ระยะที่2เป็นระยะสั้นปี 2560-61 เริ่มพัฒนาโครงการขนาดกลาง และทำแผนแม่บทพัฒนาลุ่มน้ำทั้งระบบ เช่น แผนบรรเทาอุทกภัยเจ้าพระยา การศึกษาพื้นที่ Area Based การก่อสร้างอ่างฯ 4 แห่ง ใน จ.จันทบุรี เพื่อรองรับการเติบโตของภาคตะวันออก อ่างเก็บน้ำป่าละอู อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ประจวบคีรีขันธ์ อ่างเก็บน้ำน้ำปี้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.พะเยา
“ระยะที่ 3 เป็นระยะกลางปี 2562-2565 เพื่อพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ โครงการสำคัญ โดยเร่งทำความเข้าใจกับชุมชน ควบคู่กับการสำรวจออกแบบโครงการอย่างรอบคอบ เช่น คลองระบายน้ำหลากบางไทร - บางบาล ดังนั้น เพื่อรับฟังปัญหาอุปสรรคและหาแนวทางแก้ไขร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ผมจะลงพื้นที่ติดตามโครงการที่เริ่มก่อสร้างไปแล้วบางส่วน โดยจะเริ่มติดตามโครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทรเป็นแห่งแรก และจะลงติดตามทุกเดือนตามความเหมาะสมต่อไป”พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี