9 ส.ค.61 ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนตกเพิ่มขึ้น และฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ส่วนในช่วงวันที่ 10 - 14 ส.ค.61 ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านประเทศเมียนมา และประเทศเวียดนามตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางพื้นที่
คาดการณ์ว่า จะมีพายุดีเปรสชั่นเคลื่อนจากเกาะไหหลำ ในวันที่ 14 ส.ค.61 ผ่านตอนเหนือของเวียดนาม ผ่านประเทศลาว ในวันที่ 15 ส.ค.61 และอาจพาดผ่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในวันที่ 16 ส.ค.61 และเข้าประเทศเมียนมา ในวันที่ 17 ส.ค.61 ซึ่งจะทำให้มรสุมกำลังแรงขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันตกของไทย ติดกับประเทศเมียนมา ตั้งแต่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน , อ.แม่สอด อ.พบพระ จ.ตาก จ.กาญจนบุรี จ.ราชบุรี จ.เพชรบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ระนอง (จะมีความชื้น-ฝนมาก จากทะเลอันดามัน) ทำให้มีฝนตกในพื้นที่ดังกล่าวอย่างต่อเนื่องไปถึง 17 ส.ค.61
ลุ่มน้ำเพชรบุรี ยังคงมีปริมาณน้ำหลากไหลอย่างต่อเนื่องลงเขื่อนแก่งกระจาน น้ำไหลล้นทางระบายน้ำล้นลงสู่แม่น้ำเพชรบุรี ทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่งบริเวณ อ.ท่ายาง
แม่น้ำสายสำคัญ : แม่น้ำสายสำคัญในประเทศมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นเนื่องจากปริมาณฝนที่ตกเพิ่มขึ้น
แม่น้ำระหว่างประเทศ : แม่น้ำโขง ระดับน้ำลดลงปัจจุบันระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง
สถานการณ์ฝน
24 ชั่วโมงที่ผ่านมา (05.00 น.) ประเทศไทยยังคงมีฝนตกปานกลางถึงหนักในบางพื้นที่ของภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันตก ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ โดยมีฝนตกตกหนัก ภาคเหนือ ลำปาง 41.8 มิลลิเมตร น่าน 41.5 มิลลิเมตร เชียงราย 41.0 มิลลิเมตร ภาคตะวันออก ตราด 86.4 มิลลิเมตร ปราจีนบุรี 38.2 มิลลิเมตร ระยอง 35.2 มิลลิเมตร ภาคใต้ สุราษฎร์ธานี 145.5 มิลลิเมตร พังงา 137.0 มิลลิเมตร ชุมพร 50.6 ระนอง 45.0 มิลลิเมตร
วันนี้ประเทศไทยมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง 31 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน ตาก กำแพงเพชร สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ราชบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา โดยอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำเอ่อล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่มได้
สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีระดับเกินเกณฑ์ควบคุม (Upper Rule Curve) และปริมาณน้ำเกินร้อยละ 80 ของความจุ มีจำนวน 4 แห่ง ดังนี้
เขื่อนแก่งกระจาน สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำ ปริมาณน้ำ 737 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 104% ปริมาณน้ำไหลเข้า 20.83 ล้าน ลบ.ม./วัน ปริมาณน้ำระบายออกรวม 18.20 ล้าน ลบ.ม.น้ำล้นทางระบายน้ำ (Spillway) สูง 60 ซม.
สภาพน้ำในพื้นที่ท้ายน้ำ ยังอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง ระดับน้ำท้ายเขื่อน (05.00 น.) ที่สถานี B.3A อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ระดับน้ำ 3.66 ม. ระดับตลิ่ง 4.40 ม. แต่ยังต่ำกว่าระดับตลิ่ง 0.76 ม. ปริมาณน้ำไหลผ่าน 183.70 ลบ.ม./วินาที อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำที่ล้นทางระบายน้ำที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลกระทบให้มีน้ำท่วมพื้นที่ริมสองฝั่งลำน้ำในบริเวณอำเภอแก่งกระจาน อำเภอท่ายาง อำเภอบ้านลาด อำเภอเมือง และอำเภอบ้านแหลม ก่อนที่จะไหลลงทะเลต่อไป
การบริหารจัดการน้ำ มีการพร่องระบายน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีล่วงหน้า และตัดยอดน้ำผ่านระบบชลประทาน รวมถึงการพร่องน้ำจากอ่างเก็บน้ำโดยกาลักน้ำ/เครื่องสูบน้ำ ทำให้ระดับน้ำที่อำเภอเมืองเพชรบุรี มีระดับขึ้นช้าลง ต่ำกว่าตลิ่ง 0.55 ม. แต่ยังต้องเฝ้าระวัง ทั้งนี้ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำในจุดเสี่ยงที่อาจจะมีน้ำเอ่อเข้าท่วมพื้นที่และชุมชน จำนวน 31 เครื่อง (สำรอง 5 เครื่อง) ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำในจุดที่มีการระบายน้ำได้ช้า จำนวน 38 เครื่อง (สำรอง 8 เครื่อง) เตรียมพร้อมยานพาหนะและเครื่องจักรกล เช่น รถขุดตัก จำนวน 20 คัน ประจำในพื้นที่เพื่อขุดเปิดทางน้ำ
การแจ้งเตือนและการช่วยเหลือ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติได้ออกประกาศฉบับที่ 2/2561 (6 ส.ค.61) เรื่องสถานการณ์แม่น้ำเพชรบุรี
เขื่อนน้ำอูน สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำ ปริมาณน้ำ 534 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 103% ปริมาณน้ำไหลเข้า 4.84 ล้าน ลบ.ม.มีปริมาณน้ำไหลออก 4.84 ล้าน ลบ.ม.สภาพน้ำในพื้นที่ท้ายน้ำ ยังคงปกติ คาดว่าจะไม่มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากไม่มีน้ำล้นตลิ่ง การบริหารจัดการน้ำ ควบคุมการระบายน้ำออกจากเขื่อน 3.50 ล้าน ลบ.ม.และเพิ่มการระบายน้ำโดยวิธีกาลักน้ำและเครื่องสูบน้ำอีก 0.60 ล้าน ลบ.ม.การแจ้งเตือนและการช่วยเหลือ มีการแจ้งและให้ติดตามสถานการณ์น้ำในจังหวัดสกลนคร บึงกาฬ นครพนม ซึ่งลำน้ำอูนและลำน้ำสงคราม ไหลผ่าน
เขื่อนวชิราลงกรณ สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำ มีปริมาณน้ำ 7,519 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 85% ปริมาณน้ำไหลเข้า 68.80 ล้าน ลบ.ม.มีปริมาณน้ำไหลออก 41.26 ล้าน ลบ.ม.ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สภาพน้ำในพื้นที่ท้ายน้ำ ปริมาณน้ำที่ระบายเพิ่มไม่ล้นตลิ่ง แต่อาจส่งผลกระทบต่อบริเวณรีสอร์ท ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควน้อย การบริหารจัดการน้ำ เพิ่มการระบายน้ำเป็น 43 ล้าน ลบ.ม./วัน ตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2561 การแจ้งเตือนและการช่วยเหลือ มีการแจ้งให้พื้นที่ท้ายเขื่อนตามลำน้ำแควน้อยให้ทราบถึงแผนการระบายน้ำของอ่างเก็บน้ำ
เขื่อนปราณบุรี สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำ มีปริมาณน้ำ 319 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 82% ปริมาณน้ำไหลเข้า 14.95 ล้าน ลบ.ม.มีปริมาณน้ำไหลออก 9.48 ล้าน ลบ.ม.สภาพน้ำในพื้นที่ท้ายน้ำ ระดับน้ำในแม่น้ำปราณบุรีจะมีระดับค่อยๆสูงขึ้น ทั้งนี้ต้องเฝ้าระวังระดับน้ำจากอัตราการระบายที่เพิ่มขึ้น การบริหารจัดการน้ำ เพิ่มการระบายน้ำจนถึง 100 ลบ.ม./วินาที
สถานการณ์น้ำในแม่น้ำ/ลำน้ำ
แม่น้ำสายสำคัญ ระดับน้ำในแม่น้ำสายสำคัญ ลำน้ำสายหลักในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากฝนที่ตกหนักในช่วงที่ผ่านมาบริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างที่ยังคงมีปริมาณฝนน้อยต่อเนื่องโดยเฉพาะแม่น้ำมูลตอนบนมีระดับน้ำน้อย สำหรับภาคกลางมีระดับปานกลางถึงน้ำมาก และภาคใต้มีระดับปานกลางถึงน้ำมาก ปัจจุบันมีน้ำล้นตลิ่งเล็กน้อยบริเวณ อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี อ.เมือง จ.ยโสธร อ.กะเปอร์ จ.ระนอง อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี อ.เซกา จ.บึงกาฬ
แม่น้ำระหว่างประเทศ แม่น้ำโขง ปริมาณน้ำในแม่น้ำที่ไหลจากประเทศจีนยังคงที่ แต่ยังมีมวลน้ำจากประเทศลาวไหลลงแม่น้ำโขง ปัจจุบันระดับน้ำบริเวณจังหวัดหนองคาย จังหวัดนครพนม จังหวัดมุกดาหาร และจังหวัดอุบลราชธานี ระดับน้ำ ลดลงต่ำกว่าตลิ่ง
การติดตามสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดใหญ่
อ่างฯ ขนาดใหญ่+กลาง : ปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่มี 49,687 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 70 ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง มี 3,087 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 60 รับน้ำได้อีก 23,270 ล้าน ลบ.ม.
น้ำไหลเข้าอ่างฯ (14 ก.ค. - 8 ส.ค.61) มีน้ำไหลเข้าอ่างฯ ขนาดใหญ่ รวมทั้งประเทศ 10,761 ล้าน ลบ.ม.แยกเป็น ภาคเหนือ 3,412 ล้าน ลบ.ม. , ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1,601 ล้าน ลบ.ม. , ภาคกลาง 248 ล้าน ลบ.ม. , ภาคตะวันตก 4,047 ล้าน ลบ.ม. , ภาคตะวันออก 178 ล้าน ลบ.ม.และภาคใต้ 1,275 ล้าน ลบ.ม.
อ่างฯ ที่ความจุเกิน 100% ขนาดใหญ่ 2 แห่ง อ่างเก็บน้ำน้ำอูน (103%) เขื่อนแก่งกระจาน (104%) ขนาดกลาง 17 แห่ง (ลดลง 1 แห่ง) ซึ่งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 15 แห่ง (ลดลง 1 แห่ง) และภาคตะวันออก 2 แห่ง (เท่าเดิม)
อ่างเฝ้าระวัง (80 - 100%) ขนาดใหญ่ 3 แห่ง เขื่อนศรีนครินทร์ (87%) เขื่อนวชิราลงกรณ (85%) เขื่อนปราณบุรี (82%) ขนาดกลาง 61 แห่ง (ลดลง 4 แห่ง) แยกเป็น ภาคเหนือ 5 แห่ง (ลดลง 2 แห่ง) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 43 แห่ง (ลดลง 6 แห่ง) ภาคตะวันออก 7 แห่ง (เพิ่มขึ้น 1 แห่ง ) ภาคกลาง 2 แห่ง (เพิ่มขึ้น 1 แห่ง) และภาคใต้ 4 แห่ง (เพิ่มขึ้น 2 แห่ง)
- พื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงน้ำท่วม : ริมแม่น้ำโขง ตั้งแต่ จ.เลย หนองคาย นครพนม มุกดาหาร อุบลราชธานี
- พื้นที่เฝ้าระวังจากการเร่งระบายน้ำ : อ่างฯขนาดใหญ่ที่มีระดับน้ำสูงกว่าเกณฑ์ควบคุม 8 แห่ง และอ่างฯที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 80% โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ต้องเฝ้าระวัง เขื่อนแก่งกระจาน เขื่อนวชิราลงกรณ และเขื่อนน้ำอูน
- ให้หน่วยงานเกี่ยวข้องจัดทำแผนการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำที่มีระดับน้ำสูงกว่าเกณฑ์ควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์
- จัดทำมาตรการเตรียมความพร้อมลดความเสี่ยงอุทกภัย : กรณีการระบายน้ำฉุกเฉินของอ่างเก็บน้ำและกรณีเขื่อนวิกฤติ สำรวจความแข็งแรงของเขื่อน และสร้างการรับรู้ภาคประชาชนต่อเนื่อง
- สทนช.ตั้งศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ จาก 9 หน่วยงานร่วมปฏิบัติงานตลอด 24 ชม. ณ อาคาร SWOC กรมชลประทาน สามเสน ตั้งแต่ 3 ส.ค.61
- ประกาศศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤต
ฉบับที่ 1 (5 ส.ค.61) ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์และเฝ้าระวังป้องกันน้ำเอ่อล้นตลิ่ง และแจ้งเตือนประชาชน จากระดับน้ำแม่น้ำเพชรบุรีมีแนวโน้มสูงขึ้นเนื่องจากจะมีน้ำล้นทางระบายน้ำล้นเขื่อนแก่งกระจานไหลลงแม่น้ำเพชรบุรี ส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
ฉบับที่ 2 (6 ส.ค.61) ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วยกรมชลประทาน จังหวัดเพชรบุรี และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมเผชิญเหตุและแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อยู่บริเวณแม่น้ำเพชรบุรีเตรียมรับสถานการณ์ และเฝ้าระวังระดับน้ำแม่น้ำเพชรบุรีไหลเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ในระยะต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี