จับคนขับรถเสี่ยอ้วน
รับจ้าง1แสน-พาหนี
เผย‘ปมสังหาร’ใหม่
กู้ซื้อบ้านแล้วไม่ผ่อน
ตำรวจตามรวบ “บอล” ทีมฆ่าหนุ่มสาว ที่เขาชีจรรย์ สารภาพ “เสี่ยอ้วน” จ้าง 1 แสน ให้ขับรถพาหลบหนี เผยประเด็นสังหารส่วนหนึ่งเป็นเรื่องยืมเงินกู้ไปซื้อบ้าน แล้วไม่ยอมผ่อนให้ด้านคดี“น้องหญิง”ตกเทรลเลอร์ดับ “อ๊อฟ”ปฎิเสธข้อหาเจตนาฆ่า ขณะที่ญาติเตรียมแห่ศพร้องขอความเป็นธรรม
ความคืบหน้าคดีคนร้ายบุกยิง น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือน้องสปาย อายุ 20 ปี กับ นายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือฟอส อายุ 21 ปี เสียชีวิต เบื้องหน้าองค์พระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ หมู่ 6 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ต่อมา ศาลจังหวัดพัทยาอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 3 ราย ได้แก่ นายสายันต์ ศรีสุข อายุ 43 ปี,นายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน อายุ 39 ปี เจ้าของสถานบันเทิงใน จ.ภูเก็ต ที่มาติดพัน น.ส.ปวีณา และนายจิรศักดิ์ อุนัยบัน อายุ 34 ปี ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน,พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 1 รายคือ นายสายันต์
ขณะเดียวกัน พบข้อมูลว่า เสี่ยอ้วนได้หลบหนีออกชายแดน โดยใช้รถยนต์ฮอนด้าCRV สีขาว ทะเบียน กล-9444 ภูเก็ต โดยพบสัญญาณจีพีเอส ในพื้นที่ จ.สระแก้ว และรถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ ทะเบียน บท-3631 ภูเก็ต ซึ่งได้เกิดเหตุเสียหลักตกข้างทางถนนสาย 359 เขาหินซ้อน-สระแก้ว บริเวณด้านหลัง อบจ.สระแก้ว ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น
บุกรวบลูกน้องเสี่ยอ้วนกลางดึก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเวลา 23.00 น. วันที่ 2 สิงหาคม เจ้าหน้าที่ชุดสืบจังหวัดสระแก้ว, สืบภาค 2 และตำรวจภูธร จ.สระแก้ว ร่วมกับเจ้าหน้าที่ร้อย รส.มว.ที่1 มทบ.19 ประมาณ 50 นาย เข้าปิดล้อมจับกุม นายเกียรติศักดิ์ หรือบอล สุรางแสงมีบุญ อายุ 35 ปี ลูกน้องคนสนิทของเสี่ยอ้วน และเป็นหนึ่งในทีมฆ่าน้องสปายและน้องฟอส ก่อนนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.เขาฉกรรจ์ ถึงเวลา 03.00 น.วันที่ 2 กรกฎาคม และนำตัวไปที่ บก.ภ.จว.ชลบุรี เพื่อสืบสวนขยายผลต่อไป
เปิดปมฆ่าใหม่กู้เงินซื้อบ้าน
เบื้องต้น นายบอล ปฎิเสธว่าไม่ได้เป็นคนยิง 2 หนุ่มสาว เป็นแค่คนขับรถ หลังรถตกข้างทางมีญาติมารับไปบ้านแม่ ชื่อ นางซัน ไม่ทราบนามสกุล ที่เป็นสวนปาล์ม คลอง 13 บ้านโคกยาง ในเขต ต.เขาฉกรรจ์ อ.เขาฉกรรจ์ และกบดานอยู่ประมาณ 7 ชม. ก็ถูกจับกุมดังกล่าว อย่างไรก็ตาม นายบอล ยอมรับว่า ได้พาเสี่ยอ้วนหลบหนีจริง โดยเสี่ยอ้วนได้ให้เงิน 1 แสนบาทด้วย เเละมาพักนอนอยู่ที่บ้านของตน 1 คืน แต่ตอนนี้เสี่ยอ้วนได้ออกจากบ้านหลังนี้ไปแล้ว ส่วนปืนที่ก่อเหตุได้นำไปทิ้งในพงหญ้าข้างทาง พร้อมกันนี้ ยังได้ให้ข้อมูลด้วยว่า ประเด็นการสั่งยิงส่วนหนึ่งเป็นเรื่องยืมเงินกู้ไปซื้อบ้าน แล้วไม่ยอมผ่อนให้
ตรวจลายนิ้วมือแฝงในรถ2คัน
ช่วงเช้าวันที่ 2 สิงหาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดทำงานคลี่คลายคดียิง 2 ศพที่เขาชีจรรย์ ได้นำรถยนต์เก๋งฮอนด้า ซีอาร์วี สีขาว ทะบียน กล 9444 ภูเก็ต ที่ตรวจยึดได้ที่บ้านพักหลังหนึ่งใน จ.สุรินทร์ และรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บท 3631 ภูเก็ต ที่จอดไว้ในป่าหญ้าข้างทางในเขต จ.สระแก้ว มาไว้ที่ สภ.นาจอมเทียน มาตรวจสอบและพิสูจน์ลายนิ้วมือแฝงภายในรถทั้ง 2 คัน
นางวันเพ็ญ นาเมืองรักษ์ แม่ของน้องสปาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า น้องสปาย เป็นคนเลี้ยงง่าย ไม่ดื้อ ไม่ซน ไม่เคยประพฤติตัวเสียหาย ครอบครัวหวังให้ได้เรียนสูงๆ จบปริญญา ส่วนเสี่ยอ้วนมักจะพูดอยู่เสมอว่ารักน้องสปาย ก็อยากจะถามว่ารักแล้วทำไมต้องฆ่ากันอย่างโหดเหี้ยมขนาดนี้
น้องสกายเฮี้ยนวนเวียนรอบบ้าน
นางวันเพ็ญ เล่าว่า ตั้งแต่ไปรับร่างของน้องสปายกลับมาบ้าน ตลอดระยะเวลาเดินทางจาก สัตหีบ จ.ชลบุรี มาที่ อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ ได้ยินเสียงสะอื้นร้องไห้อยู่เป็นระยะๆ และยังคล้ายกับมีคนมาสวมกอด นอกจากนี้หลังตั้งศพบำเพ็ญกุศลช่วงกลางดึกยังได้ยินเสียงสะอื้นไม่หยุด จึงตัดสินใจเคาะโลงศพบอกลูกให้เข้มแข็ง อย่าร้องไห้ เสียงนั้นจึงเงียบไป ขณะที่น้องชายและลูกหลานหลายคน บอกว่าได้เห็นภาพใบหน้าของสปายชุ่มไปด้วยเลือดเดินวนเวียนอยู่รอบบ้าน ซึ่งเชื่อว่าวิญญาณยังคงอาฆาตแค้นที่ถูกฆ่า
ช่วงเย็นวันเดียวกัน ครอบครัวของน้องสปายได้จัดพิธีฌาปนกิจ ที่เมรุ วัดป่านาตาล ต.นาตาล อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นวัดเดียวกันกับที่ทำพิธีฌาปนกิจศพ น้องฟอส ไปเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา
“อ๊อฟ”ปฏิเสธข้อหาฆ่า“น้องหญิง”
ทางด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้ากรณี น.ส.นรีกานต์ ยาวิราช หรือ น้องหญิง อายุ 19 ปี ที่ตกรถเทรลเลอร์เสียชีวิตปริศนาในพื้นที่บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า หลังพนักงานสอบสวนเข้าสอบปากคำและแจ้งข้อหาเจตนาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนากับนายสุรพลหรืออ๊อฟ ดาราคำ คนขับรถเทรลเลอร์ ในเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปรากฏว่า นายอ๊อฟ ให้การปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนไปสอบปากคำแพทย์ผู้รักษาน้องหญิงก่อนจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เพื่อตามหากางเกงชั้นใน หนึ่งในหลักฐานสำคัญ ที่ยังหาไม่พบ โดยให้เจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐานให้เสร็จก่อนฝากขังครั้งที่ 2
ส่วนกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ทนายความ ออกมาอ้างว่าฝั่งผู้ต้องหาติดสินบนเจ้าหน้าที่ 300,000 บาทในการวิ่งเต้นคดีนั้น ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ชัยยะ เพ็ชรปัญญา รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว
“เจน-รุ้ง”เข้าให้ข้อมูลมัดแก๊งโหด
วันเดียวกัน ที่ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์(บก.ปคม.) พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ ผบช.บช.ก. ได้สอบปากคำ น.ส.เจน และ น.ส.รุ้ง พยานปากสำคัญที่เคยออกมาระบุก่อนหน้านี้ว่า เคยถูกล่อลวงไปล่วงละเมิดทางเพศ เช่นเดียวกับน้องหญิง ที่เสียชีวิตอย่างปริศนา หลังจากเดินทางกลับจากไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งใน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเบื้องต้นทั้งสองคนเป็นพยานปากสำคัญในคดีนี้และยังเป็นผู้เสียหายอีกด้วย โดยประเด็นที่จะสอบปากคำ จะต้องดูว่าลักษณะพฤติการณ์ข่มขู่ ล่อลวง บังคับ หรือ เป็นการสมยอมหรือไม่ และดูองค์ประกอบอื่นๆ ว่าเข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่ ซึ่งจะพยายามสาวไปให้ถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มค้ามนุษย์ให้ได้
ชมรมเหยื่อฯแฉพยานโดนข่มขู่แล้ว
ขณะที่ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกแถลงการณ์ให้เจ้าหน้าที่ทำคดีการเสียชีวิตของน้องหญิงอย่างตรงไปตรงมา โดยมีข้อเรียกร้อง อาทิ ต้องการให้กองปราบปรามและคณะทำงานชุดสืบสวนสอบสวนที่เป็นกลางเป็นผู้ทำคดี โดยให้โอนคดีมาที่ส่วนกลาง และขอให้ ผกก.สภ.บางปะอินและกลุ่มพนักงานสอบสวน รวม 3 คน มีคำสั่งย้าย ไปประจำที่ ศปก.จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่ 30 กรกฎาคม ไม่มีสิทธิที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวในคดีเพราะถูกตั้งกรรมการสอบอยู่, มีการข่มขู่พยานสำคัญของชมรมฯ เป็นต้น รวมทั้งและจะมีการเคลื่อนศพน้องหญิงมาร้องขอความเป็นธรรม ที่หน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ในวันที่ 3 สิงหาคม เวลา 10.00 น.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี